สวัสดีครับคุณ dang-bailey

ไม่ได้เจอกันเสียนาน  เห็นว่าช่วงนี้กิจการดี ขายของได้ดี  ก็ดีใจด้วยครับ

มีอาจารย์เคยตอบไว้ในกระทู้เก่า เลยเอามาแปะให้อ่านกัน อาจารย์ท่านนั้นน่าจะเป็นท่านอสินะตันตระนะ

นอกเรื่องนิดนึง... ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอท่านอสินะตันตระเลย  คิดถึงจัง รักษาสุขภาพด้วยนะครับฝนตกบ่อยๆ ด้วย  ด้วยความเคารพครับ

ท่านว่า.....

หัวใจของตันตระเทวาลัยที่หลายๆท่านมักลืมกันไป ก็คือ การอ้อนวอนวิงวอนขอเมตตา  จากองค์เทพ ไม่ใช่สำเร็จ จากการมาดูดวง  หลังจากนั้นจึงช่วยตนเองด้วยการเสียเวลาเดินทางมากราบไหว้ ปฏิบัติสมาธิถวายองค์เทพ และสวดบวงสรวงเทพนพเคราะห์ที่เสวยอายุ   หรือหากต้องการเร่งรัดก็อาจขอทำพิธีสังเวยด้วยสิ่งของมงคลผ่านทางพิธี  มหาอัคนียบูชา  

ส่วนการแก้ไขชื่อ  สกุล  และเลขโทรศัพท์ เป็นการช่วยตนเองเท่าที่มนุษย์พึงช่วยตนเองให้หลุดพ้นได้ บางคนดีใจที่มีทางออกที่จะได้แก้ไขชีวิต ก็ยินดีปฏิบัติ  บางท่านก็มองว่า อาจารย์ได้ทำให้เขาเหล่านั้นเกิดภาระที่ยุ่งยาก ไม่อยากแก้เอกสาร ไม่อยากเปลี่ยนเบอร์ที่ใช้มานาน เลขสวยมากรักมาก และอื่นๆ

นั่นสิ  แล้วเขาเหล่านั้นจะแก้ไขชีวิตได้อย่างไรโดยไม่เปลี่ยนอะไรเลย  มีอะไรในโลกนี้หรือที่เปลี่ยนไปโดยไม่เปลี่ยนแปลง?

อีกตอนหนึ่งท่านว่า...

คำถามยอดฮิตอีกอัน  "ทำแล้วเมื่อไหร่จะได้...ทำแล้วไม่เห็นดีเลย"  ผมว่าการขอพรเทพให้ช่วยกระทำการแก้สิ่งบกพร่องในความที่ตัวเราเป็นตัวเรานี้มัน จะเร็วเหมือนสั่งพิซซ่ามาเชียวเหรอ  ผมจะอึ้งกับแง่คิดแบบนี้ขึ้นมาทุกทีที่ได้ยิน...

จงจำไว้ว่าทุกสิ่งที่คุณประสบอยู่ในชีวิตอยู่นั้น  มันเป็นของๆ คุณเองมิมีใครนำมาให้  คุณเกิดมาเป็นแบบนั้น ด้วยรหัสที่ลิขิตคุณมาตั้งแต่เกิด......หากคุณอยากจะเปลี่ยนหรือหนีมันให้ได้  โชคร้ายครับ  มันไม่มีใส่ หบีห่อขายในร้านทั่วไป

โดยสรุป การเปลี่ยนชื่อเหมือนกับเปลี่ยนรหัสชีวิตให้ดีขึ้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรรมดี หรือกรรมชั่วที่ทำไปเลย

เขาว่า ผลจากการเปลี่ยนชื่อบางทีก็ต้องใช้เวลานานถึง 5 ปี จึงจะเห็นผล  อ่านทบทวนอีกทีถ้าเกิดความท้อแท้นะครับ

ขอบคุณครับที่คิดถึง และส่งความปราถนาดีมาให้  ผมเองก็ไม่ได้เห็นแก้มยุ้ยยิ้มแฉ่งของคุณนานแล้วเหมือนกัน

.....

อ่านแล้วก็อึ้งนะ ที่จำรายละเอียดของสิ่งที่ผมเขียนและโพสมาได้เป็นประโยคแบบนี้ นี่ให้ผมหาเองผมยังหาไม่เจอเลยละครับ  อยากมาเพิ่มเติมแนวคิดอีกนิดว่า โดยส่วนมากคนที่เปลี่ยนชื่อนั้นมักจะเป็นคนที่มีจุดที่ไม่ชอบในชีวิตตนเองอยู่ถูกมั้ยครับ  ฉะนั้นกรรมดีและกรรมชั่วที่เรียกบุญและบาปนั้น   บุคคลที่ประสงค์เปลี่ยนชื่ออยากหนีให้พ้นกรรม(คือสิ่งไม่ดี) ให้พ้น  คือ  เข้าใจง่ายๆ ว่าอยากจะให้เจ้ากรรมนายเวรหาเจอยากขึ้น  แต่  ขณะเดียวกันจะให้ส่วนดีคือบุญหาเราเจอด้วยนี่  เป็นแนวคิดที่ลำบากพอดูนะครับ   แต่คนส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบนี้คือเอาด้านดีอย่างเดียวด้านร้ายไม่เอา  แต่ก็เกิดขึ้นได้ครับหากทวยเทพเมตตา

สำหรับผม ผมเปลี่ยนชื่อ ผมพร้อมเริ่มใหม่ทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว คือทั้งบุญและบาป พร้อมที่จะเปลี่ยนตนเองเริ่มชีวิตใหม่เพราะเหตุว่าการจะได้มีโอกาสเปลี่ยนตนเองในขณะที่เกิดมาเป็นตัวเป็นตนเป็นรูปธรรมแล้วไม่ใช่มีโอกาสกันง่าย ๆ หากมีโอกาสทำได้บวกกับผมไม่ชอบชีวิตเดิม  ผมก็จะรักในชื่อนามสกุลใหม่และก้าวเดินครั้งใหม่ให้ถูก  

และโดยส่วนตัวผมนะคิดว่าคนเรามักจะมีกรรมมากกว่าบุญครับ  ไม่งั้นคงไม่ทุกข์ใจกับแบบนี้

จริงมั้ยครับ

อย่างนี้เราต้องขอพรทวยเทพ  ให้ท่านเมตตาเรา การเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล จะได้หนีกรรม รับบุญกันอย่างปลอดโปร่ง ปลอดภัย

ขอทวยเทพคุ้มครอง และเมตตา ทุกท่านด้วยนะครับ

ใช่ครับ ชื่อใหม่ของพวกเราเปลี่ยนตามบัญชาขององค์เทพ (ไม่ใช่เปลี่ยนตามใจอาจารย์นะ)

และบอกตัวเองเสมอๆ ว่าเราชื่อๆ นี้แล้ว   แม้นว่าใครเรียกผิดก็บอกให้เขาเรียกชื่อใหม่ของเราซะด้วย

เปลี่ยนชื่อเป็นชื่อใหม่ให้หมด.. บัญชีธนาคาร, ชื่อเจ้าของโทรศัพท์มือถือ, ชื่อที่เพื่อนๆ เรียก, อีเมล ฯลฯ

เวลาทำบุญ หรือเสริมบารมีก็บอกชื่อใหม่ บอกให้หมดว่าคือเรา

ขอทวยเทพคุ้มครอง และเมตตาทุกท่านครับ