ReadyPlanet.com


คำสอนดี ๆ จากคุรุ
avatar
เอามาให้อ่าน


หลักการต้องมีจึงเป็นวิชชา ไม่ใช่ไม่มีหลักการมีแต่หลัก*** นะลูกนะ ตันตระเป็นศาสตร์ นะ  ต้องมีหลักการมีจุดยืน มีวัตถุประสงค์


ผู้ตั้งกระทู้ เอามาให้อ่าน โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2006-04-08 08:14:02


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (439125)
avatar
เอามาให้อ่าน
1ตะเกียงมีไฟ ตาเห็นไฟ ใจรู้
2ตะเกียงมีไฟ ตาเห็นไฟ ใจไม่รู้
3ตะเกียงมีไฟ ตาไม่เห็นไฟ ใจรู้
4ตะเกียงมีไฟ ตาไม่เห็นไฟ ใจไม่รู้
ผู้แสดงความคิดเห็น เอามาให้อ่าน วันที่ตอบ 2006-04-08 08:21:52


ความคิดเห็นที่ 2 (439126)
avatar
เอามาให้อ่าน
ตะเกียงน้ำมัน กับ คำสอน
เห็นคนมีทุกข์ใจ ย้อนกลับมามองตัวเอง คิดถึงว่า เวลาคนทุกข์ใจอย่างถึงที่สุด ก้อเหมือนอาการ ตกหลุมรัก " ตาบอดมืดมัว " แยกไม่ออกว่า ดี ว่า ชั่ว โกธร โมโห ในโชคชะตาตัวเอง แต่
หากดำรงตนให้อยู่ในคำสอนได้ เรียกสติตัวเองให้มาอยู่กับตัว ตัดสินปัญหาด้วยสติ ไม่ใช้อารมณ์ ย่อมมองเห็นหนทางเกิด และหนทางแก้ ไม่ตาบอดมืดมัว นั้นหมายถึงตะเกียงยังจุดอยู่ในใจคุณ
ผู้แสดงความคิดเห็น เอามาให้อ่าน วันที่ตอบ 2006-04-08 08:23:20


ความคิดเห็นที่ 3 (439127)
avatar
เอามาให้อ่าน
ได้ยินกันมานาน กับเรื่อง น้ำเต็มถ้วย รินน้ำออกจากถ้วย เทน้ำออกให้หมด...เคยคิดกันไหมว่ามันคืออะไร ตันตระ มักจะรับศิษย์เป็นคนอายุน้อยเพราะ ยังมีที่ว่างในแก้วน้ำอยู่มาก คนมีอายุมากน้ำเต็มแก้วแล้ว คือ มีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว การจะเกิดการเรียนรู้สิ่งใหม่นั้น โดยให้ลืมสิ่งต่าง ๆ นั้นยาก นอกจากจะมาจากความศัทธาอย่างแรงกล้า เท่านั้น คุณคิดว่าเท่าไหร่ถึงแก่เหรอ เอาเป็นว่าถ้าคุณมาเจอคุรุและเริ่มเรียน ตันตระ เมื่อคุณมีเลข 2 อยู่ที่อายุ คุณก้อถือว่าแก่แล้ว...ลองมาตอบคำถามข้างล่างดูว่าคุณเป็นคนประเภทไหน
คำถาม : ถ้าอาจารย์ สอนเรา ในเรื่องหนึ่งตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีเรื่องทุกข์ใจอยู่หนึ่งข้อ < อะไรก้อตาม > คุณถามอาจารย์ถึงวิธีเรียนเพื่อบรรเทาทุกข์นั้น อาจารย์สอนว่าทุกข์มันอยู่ในใจ อย่าเอาใจไปใส่กับมัน มันก้อไม่ทุกข์ คุณจะตอบว่า ก หรือ ข
ก. มีคนที่ทำได้ด้วยเหรอ คนที่ไม่มีใจ เพื่อใส่ใจในทุกข์
ข. ทำอย่างไรถึงจะทำให้ไม่มีใจได้ เพราะตอนนี้ยังทำไม่ได้
คุณเลือกหนึ่งคำตอบขึ้นมา
ผู้แสดงความคิดเห็น เอามาให้อ่าน วันที่ตอบ 2006-04-08 08:33:39


