มีทั้งขาว ดำ น้ำเงิน และ แดง

อ่าว

งงใหญ่เลยคราวนี้

อุ๊บสส ขอโทดครับท่าน

แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าจะอยู่สีไหน????ดีล๊ะคะถ้าในกรณีที่เป็นลูกศิษย์

จริงด้วย... เราจะทราบได้อย่างไรคะ  สงสัยอยู่เหมือนกัน???!!!..

ไม่ว่าจะเป็นสีไหน ..แต่ศรัทธามาก ๆ เลยค่ะ ^^

เวรกรรมแจงๆ  นิใครลากเจ้า Key Holder มาตีก้นหน่อยได้มั้ย นี่!!! จะตอบให้คนเค้างง เพิ่มมากขึ้นทำมายยยย ฮึ เจ้านี่่

เอาหละ  เอาหละ  สีขาว ดำ น้ำเงิน แดง ที่ กล่าวกัน เป็นเรื่องเฉพาะตันตริกครับ หากเป็นลูกศิษย์ไม่ต้องไปสนใจมันเลยผมรับรองว่ามันไม่มีผลอันใดต่อลูกศิษย์ทุก ๆ คนเลยครับ

สีต่างๆ ที่กล่าวมานั้น เป็นการแบ่งกลุ่มการเรียนภายในตันตริกครับ  จะรู้ได้ไงว่าใครสีไหน?  หากเป็นตันตริกจะรู้แน่นอนตั้งแต่่เริ่มเป็นเลยครับ ..เอาเป็นว่าผมตอบแค่นี้นะครับ

* ได้ยินคนบางคน(แม่หมอ)เขาพูดแล้วรู้สึกว่าเขาจะไม่เข้าใจเรื่องสีขาว เขาเข้าใจว่าสายขาวคือไม่ใช้ไสย......จึงบริสุดสอาดทำกับอาจารย์ทางนี้แล้วดีกว่า ทางอาจารย์ที่อยู่สายดำ(กลายเป็นยูโดไปซะเลย+55555555) และเขาจะนับเฉพาะประคำที่มีขั้นสุดเท่านั้นที่จะทำด้วย จึงอยากรู้เรื่องสายแต่ละสีอะ

* ถ้าจะอธิบายเคร่าๆได้ก็ดีนะ คนอื่นจะได้เข้าใจในบางเรื่องเอาแบบบางๆๆพอเข้าใจก็ได้นะ

*ไม่ได้ไปที่ตันตระหลายวันแล้วคิดถึง...............................................................................................................................................................จบ

เออ .. คุณ moontra เป็นตันตริก(หมายถึง นักเรียนที่เรียนในตันตระเทวาลัย) หรือป่าวครับ  หากเป็นคุณย่อมรู้แน่ว่า ใครคือสุดหล่อ อสินะตันตระ  เชิญมาพบผมได้เลยครับ เดี๋ยวอธิบายให้เพราะที่กล่าวมามันไม่เกี่ยวอะไรกับสีที่ผมหมายถึงเลยครับ เดี๋ยวจะสอบตกเอานะ

หากไม่ใช่ตันตริก ผมอธิบายให้ไม่ได้เพราะเป็นเรื่องภายในของกลุ่มนักเรียนครับ  .. แต่ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าไม่มีผลใด ๆ แก่ผู้ใดเลยที่ไม่ใช่ตันตริกครับ ไม่มีผลเลยจริง ๆ

ผมไม่ได้เป็นนักเรียนที่ตันตระครับ แต่ผมสงสัยและไม่มีใครให้คำอธิบาย แต่ถ้าคุณ อสินะตันตระ จะกรุณาให้พบก็ดีครับผมยังไม่รู้จักคุณเลยว่าเป็นอาจารย์ท่านไหน

* อย่าพึ่งโกรธหรือโมโหนะ ดูจากที่อธิบายมา...............ชีวิตยังอีกยาวไกล+55555555

