ชิ้นเนื้อก้อนที่ ,  1

จากหัวข้อ – ไหว้พระราหู    81323 ไหว้พระราหู (แคท)

ความเห็นที่ 4 (209371)

ใครกันแน่ที่รู้ไม่จริง ไม่รู้แม้กระทั่งสีประจำของเทวดาพระนพเคราะห์ สีดำจริง ๆ เป็นสีประจำของพระเสาร์ ส่วนพระราหูน่ะสี ม่วง หากไม่ทราบควรศึกษาให้ดีเสียก่อนที่จะมาสอนใคร แล้วการไหว้พระราหูด้วยของดำ 8 อย่าง โดยที่มีเหล้าประกอบด้วย หากรู้ไม่ว่าผิดมหันต์ เพราะตำนานพระราหูคือพระโพธิสัตว์ผู้ซึ่งจะลงมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้า รู้จริงหรือไม่จริงแค่นี้ก็น่าจะพอทราบแล้วนะ เปิดกะลาที่ครอบตัวเองออกเสียบ้างแล้วจะได้รู้ได้เห็นอะไรอีกเยอะ

 ผู้แสดงความคิดเห็น เวรกรรม ( ) วันที่ 28-08-2005 21:22:05

เรามาลองชำแหละ  ข้อความนี้กัน……………

ใครกันแน่ที่รู้ไม่จริง    

 อ่านต่อไปก็จะพบว่า ใคร ? คือผู้ไม่รู้จริง  หรือใครไม่รู้จริงๆว่าตัวเองไม่รู้ ...

ไม่รู้แม้กระทั่งสีประจำของเทวดาพระนพเคราะห์ สีดำจริง ๆ เป็นสีประจำของพระเสาร์ ส่วนพระราหูน่ะสี ม่วง หากไม่ทราบควรศึกษาให้ดีเสียก่อนที่จะมาสอนใคร 

          ต้องถามว่า ไปรู้มาจากไหนล่ะ สำนักพิมพ์ไหนหรือ?  ตำราไหน? คัมภีร์ใด ใครแต่ง?  หรือได้มีโอกาสไปเข้าเฝ้า ทั้ง สองท่านเมื่อไหร่ ?   (  ที่เจ้าบ้านตอบไม่ได้ตอบ แก่คนทั่วไป เจ้าบ้านท่านตอบแก่ผู้ตั้งคำถามนี้  หากคุณหรือใครไม่เชื่อก็ไม่เห็นต้องทำตามนี่นา   เพราะนี่คือ วิธีปฏิบัติของเรา  )

 แล้วการไหว้พระราหูด้วยของดำ 8 อย่าง โดยที่มีเหล้าประกอบด้วย หากรู้ไม่ว่าผิดมหันต์ เพราะตำนานพระราหูคือพระโพธิสัตว์ผู้ซึ่งจะลงมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้า

อันนี้ต้องรอให้ผู้ที่มีโอกาส   สนธนากับ ท่าน ราหู มาชี้แจงล่ะ ไม่ใช่หน้าที่ของมนุษย์  จะมากำหนดบทบาทของ เทพ องค์นั้น องค์นี้ ว่าท่านโปรด หรือไม่โปรด อะไร....เขาบอกตรงไหน? ว่าต้องมีเหล้า ...   อันนี้ถือว่าเป็นการ กล่าวหา ........ ฟ้ารู้ ดินรู้ ในสิ่งที่คุณเขียนนะ..     

รู้จริงหรือไม่จริงแค่นี้ก็น่าจะพอทราบแล้วนะ เปิดกะลาที่ครอบตัวเองออกเสียบ้างแล้วจะได้รู้ได้เห็นอะไรอีกเยอะ

ครับ...พอจะทราบแล้วล่ะครับ   เรื่องนี้ ผู้คนเขาตัดสินกันเองได้ครับ ผมแค่นำชิ้นเนื้อ มาแล่  แผ่ให้ดู .    