ความคิดเห็นที่ 4 (439128)
avatar
เอามาให้อ่าน
 เอาหละ อย่าโกหก ตัวเองนะ
หากคุณตอบว่า
ก. นั้นหมายถึงคุณน้ำเต็มถ้วย คุณไม่ถูกใจกับคำตอบของอาจารย์ เพราะฟังไม่ถูกใจ ว่ามันจะแก้ทุกข์ได้ที่ตรงไหน คุณทุกข์ใจอยู่นะ น่าจะตอบเป็นวิธี 1 2 3 4 ดีกว่า
ข. นั้นหมายถึงคุณน้ำไม่เต็มถ้วย คุณอาจจะมีความคิดเป็นของตัวเอง หรืออาจจะไม่มี แต่คุณพร้อมที่จะรับเอาวิถี ตันตระเข้าบรรเทาทุข์
ผู้แสดงความคิดเห็น เอามาให้อ่าน วันที่ตอบ 2006-04-08 08:35:34


ความคิดเห็นที่ 5 (439133)
avatar
เอามาให้อ่าน
 คนที่ทุกข์ในใจได้แสดงว่ายังมีใจ ยังรู้ใจ ตนเอง คนที่ไม่รู้ตัวไม่รู้ตน ยังน่าสงสารกว่ามากนัก เหมือนคนป่วยที่ยังรู้ว่าตนเองป่วย ขาดก็เพียงแต่กำลังหาหรือพยายามหาวิธีรักษาหรือแม้แต่กำลังพยายามอยู่กับมันให้ได้หากกรณีไม่มีทางรักษาจริงๆเมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองป่วยหนักใกล้ตายเต็มทนแต่ก็ยังใช้ชีวิตต่อไปด้วยความประมาทไม่สนใจไม่ใส่ใจ คนประเภทหลังนี้ช่างน่าสงสารนัก
ผู้แสดงความคิดเห็น เอามาให้อ่าน วันที่ตอบ 2006-04-08 08:50:30


ความคิดเห็นที่ 6 (439161)
avatar
เอามาให้อ่าน
 คิดได้ หรือ ได้คิด
อยากคิด หรือ ต้องคิด
ไม่อยากคิด หรือ ไม่กล้าคิด
คิดเพราะต้องคิด
คิดด้วยสมองหรือด้วยจิตหรือคิดด้วยอารมณ์
อะไรควรคิดด้วยอะไรควรใช้อะไรคิดอะไรเพื่ออะไร คิดซะก่อนที่จะต้องคิด ทั้งที่ไม่อยากคิด
ผู้แสดงความคิดเห็น เอามาให้อ่าน วันที่ตอบ 2006-04-08 10:01:24


ความคิดเห็นที่ 7 (439178)
avatar
เอามาให้อ่าน
การที่เราจะรู้ว่า เราเป็นใคร และทำอะไรอยู่ นั้น มันต้องมาจากการยอมรับความจริงในตัวเองก่อน รู้ทั้งข้อดี และข้อเสีย ของตัวเราเองก่อน ถึงจะเริ่มพิจารณา หาหนทางแก้ไขข้อเสีย หรือเพิ่มข้อดี
หากแม้ แต่ตัวเองยังยอมรับความจริงของตัวเองไม่ได้ ก้ออย่าหวังจะพัฒนา ด้านอื่นให้ดีขึ้นได้ เหตุเพราะจิตใจตัวเอง ยังชนะไม่ได้ แล้วจะไปชนะ จิตใจคนอื่น หรือ กรรมเวร โชคชะตา ได้
ผู้แสดงความคิดเห็น เอามาให้อ่าน วันที่ตอบ 2006-04-08 10:23:09