*แล้วถ้าผมอยากเป็นนักเรียนตันตริก ที่ตันตระจะต้องทำยังงัยครับ จะมีโอกาสหรือเป่า

asinatantra ลองฟังเพลงนี้ดูนะ Heaven and Earth ของ Kitaro ผมคิดว่าตันตระน่าจะเหมือนเพลงบรรเลงนี้นะลองฟังดูอะ

ทำอย่างไรถึงจะเป็นตันตริก(ผู้ศึกษาตันตระ) ลองติดต่อ เฟิร์น(ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ตันตระเทวาลัยดู) หรือ ติดต่อยายตู่ ( ห้องอัคนี ตันตระเทวาลัยดู ) คนหลังออกจะโหดหรือดุ อยู่ซักหน่อยด้วยภาระกิจเยอะและชรา!! โอกาสมีเสมอครับ หากหนทางเราเหมาะกับคุณและคุณเหมาะกับหนทางที่เราเป็น  มันก็ไปกันได้เองหละครับ .. ครอบครัวนี้เปิดต้อนรับเสมอ

แล้วหากคุณเป็นตันตริกเมื่อไหร่ มาหาผมได้เลย จะอธิบายให้ว่าอะไรคือ  ขาว ดำ น้ำเงิน แดง .. ต้องขออภัยไว้ด้วยที่ดูลึกลับไม่เปิดเผยตัว  ด้วยชราและสุขภาพไม่ค่อยดีเลยมักจะถูกลากไปเก็บเอาไว้ในกรุ ซะมากกว่านะครับ ผมไม่ได้เป็นอาจารย์ท่านใดในตันตระเทวาลัยเพราะผมไม่เอาไหนในเรื่องวิชาไสย อสินะตันตระเป็นตันตริกธรรมดาๆ เฉย ๆ ครับ..

ส่วนเพลงที่คุณแนะนำ ขอบคุณครับ ไพเราะเสมอหละครับสำหรับคุณ Kitaro ตอนที่มาแสดงคอนเสิร์ต ที่กรุงเทพ ก็ดีมากเลยหละครับนึกแล้วก็อยากจะท่องเวลากลับไปดูอีกซักรอบ   ผมเก็บแผ่นซีดีไว้ไม่ได้ฟังนานแล้ว เพราะระยะหลังมาหมกมุนกับ House minimal และ Chill out ซะมากกว่า   เพลงโปรดของคุณ Kitaro ของผมกับเจ้าบ้านจะเป็นเพลง Suratsavadee dance ครับ ..555 คุยเรื่องเพลงละก็ยาวเลยยยยยย

แล้วตันตริจะศึกษาอาไรบ้างครับ ผมอยาดรู้เคร่าๆๆอะครับ คือเป็นคนอยากรู้ และทำมัยเวลาเป็นตันตริแล้วต้องมีฉายาด้วยครับ

อยากได้คำสรรเสริญหรือว่าบูชาไม่แน่ใจครับ

* พระศิวะ

*พระนารายณ์

*พระคเณศวร

*พระแม่กาลี

*พระแม่ลักษหมี

*พระแม่อุมาเทวี

*พระแม่ปารวตี

กัสคิดว่า สงสัยต้องลองไปจองคิวคุยกับอาจารย์ใช่ไหมคับ ว่าแต่กัสก็สงสัยจะคุยกับอาจารย์ท่านไหนดีนะ โฮ่ง โฮ่ง

ขอถามอีกอย่างนะครับสงสัย......การสวดทุกข์ในรักหมายถึงคนที่อกหักหรือครับเท่าที่อ่านกระทู้มาส่วนใหญ่เลยอะ

กัสเคยได้ยินอาจารย์ท่านบอกว่า ไม่เกี่ยวนะ แต่กัสว่าไปถามเองดีกว่า ถ้ากัสได้คำตอบจะมาบอกนะคับ แต่ทำไมคุณ montraไม่ไปถามอาจารย์ข้างในบ้างอะคับ หรือไม่มีเวลาคับ กัสแค่อยู่รู้