ชิ้นเนื้อก้อนที่-2

จากหัวข้อ - ขออนุญาติครับ... 82020 ขออนุญาติครับ... (ดำ)

ความเห็นที่ 2 (209154)

การที่ไม่รับฟัง หรือยอบรับความคิดเห็นที่หลากหลายนั้นถือเป็นการปิดกั้นทางความคิด เพราะการเปิดเว็บก็เพื่อระดมความคิด เพื่อมาชี้แนะแก่ผู้ที่สงสัย มิใช่ต้องเป็นเจ้าของเว็บมาตอบเท่านั้นจึงถูกต้อง แล้วผู้อื่นมาแสดงความเห็นนั้นผิดก็ไม่ถูก คำว่า "งมงาย" ตีความหมายได้หลายแบบ การที่มีคำว่า "งมงาย" ก็ไม่ได้หมายความว่าคำถามนั้น ๆ งมงายก็หาไม่ นอกเสียจากผู้ที่ลบความเห็น หรือตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา มีอคติ หรือตีความหมายผิดเพี้ยนไป คือมิได้ไตร่ตรองว่าเขาต้องการนำเสนอสิ่งใด ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ แบบนี้หรือเรียกได้ว่า "ผู้รู้"

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุโรหิต ( ) วันที่ 28-08-2005 17:42:42

เอาล่ะ...มาชำแหละกันอีก

การที่ไม่รับฟัง หรือยอบรับความคิดเห็นที่หลากหลายนั้นถือเป็นการปิดกั้นทางความคิด เพราะการเปิดเว็บก็เพื่อระดมความคิด เพื่อมาชี้แนะแก่ผู้ที่สงสัย

       เราต้องย้ำว่า  เราไม่ได้เปิดเวบนี้เพื่อ ขอความคิดเห็นจากใครนะครับ.. บ้านของเราจะมีประตูกี่บาน จะมีหน้าต่างกี่ช่อง มันก็เรื่องของพวกเราน่ะครับ   แต่ผลลัพท์ คือ เราแก้ไข  ทุกข์ ให้กับผู้มาเยือนได้  นั่นพอเพียงแล้ว   หากท่านต้องการช่วยเหลือ หรือชี้แนะผู้อื่น ท่านย่อมทำได้ เหมือนกัน   อย่างเช่น แจ้ง สถานที่ติดต่อหรือ เบอร์โทร ไว้ เผื่อใครเขาชอบแนวของท่าน    การที่จะช่วยผู้อื่น  นั่นหมายถึงว่าตัวเองมีดีพอแล้ว จึงมีปัญญาไปแก้ปัญหาให้เขา  หากท่านมีชีวิตที่ดีด้วยความรู้ของท่านก็ทำสิ หรือ ไปทำตัวเองให้ดีแล้วค่อยมาแก้ไขปัญหาให้คนอื่นดีกว่าไหม?

  มิใช่ต้องเป็นเจ้าของเว็บมาตอบเท่านั้นจึงถูกต้อง   แล้วผู้อื่นมาแสดงความเห็นนั้นผิดก็ไม่ถูก

เจ้าของเวบ หรือ เจ้าบ้าน ท่านกรุณามาตอบน่ะ ถูกต้องแล้ว ไม่งั้นเรา คงไปโพสที่  พันทิพย์  หรือ  สนุก หรือ บอร์ดสาธารณะอื่นๆ สิ  หรือหากไม่ต้องการคำตอบจาก  เจ้าบ้าน แล้วเขาเหล่านั้น จะมาทิ้งคำถามไว้  ณ  ที่ แห่งนี้ทำไม  ?  เรื่องบางเรื่อง  ไม่รู้ไม่ต้องพูด น่าจะดีกว่า ทำให้คนที่เขาอยากได้รับความรู้ต้องสับสน   และหากมุมมอง หรือ ภูมิปัญญาทางไสยแบบเดิมๆ มันใช้ได้  ก็ไปหาบุคคลเดิมๆเหล่านั้นสิ   จะมาสนใจเราทำไมกัน   เราก็ไม่สนใจแนวทางของผู้อื่น และก็ไม่เคยเข้าไปวุ่นวายในกิจการของผู้อื่น เช่นกัน   

 คำว่า "งมงาย" ตีความหมายได้หลายแบบ การที่มีคำว่า "งมงาย" ก็ไม่ได้หมายความว่าคำถามนั้น ๆ งมงายก็หาไม่

       คุณ เขียนไปอย่างนี้ แล้วจะมาแก้ตัวทำไม ?  เสียดายที่ผมด่วนลบไปเสียก่อน ไม่เช่นนั้นคงจะเอามา ชำแหละ ประจานแบบนี้  ว่าคุณได้ทำร้ายจิตใจ ของผู้ที่ถามแค่ไหน?  ส่วนหลัก  กาลาสูตร  อะไรนั่น ก็ช่างห่างไกลกับความเข้าใจ ของบุคคลทั่วไป  จะพูดอะไรก็ให้มันกระจ่างและให้ทุกคนเขาเข้าใจได้สิ  เล่นเอาภาษาในรั้ววัดมาคุย  ใครจะเข้าใจ  ? สงสารคนที่เขาใส่บาตรบ้างเถิด..