ความคิดเห็นที่ 8 (439373)
avatar
น่าจะเป็นประโยชน์

อาจเป็นประโยชน์ เอามาฝาก แนวทางในการเรียน

1 อยากรู้เรื่องให้ถามเอง
2 อยากใช้คำถามของผู้อื่นให้ ถามต่อไปว่าถ้าเป็นคุณทำได้ไหม
3 อย่าเอาคำตอบที่ท่านตอบกับผู้ที่ถามมาเป็นคำตอบของเราด้วย
4 สังเกตุคุรุว่าท่านใด บางคำตอบถ้าเราคิดว่าไม่ใช่ ก็รอพบคุรุเราเอง
5 ถ้ามีโอกาสและผู้ที่ให้คำตอบเป็นผู้ยิ่งใหญ่ คำตอบนั้นท่านสามารถใช้ไปจนวันตาย หรือ รอน้ำใหม่

ผู้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นประโยชน์ วันที่ตอบ 2006-04-08 14:52:48


ความคิดเห็นที่ 9 (439374)
avatar
น่าจะเป็นประโยชน์

เออ นั้นสิ เวลาไม่เข้าใจทำไม ไม่ถามกันเนอะ !!!!
ความคิดเห็นกระผมนะ การกลัวคุรุ รำคาญ หรือ อาย หรือเกรงใจคนอื่น มันไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่ๆ
+ จำนวนเวลาที่คุณเอาไปไตร่ตรอง คำสอน เพื่อ สรุป ความเข้าใจ เพื่อหาข้อที่ไม่เข้าใจ แล้วนำกลับมาถามใหม่ ในครั้งถัดมา .....อย่างที่บอกคุณใช้เวลาคิดเรื่องมื้อต่อไปจะกินอะไรดี มากกว่าคิดเรื่องคำสอนตันตระสะอีกในวันหนึ่ง ๆ
เหมือนเด็ก นักเรียนที่เรียนในโรงเรียน หากไม่เข้าใจที่คุณครูสอนหน้าชั้นเรียน แล้วไม่ถาม ไม่ทบทวน วันต่อไป คุณครู ก็จะสอนบทเรียนใหม่ต่อไป ความไม่เข้าใจ ก็จะสะสมเพิ่มพูน ขึ้นทุกครั้งที่เรียน สุดท้าย ก้อ เรียนไม่เข้าใจ ถึงเวลาสอบ เราก้อเดา ๆ เอา ถูกบ้าง ผิดบ้าง กาไปเถอะ ทุกคนรวมถึงกระผม ก้อทำอย่างนี้กันทั้งนั้นเมื่อตอนเด็ก / / / แต่ นั้นมันเป็นความผิดครั้งแรก แต่ นี่
คุณ คุณ ก็รู้ว่าตอนเรียน ตอนเป็นเด็ก มันผิดที่ไม่ตั้งใจเรียน ตอนนี้ คุณมีโอกาส แก้ตัวใหม่ + + และ มันเป็นการเรียน เพื่อชีวิตคุณเองเลยนะ
ทำไม ไม่ตั้งใจ พยายาม กันละครับ
หากเราเรียน 10 +4 = 14 เข้าใจได้ เรียนตันตระมันก้อเรื่องเดียวกันเลยนะ
สมองมนุษย์ นะ เป็นผ้าขาว มาแต่เกิด คุณจะเรียนรู้วิธี หยิบช้อน หยิบขนม ใส่ปาก จากการเรียนรู้ หากคุณตั้งป้อมว่า โอ้ย !! ยาก ไม่เข้าใจชัวร์ ตั้งแต่ต้น สมองคุณก้อจะปฏิเสธ การเข้าใจตั้งแต่ต้นแล้วละครับ
ต่อไป คุณ คุณ ก้จะเป็นอาจารย์ กันแล้ว นะครับ แล้วคุณจะเอาอะไรไปสอนศิษย์ รุ่นต่อไป และให้ศิษย์เรียกคุณว่า รุ่นพี่ได้ สมภาคภูมิ++++
โอ้ยยยยยยย ผมบ่น ยาวไปหน่อย เนอะ++++++++++++
โด เล มี ซ่อน ล่า / / /คำสอนของทานอสินะตันตระ มาให้อ่าน

บทเรียนเดิม ๆ ซึ่งไม่เคยเปลี่ยน แก้ยากมาก ๆ ขอบอก...........