พอดีได้ยินคนส่วนใหญ่ที่ไปสวดมาแล้วหูแว้วๆๆๆๆๆได้ยินมา ส่วนใหญ่แฟนทิ้งเลิกกันไม่มีแฟนอกหักบ้างอะไรทำนองนี้อะ เลยสงสัยเล็กน้อยแต่ก็ไม่ค่อยกล้าถามอาจารย์เขาเห็นเขายุ่งๆๆกัน ถ้าจะไปถามเวลาต่อคิวก็สงสารคนที่มีปัยหานั่งรอกันนานๆๆปัญหาเราไม่เร่งด่วนอะไรเลยมาหาถามเอาในกระทู้ดีกว่าไม่รบกวนใครด้วยอะๆๆๆๆๆๆ

ขอโทษที่ต้องขอถามอีกนะครับ เวลานั่งสมาธิแล้วจิตเปิดมีขอดีและเสียอย่างไรครับ เราสามารถควบคุมพลังงานอันนี้ได้หรือไม่ และสามารถนำไปใช้อะไรในการทำสมาธิบ้างครับ ขี้สงสัย อือคือว่าช่วงนี้งานเต็มหัวไม่ว่างไปที่ตันตระเลยอะแต่ก็ยังนึกถึงและคิดถึงอาจารย์ทุกวันนะ คิดถึงกัส ซีซ่า กาเนตด้วนและน้องปลาต้วใหญ่ๆๆๆ มีน้องกบน่าตาประหลาดอีกตัว ที่ชอบจะเข้าไปในห้องสมาธิของอาจารย์ข้างบน

มีคำถามอีกแล้วครับ อยากทราวความหมายของจักรกระทั้งหมดครับ

คำสวดว่า " โอม มณี ปัทเม หุม เป็นหัวใจของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร คือองค์ใดของตันตระครับ

อักกะดัชชารี หมายถึง........

จักรสหัสราร หมายถึง..........

มหายันต์ศรีจักรา หมายถึง................

ศรีจักรา หมายถึง.......................

ดวงตาแห่งสุริยะเทพ หมายถึง...........

วัชระสี่ทิศ  หมายถึง...............มีไว้เพื่อ.........

ถ้าเป็นความลับส่งคำตอบทาง mail มาก็ได้นะครับ.....ถ้าหาเวลาเข้าไปได้ผมคงจะถามอาจารย์เป็นการส่วนตัวจะได้คำอธิบายมากกว่านี้อะ

งุงิ...งุงิ....^______________^

555 มีคนมารับผลส้มอีกแย๊ว......

ผมว่าผลส้มที่คุณ montra กำลังตามหาอยู่  มีอยู่มากมายในกระทู้ "ล้อมวงเล่า" แห่งนี้นะ  .....ค่อยๆ เปิดอ่านลงไปทีละกระทู้ๆ  คุณ montra ก็จะเข้าใจความเป็นตันตระ และตันตริก ตลอดจนพิธีกรรมบางอย่างได้ด้วยตนเอง....

แล้วก็อยากแนะนำให้ทุกท่านลองเปิดอ่านทีละกระทู้ดูนะครับ  น่าสนใจทั้ง เวช และ เวทย์ เลยล่ะ  ใครเปิดอ่านถึงกระทู้แรกสุดก่อนย่อมเข้าใจก่อน  รู้ก่อน และพอก่อนคนอื่น เป็นรางวัลแก่ตนเอง รับรองว่าไม่มีทรัพย์สินใดจะมีค่าเท่ากับการเข้าใจวิชชาตันตระในเบื้องต้นนี้อีกแล้ว

การอยู่เฉยๆ ก็เหมือนยืนอยู่หน้าสวนส้มก็คง  ไม่ได้เห็นเกษตรกร  ไม่รู้จักเกษตรกร  ไม่ได้คุยกัน  ไม่เห็นกระบวนการปลูกส้ม  การดูแลส้ม  การเก็บผลส้ม และไม่ได้ลิ้มรสส้มหวานๆ ชื่นใจ เป็นแน่  ดีใจแทนนะครับที่มีคนอยากค้นหา  อยากรู้  อยากเห็น ในศาสตร์นี้อย่างถูกวิธี มีคนแนะนำครับ