นอกเสียจากผู้ที่ลบความเห็น หรือตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา มีอคติ หรือตีความหมายผิดเพี้ยนไป คือมิได้ไตร่ตรองว่าเขาต้องการนำเสนอสิ่งใด

       ไม่เห็นต้องตีความอะไรมากมายเลย กับแค่ภาษากำกวม  อย่างงั้น คุณกำลังนำเสนอ  อะไร ? จะบอกผู้ที่ถามว่า การเชื่อแบบต่อๆกันมาเป็นสิ่ง งมงาย?  สิ่งนั้นก็ไม่ใช่ สิ่งโน้น ก็ไม่ดี  ไหนล่ะทางออกหรือบทสรุป?

 ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ แบบนี้หรือเรียกได้ว่า "ผู้รู้"

       ไม่เห็นเกี่ยวกับอารมณ์ เลย ไม่มีใครเขาห้ามคนขี้โมโห ไม่ให้เรียนรู้หรอก .............  

ถึงคุณดำสิ่งที่คุณชำแหละมาให้อ่านก็มีแต่การไปเสียดสีคนอื่นเพิ้มขึ้นมันจะมีประโยชน์อะไร.

มีประโยชน์ อย่างแน่นอนครับ เนื่องจาก การอ่านระหว่างบรรทัด ทำให้มองเห็นชัดเจนว่า เขาเขียนอะไรมา และเราบอกอะไรแก่เขา  สิ่งไหนที่เขากล่าวหาเรา โดยที่ทางเราไม่ได้ตอบหรือแนะนำไปแบบนั้น ซึ่งการอ่านอย่างรวมๆจะทำให้พลาดหรือเข้าใจผิดไปได้  

  ข้าพเจ้าขอถามสาระของกระทู้นนี้หน่อย

            กระทู้นี้เพื่อ แยกชิ้นส่วน ของข้อความที่ก่อให้เกิดการขัดแย้ง หรือ อะไรก็ตาม...เมื่อหยิบออกมาเป็นส่วนๆ  มันก็จะง่ายที่มองเห็นความจริง

 มันทำให้คนใจสูงขึ้นไหม

            แค่ทำให้เห็นอย่างชัดเจน คงไม่ทำให้ใจใครสูงขึ้นหรอกครับ 

นทำให้คุรุพอใจไหม มันทำให้ทวยเทพพอใจไหม

            นี่ผมไปสังหารหมู่นักบวชศาสนาไหนมาหรือ ...? มาถามผมแบบนี้  นี่มันแค่ข้อเขียนเล็กๆน้อยๆ  ไม่ใช่คำตอบเพื่อแก้ไขทุกข์ของใคร ก็แค่  เราไม่ใช่เป้านิ่ง  ใครเข้ามาเพื่อรบกวน ก็จะได้ถูกแยกแยะออกได้ ไม่ดีหรือ?

กระทู้ของคุณไม่มีสาระใดๆที่จะเป็นหนทางแห่งความสุขเลย

            คุณเอง ยังเข้ามาเสนอตนเอง มายกย่องตนเอง มาสั่งสอนผู้อื่นในที่นี้เลย   แล้วยังจะมาใส่ใจในสาระของที่นี่  หรือ หนทางแห่งความสุข ของที่นี่ อีกเพื่ออะไรกัน..?   ส่วนเรื่องสาระของกระทู้นี้ ก็ อย่างที่ตอบไปข้างบนนี้แล้ว

ท่าท่านคิดว่าการแสดงความคิดเห็นของเราผิดละก็ ท่ารก็ลองอธิฐานจิตถามทวยเทพสิว่ากระทู้นี้มีประโยชน์ไปในทางแห่งความสงบสุขไหม

เอาอย่างงั้นเลยเหรอ????  เรื่องมันใหญ่โตขนาดนั้นเหรอ??.......สวัสดีนะ