ผู้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นประโยชน์ วันที่ตอบ 2006-04-08 14:55:27


ความคิดเห็นที่ 10 (440483)
avatar
น่าจะเป็นประโยชน์

ความหมายที่ซ่อนในพิธีกรรมมีมากกว่าความสำเร็จในพิธีกรรม น่าเป็นประโยชน์ คำตอบหนึ่งของท่านอสินะตันตระ คิดเห็นว่าทั้งสองอย่างควรจะไปด้วยกัน >> แต่ถึงกระนั้นกระผม ก็เอียงไปทางเข้าใจในความหมาย มากกว่าการสัมฤทธิ์ผลในพิธี.. การทำพิธีสัมฤทธิ์ผลมันเหมือนกับหาเงินมาได้ ได้เงินมาไว้ในกระเป๋าแล้ว แต่ไม่รู้ว่าวิธีหา หรือขั้นตอน การหาเงินนั้นมันมาอย่างไร ไม่รู้ว่าเงินที่ได้มาเมีไว้เพื่อเอาไว้ทำอะไร และวิธีรักษาให้มีอยู่นานที่สุด เมื่อใช้หมดก้อลำบาก ซึ่งการใช่ย่อมง่ายกว่าการหามาก ต้องไม่ลืมว่าตอนนี้ทุก ๆ ท่าน มีโอกาสอยู่ใกล้ผู้ยิ่งใหญ่มากกกกก จนอาจจะลืมนึกไปว่า ในความเป็นจริงเมื่อท่านกลับบ้าน ท่านจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกเลย( แม้จะคิด )ในการดำเนินชีวิตอีกชั่วกาลเวลา!!! เพราะฉะนั้น ณ ตอนนี้ความหมายที่ สอน หรือความรู้ความเข้าใจ อาจจะดูไม่สำคัญเท่าที่ควรจะเป็น เพราะ ท่าน ๆ มีอาจารย์ คอยเกื้อหนุน อยู่ แต่เมื่อไม่มีนี้สิ ใครเล่าจะตั้งพิธีให้ ใครเล่าจะคอยจดบันทึกทำพระเวทย์ให้ ใครเล่าจะคอยบอกว่ามันไม่สมบรูณ์หรือสมบูรณ์!! เมื่อวันนั้นมาถึง ความรู้ความเข้าใจในพิธีกรรม เท่านั้นที่จะช่วยท่านให้หาพระเวทย์ด้วยตัวท่านเองได้ แน่นอนมันเป็นเรื่องเข้าใจยากมาก แต่อย่าสิ้นหวังเพราะท่านกำลังแลกกับสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปไม่มีโอกาสสำผัส แน่นอนมันต้องยากลำบากมากเป็นธรรมดา มองต้องมองให้ไกล ชีวิตเป็นมนุษย์นั้นสั้นนักเมื่อเทียบกับที่ ที่ท่านอยากไป มันไม่มีวันจบ หากไม่มีความรู้ความเข้าใจ ติดตัว ใครเล่าจะค่อยหาให้ท่าน+++

ผู้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นประโยชน์ วันที่ตอบ 2006-04-10 08:18:32