เอาใจช่วยให้ดูกันจนตาแฉะ ปวดตา น้ำตาไหล กันทุกคนนะคร๊าบบบบ 555

ผมขอขอบคุณครับ .คนรับผลส้ม. ผมอ่านหมดแล้วครับแต่บางเรื่องที่ผมสงสัยจะไม่มีนะ ส่วนเรื่องสวดทุกข์ในรักอะสส่วนมากจะเป็นทำนองนั้นแต่ลึกๆแล้วสวดเพื่อ....................ไม่ใช่ว่าพอ อกหักก็มาให้อาจารย์สวดพอ อยากได้.....ก็มาให้อาจารย์สวด ทำมัยไม่คิดว่าตัวเราเองจะทำอะไรให้กับตัวเองได้บ้างเลยกรายเป็นว่าเป็นที่พึ่งไม่ได้พึ่งตัวเอง เป็นต้นอะครับ (ความสงสัยและอยากรู้ของผมเอง)  อาจจะรบกวนเวลาบ้างนะครับ ( =^..^=)

*บางอย่างสิ่งที่เราเห็นเวลาตั้งของทำพิธีกรรม ผมไม่เคยได้ยินและสงสัยเลยว่าอะไร เอามาทำอะไร มีไว้เพื่อทำพิธีอะไร อย่างมีพิธีสมหวังในรักทุกคนก็จะขอความรักกัน พอทำพิธีเสร็จก็จบ......เลย แต่สิ่งที่เราหาแล้วคืออะไร ! ( บางเว๊ปเขาเรียกที่ตันตระกลายเป็นตำหนักพระศิวะไปแล้วอะ )

นั้นสินะ  ..  ถึงได้แจงเสมอ ๆ ว่า เริ่มจากรู้ว่าตนเองเป็นใครและกำลังทำอะไรอยู่  เป็นพื้นฐาน..เมื่อรู้แล้วใครก็เขย่าให้เขยื้อนไปที่ไหนไม่ได้  การแผ่ของรากต้นส้มยังมั่นคงเสมอ

ไม่ว่ายุคใด สมัยใด ชาติภพใด แนวคิดแบบตันตระก็ถูกเรียกกันไปต่างๆ นา ๆ หลากหลายรูปแบบ..คำถามคือ ถูกเรียกว่าอะไรแล้วไง?  ไม่ว่าจะถูกเรียกว่า "ท่าน" หรือ ถูกเรียกว่า "เอ่ง" หรือ คุณ หรือ เธอ หรือ ผม  แล้วมันต่างกันที่ตรงไหน? เพราะความเป็นจริงของคน ๆ นั้นไม่ได้ถูกเปลี่ยนไปแต่อย่างไร  เมื่อใดผมมีโอกาสสอนหนังสือเด็ก ๆ ก็จะสอนตรงจุดนี้เสมอว่าให้เอาหัววางไว้บนคออย่าเอาหน้าวางไว้บนคอ

รู้อะไรเท่าไหร่ เก่งอะไรเท่าไหร่ ทำอะไรได้เท่าไหร่ มันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยหากสิ่งที่รู้และเก่งนั้นนำตนเองไปไม่รอดจากสิ่งที่มนุษย์เป็น .. จุดที่ลึกที่สุดของมนุษย์คือ ความสุขแห่งตน  หากรู้เยอะเก่งเยอะแล้วเอาตัวไม่รอดอย่าเลย ขอให้เป็นผู้ไม่รู้อะไรไม่เก่งอะไรแต่ว่านำตนเองให้สุขได้และนำตนเองให้หลุดจากทุกข์ได้เมื่อเกิด  ก็ถือว่าเป็นสิ่งวิเศษแล้ว