ความคิดเห็นที่ 11 (440492)
avatar
น่าจะเป็นประโยชน์

ทำไมมนุษย์คิดให้ถูกทางไม่ได้ มีคำตอบให้แล้วลองดูก็เป็นเพราะยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ทำอะไรอยู่ ต้องการอะไร นี่แหละปัญหาพื้นๆที่คนมักเจอ เคยคิดเวลาข้ามถนนมั๊ย ว่า ควรมองซ้าย หรือมองขวาดี แล้วถ้ามองซ้ายมองขวา แล้วข้ามเลยดีมั๊ย หรือมองอีกซักรอบสองรอบก่อนค่อยข้ามแล้วเคยข้ามแบบไม่มองให้รอบคอบมั๊ย แต่ที่แน่ๆยังไม่โดนรถชนตายใช่มะ ถ้าคิดแล้วมั่นใจว่าใช่พร้อมที่จะรับปัญหาที่จะเกิด ข้ามเลย ทำเลย อะไรจะเกิด ยังไงก็ต้องเกิด หากมันไม่เกืดทำยังไงก็ไม่เกิด คิดมากทุกข์มาก คิดแค่ไหน หากมันผิดมันก็ผิด ไม่คิดเลยหากไม่ผิดก็ไม่ผิด แต่ก็ไม่ใช่หลับตาวิ่งข้ามถนน เพียงแต่สัมผัสแค่ผิวๆ ตัดสินแค่พื้นๆ มองลึกมองชัด มากไปก็ทุกข์อีก (นี่มันจะเข้าใจมั๊ยวะเนี่ยฮ่าๆๆๆๆๆ)

ผู้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นประโยชน์ วันที่ตอบ 2006-04-10 08:29:12


ความคิดเห็นที่ 12 (440498)
avatar
น่าจะเป็นประโยชน์

ทำไมคนกลัวผี คำตอบนี้อาจจะไม่กลัวอีกต่อไป                    กลัวเพราะไม่รู้ รู้แล้วก้อไม่กลัว
ผีไม่กลัวผี เพราะผีรู้แล้วว่าผีเป็นยังไง
ผี คือ อนาคต ของคน
คน คือ อดีต ของผี
ผีไม่กลัวคนเพราะเคยเป็นคน แต่คนกลัวผีเพราะไม่เคยเป็นผี
นักเรียนกลัวเป็นนักศึกษาเพราะไม่เคยเป็นนักศึกษา
นักศึกษาไม่กลัวเป็นนักเรียนเพราะเคยเป็นนักเรียน
 

ผู้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นประโยชน์ วันที่ตอบ 2006-04-10 08:39:00


ความคิดเห็นที่ 13 (440505)
avatar
น่าจะเป็นประโยชน์

บทเรียนรัก ใครยังค้นหาไม่พบควรอ่าน

รักรักรักมักมีพลัดมักมีพราก
จากจากจากใช่หมดรักหมดกรรมไหม
ใจใจใจใยให้เขาจนหมดใจ
ใช่ใช่ใช่ให้ไปแล้วเอากลับมา

แก้วหายกลายกลับมาเป็นเศษแก้ว
รักใช่แล้วต้องครองหรือไฉน
รักทั้งรักรักทั้งหมดหมดทั้งใจ
รักทั้งใครรักทั้งหมดไม่รักตัว(ตัวเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นประโยชน์ วันที่ตอบ 2006-04-10 08:47:29


ความคิดเห็นที่ 14 (440510)
avatar
น่าจะเป็นประโยชน์
เป็นกระทู้เดิม ๆ ที่ครูบาอาจารย์ เคยแนะนำและสั่งสอน ซึ่งเป็นประโยชน์ หรือบางคนอาจจะลืมไปแล้ว กลับมาย้ำเตือนถึงบทเรียนต่าง ๆ ที่ได้รับ หรือผู้ที่สามารถนำคำสอนไปต่อยอดทำความเข้าใจ ....................
ผู้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นประโยชน์ วันที่ตอบ 2006-04-10 08:53:54