มนุษย์ปกติมักจะชอบที่จะมีความรู้มากกว่าผู้อื่น ชอบที่จะเก่งมากกว่าผู้อื่น เพราะตอบสนองในส่วนลึกของตนเองว่า ดีกว่า  แต่ลึกเข้าไปในความเป็นจริงเข้าไปอีกคือ ทุกผู้ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ทั้งสิ้น มนุษย์ที่อยู่ใต้กรรม ต้องใช้เท้าเดินบนพื้นและยังต้องกินข้าว อยู่ทุกวัน ..อะไรคือความต่าง ระหว่างมนุษย์และมนุษย์ และอะไรคือสิ่งที่มนุษย์ต้องการมากที่สุด 

ความเป็นตันตระนั้นเป็นยากมากและก็เป็นง่ายมากในขณะเดียวกันตามที่เคยแจงว่า..  หากเราเหมาะกับคุณและหากคุณเหมาะกับเรา .. ง่ายๆ แบบนั้น

 ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต็อก ติ๊ก ต็อก..

เวลามันก็เดินของมันไป โดยที่ไม่เคยคอยใครไม่ว่า รู้หรือไม่รู้ เก่งหรือไม่เก่ง หรือโง่เขลาเบาปัญญาเท่าใด ทุกคนเท่าเทียมกันหมด ทุกผู้ย่อมจำเป็นต้องเดินไปถึงจุด ๆ นั้น จุดที่ไม่โอกาสเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกณ จุดนั้นคำถามที่จะถูกถามขึ้นมาว่า  "เอ่งเป็นใคร เอ่งต้องการจะไปไหน แล้วกระทำกรรมอะไรมาบ้าง "  เมื่อนั้นน้ำตาไหลนองหน้าทุกผู้ 

จบ

...................

ที่ผมสงสัยก็เป็นไปตามหลักวิทย์ฯ หาเหตุและผลในต้วตนของแต่ละเหตุ ไม่ใช่ไม่เชื่อและรักในองค์เทพผมรักและเชื่อมั่นในองค์เทพเอามากๆๆ แต่ด้วยเหตุและผลย่อมต้องสงสัยและหาบางอย่างที่อยากรู้ในบางเรื่อง เพราะที่ตันตระมีคำตอบที่ดีๆๆให้ดีเอามากๆๆด้วยมีทั้งเหตุและผลที่ฟังแล้วเข้าใจดีเอามากๆๆแต่อย่าถือโทษโกรธเคีองในบางเรื่องที่ผมถามนะ...............และสุดท้ายนี้ขอขอบคุณอาจารย์หลายๆๆท่านที่ให้คำชี้แนะ

โดน

อีกแล้ว / เช่นกัน

เมื่อวันอังคารพอดีผมเสร็จธุระเร็วเลยได้เข้าไปในตันตระตอนบ่ายสอง ว่าจะเข้าไปหาคุณ asina ขอคำชี้แนะแต่ไม่รู้เป็นท่านใดเดินผ่านหน้าห้องกระจกไม่เห็นเปิดไฟ เห็นแต่น้องเฟินร์อยู่ในห้องหลังโต๊ะจองคิว เลยไม่รู้จะถามใครดีว่า คุณ asina เป็นท่านใดครับ

เคลียด..........จน..........กลุ่ม...........คิดไม่ออก...............แต่ผมมีความสุขในชีวิตครอบครัวที่น่ารักของผมและก็จะไม่เลิกรักและภัคดีต่อองค์เทพ ท่านคงไม่ทิ้งเราไปและคงจะเป็นกำลังและกำลังใจอยู่ห่างๆๆเป็นแน่คงจะไม่ให้ลูกศิดย์คนนี้ต้องลำบากไปเพียงคนเดียวเป็นแน่แท้.......เหนื่อจังๆๆๆๆๆๆๆแต่ก็ยังสู้ต่อไป  วันนี้ผมจะไปขอกำลังใจและรอยยิ้มกับองค์พระศิวะและเหล่าบรรดาท่านอาจารย์ทุกๆๆท่าน