ความคิดเห็นที่ 15 (440740)
avatar
สีส้ม
ไปอ่านเจอมาฮะ จากกระทู้ ถามตอบยกยอดมา อย่ากลัวเรื่องไฟพระเวทย์เลย ถ้าในชีวิตหนึ่ง สามารถพิสูจน์ได้ ว่า สิ่งที่ตนสนใจอยู่นั้นมีจริงและสัมผัสได้ ไฟพระเวทย์จะเล็กลงเรื่อยๆ จนเท่ารูขุมขน เมื่อไม่ได้รับการกระตุ้น ดังนั้นหากเลิกฝึก ก็จะมีจุดไฟเล็กๆอยู่บนดวงจิตซึ่งมีขนาดเท่าตาดำของตัวเราเอง และจะติดตัวไปทุกๆชาติ แค่นั้นเอง และในชาติใดชาติหนึ่งหากได้รับการกระตุ้น ไฟเวทย์ก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นอีกและเล็กลงเท่าเดิมเมื่อเลิกฝึกฝน ที่กลัวควรกลัวว่าจะไม่สามารถจุดไฟพระเวทย์ให้ติดได้มากกว่านะ ครูแก่๕ [8 เม.ย. 48 18:55] ( IP A:61.90.32.185 X: ) ชาตินี้จะมีโอกาสมั่งไหมนะ ..ปู่..
ผู้แสดงความคิดเห็น สีส้ม วันที่ตอบ 2006-04-10 12:11:12


ความคิดเห็นที่ 16 (444691)
avatar
น่าจะเป็นประโยชน์

อีกคำสอนหนึ่งจากครูบาอาจารย์

วันพฤหัส   ผมหายไปหลายวัน เนื่องจากรู้สึกเหนื่อย ในการอ่านกระทู้ ซะ เฉย ๆ  งั้นแหละ วันนี้อากาศครึ้ม ครึ้ม ๆ ไม่ร้อน ไม่หนาว  เดินนึกถึงคำสอนคุรุ ขึ้นมาเรื่อง

ต้นไม้ กะ เทียนไข

คุรุสอนผมว่า คนเราซึ่งเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มา อาจจะแบ่งได้ ง่าย ๆ เป็น ต้นไม้ กะ เทียนไข  บางคนอาจจะเลือกเป็นต้นไม้ที่โตอย่างช้า ๆ แผ่รากลงไปใต้ดินโดยมิมีมนุษย์คนอื่นเห็น  รอเวลาเติบโตตากแดด ลม และ ฝน จนแข็งแรงมีลำต้นใหญ่ มีกิ่งก้าน มีใบครึ้ม ให้ร่มเงา ร่มเย็นแก่ผู้พบเห็น และ/หรือแวะมานั่งหลบภัย แดด ลม ฝน >>>>>>>> ในขณะที่บางคนอาจจะเรียนมาและพอใจ ที่จะเป็นเทียนไข คือจุดตัวเองสว่างไสว ให้มนุษย์ผู้อื่นเห็นแสงสว่างของตัวเอง บงบอกว่ามีตัวตน  จุดปุบ ก้อสว่างปับ  ให้ความร้อน และสามารถใช้ประโยนช์ได้เลยมิต้องรอเวลา 

หากแต่ คุรุ ก้อยัง สอนผมต่อไปว่า หากแต่ข้อเสียของเทียนไขเมื่อเทียบกับต้นไม้แล้วนั้น  คงอยู่ที่ว่า  เทียนไขจุดแล้วก้อจะหมดไปเรื่อย ๆ และสุดท้ายก้อกลายเป็นก้อนน้ำตาเทียนหรือระเหย แห้งไปหมด  หากแต่ต้นไม้ที่ใช้เวลาในการแผ่รากไปช้า ๆ ในใต้ดินจนลำต้นเแข็งแรง สามารถให้ความร่มเย็นต่อผู้อื่น คงจะมีแต่เติบโตและแผ่รากของตนต่อไป  

เจ้าเลือกเอาเองว่า  อยากเป็นอย่างไหน >>>>> คุรุว่า

หลังจากที่ผมรู้สึกแสบร้อนสายตา  จากกระทู้ของเทียนไขทั้งหลาย ผมหายไปหลายวัน วันนี้กลับมาด้วย คำเตือนสติจากคำสอนนี้   ผมเลยมาเล่าให้ฟัง  ครับ


ผู้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นประโยชน์ วันที่ตอบ 2006-04-14 09:32:43


ความคิดเห็นที่ 17 (444699)
avatar
น่าจะเป็นประโยชน์

เคยมีคำถามซึ่ง มนุษย์ทั้งหลายที่ต้องการอยากรู้ และยากทำความรู้จัก เกี่ยวกับครอบครัวเทพฯ องค์นี้พ่อแม่เป็นใคร ลูกหลายเป็นใคร ใครเป็นต้นตระ***ล และสเหมือนรู้ รู้ไปทำไม เรารู้จักท่าน แล้วท่าน ๆ จะรู้จักเราหรือเปล่า ......ไม่รู้  แล้วท่านชอบอะไร บางครั้งเคยได้ยินมา และก็มีผู้บูชา สิ่งของต่าง ๆ ที่คิดว่าองค์เทพฯชอบ เช่น องค์คเนชฯ ท่านต้องชอบ กล้วย อ้อย ถั่ว งา เพราะมนุษย์คิดว่าท่านมีศรีษะเป็นช้าง ต้องชอบอาหารแบบที่ช้างชอบ จึงถวาย เครื่องบูชา เป็น ถั่วงา กล้วย และอ้อย ตามความเชื่อที่แต่ละคนได้รับมา บูชาไปชีวิตก็ไม่ได้เจริญหรือรุ่งเรืองขึ้น แต่อย่างใดมีพออยู่พอกินไปวัน ๆ  ก็มนุษย์ผู้บูชาคิดว่าท่านเป็นช้างจึงให้เครื่องบูชาอย่างนั้น ท่านก็คิดว่ามนุษย์ผู้บูชาเป็นคน ก็ขอให้มีกินแค่ 3 มื้อไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านั้นอีกแล้ว ทวยเทพฯ ต้องการคำอ้อนวอนร้องขอ และสิ่งสำคัญที่มนุษย์ผู้บูชาต้องการอะไร...... มากกว่ากินเพื่ออยู่ไปวันวัน

ผู้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นประโยชน์ วันที่ตอบ 2006-04-14 09:52:50


ความคิดเห็นที่ 18 (444701)
avatar
น่าจะเป็นประโยชน์

และเคยคิดไหมว่า ทำไหมองค์คเนชมี

หัวเท่าช้าง ตัวเท่าคน ขาเท่าหนู

หรือหัวเท่าคน ตัวเท่าช้าง ขาเท่าหนู

หรือ หัวเท่าหนู ตัวเท่าคน ขาเท่าช้าง

หรือ หัวเท่าคน ตัวเท่าหนู ขาเท่าช้าง

หรือ หัวเท่าช้าง ตัวเท่าหนู ขาเท่าคน

หรือหัวเท่าหนู ตัวเท่าช้าง ขาเท่าคน

คำสอนเปรียบเทียบเช่นใด นัยยะความหมายที่สอนอยู่

ค้นหาเอาเอง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นประโยชน์ วันที่ตอบ 2006-04-14 10:05:01


ความคิดเห็นที่ 19 (445025)
avatar
asinatantra
 ทำไมมัวมองฟ้า ทำไมต้องหาเท้า ฟ้าอยู่บนหัวเท้าอยู่ติดดิน ตัวเองอยู่ที่ไหน ทำไมต้องหา มัวแต่มองฟ้ามัวแต่หาเท้าเฝ้าแต่ตามหาตัวเอง ถุย ชีวิต คิดทำไมให้ปวดหัว มีกินก็กิน มีนอนก็นอน เรื่องปลีกย่อย แค่ ไม่ผิดต่อใคร ไม่ผิดต่อตัวเอง ไม่ผิดต่อใจ ไม่ผิดต่อนาย ใครเป็นไงใครทำอะไร ยังไง ก็จบ ช้าก็จบ เร็วก็จบ เกิดก็เกิดคนเดียว ตายก็ ตายคนเดียว ทำไมอยู่คนเดียวไม่ได้ อยู่กะคนไม่ได้ ก็อยู่กะปู่สิ ไม่ใช่อยู่กะทุกข์ เวลา ไม่มีใคร มองซ้ายมองขวามองรอบตัวไม่มีคนมองฟ้าไม่เห็นมองดินไม่เจอ ลองมองเข้ามาใจตัวเองดู มี พวก *** อยู่ทั้งโขยง (อยู่บนโลกแค่ใช้กรรม ดำเนินไปให้จบเกมส์ ตายเมื่อถึงเวลาควรตาย)
โดย: ครูทั้งชีวิต (ลาภ ) [22 มี.ค. 48 17:11] ( IP A:61.91.165.119 X: )

 

เป็นคำสอนตั้งแต่อยู่เว๊ปเก่า ที่คุรุสอนไว้ให้ หนึ่งในดำได้อ่าน แวะไปอ่านมาเลยเอาเก็บมาให้อ่าน  เป็นคำสอนแปลก แต่หากคนที่ตกอย่ในทุกข์แบบคนที่ท่านเคยสอน จะเข้าใจว่าหมายถึงอะไร  หลังจากที่ผ่านทุกข์นั้นมาได้ ก้อเหมือน   ฝันไป  แต่สิ่งที่หลงเหลืออยู่คือ ความรู้เอาไว้ใช้ยามทุกข์ใจ

อ่านที่ไร น้ำตาซึมทุกที

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-04-15 10:06:27


ความคิดเห็นที่ 20 (513054)
avatar
น่าจะเป็นประโยชน์

เคยมีผู้กล่าวไว้ ทำอย่างไรให้ชีวิตมีความสุขได้ จะสุขอย่างไร สุขเมื่อไร สุขเท่าไร ในความเป็นมนุษย์  มักหนี้ไม่พ้นแต่จะทำอย่างไรให้เกิดสุข มีผู้รู้ให้ความรู้ไว้ว่า กล่าวว่าถ้าอยากมีความสุขทุก 3 ชั่วโมง ให้ไปกินข้าวที่อร่อย ๆ อยากมีความสุขทุก 3 วัน วันให้ไปเที่ยว หากอยากมีความสุขทุก 3 เดือนให้ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ และอยากมีความสุขทุก 3 ปีให้ไปแต่ง ทุก ๆ หาความสุขให้กับตนเองหรือยัง หาต่อไปให้สนุก สนาน นนนนนนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นประโยชน์ วันที่ตอบ 2006-06-23 12:29:42


ความคิดเห็นที่ 21 (534163)
avatar
น่างเป็นประโยชน์

บทเรียน ถีงทางตันจะมีทางเลี้ยวเสมอ , ไม่รู้เหมือนรู้ รู้เหมือนไม่รู้ , ต้องเป็นมีดที่คมอยู่ในฝักเสมอ, เวชเป็นสิ่งมีค่าที่สูงสุดอยากได้ต้องทำเอง,รู้รู้ค่าใบไม่ต้องรู้ถึงดอก, รู้ว่าเจอกำแพงแล้วอย่าถูกกำแพงจนเลือดออก, และสุดท้ายให้สนุก กับชีวิต.....อย่าลืม

ผู้แสดงความคิดเห็น น่างเป็นประโยชน์ วันที่ตอบ 2006-07-09 16:38:05


ความคิดเห็นที่ 22 (580948)
avatar
น่าจะเป็นประโยชน์

เมื่อเป็นชนเผ่านักรบ ใยทำไมต้องกลัว ความกลัวเกิดจากอะไร กลัวเนื่องจากไม่รู้ใช่ไหม ถ้าหากรู้ใยต้องกลัว กลัวที่จะทำดี หรือกลัวที่จะทำชั่ว ทำไมต้องคำนึงถึงผลลัพท์ ทำเถิด รีบเถิด เข้าใจไหม.....แหะ แหะ

ผู้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นประโยชน์ วันที่ตอบ 2006-08-16 15:16:24


ความคิดเห็นที่ 23 (1371589)
avatar
wasinatantra

ขอบพระคุณคะที่ทรงสั่งสอนพวกหนู

ผู้แสดงความคิดเห็น wasinatantra ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-01-06 20:28:30


ความคิดเห็นที่ 24 (3026334)
avatar
รู้รอบๆ

:)

 

:)

 

:)

ผู้แสดงความคิดเห็น รู้รอบๆ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2009-07-01 03:46:58



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.