อืม  ถ้าคุณถามถึงเจ้าบ้าน...เจ้าบ้านออกจะยุ่งมากเลยครับ ช่วงนี้ผมก็ไม่เห็นเจ้าบ้านจะเข้ามาตอบในนี้  นานแล้ว...จะมีก็คนแก่แบบผม และ ปู่ๆตันตริกสีขาวอีกสอง และเจ้าบ้าสีดำอีกหนึ่ง ที่วนเวียนตอบกันไปมาอยู่ในนี้...ถ้าคุณจะถกกับเจ้าบ้านคงต้องมาที่เทวาลัยอย่างเดียวแล้วละครับ   แต่ก็มีข่าวดีมากบอกนะครับว่าเจ้าบ้านอาจจะตัดสินใจเปิดเทวาลัยช่วงกลางวันในเร็ววันนี้....

รักชายหรือรักหญิง ก็รักเหมือนกันไม่แปลกหรอกครับ  รักก็คือรัก รักที่เกินพอดีก็ย่อมนำมาซึ่งทุกข์อยู่วันยันค่ำ..

มันเป็นความรักที่ไม่เหมือนคนอื่นเขา  อาจารย์ที่เทวาลัยจะช่วยมั๊ย  เพราะถึงแม้มันจะเป็นความรักแบบเพศเดียวกัน  แต่เราก็รักและดูแลเขาเหมือนกับคู่รักต่างเพศ  และก็อยากอยู่กับเขาไปจนแก่

ความรักของคุณก็เหมือนรักของคนอื่นครับ รักก็คือรัก ไม่ว่าจะรักคน สัตว์ สิ่งของ หรือ อื่น ๆ คนตันตระไม่ดูถูกทุกข์ของผู้อื่น  หากแต่ถ้าคุณมองหาที่ทำเสนห์ ทางตันตระเทวาลัยคงไม่ช่วยคุณด้านนี้แน่นอน  เราเรียนหนทางให้พ้นทุกข์ส่วนหากคุณอยากเรียน ก็เข้ามาพบกันหรือหากมาไม่ได้อยากลองถก เรื่องเรียนกันในนี้ก็พอทำได้ครับ

"อาจารย์ที่เทวาลัยจะช่วยมั๊ย"   ช่วยครับเราช่วยทุกคนที่มาพบพากัน ...

ทุกข์ในรักนั้นสาหัสนัก ผมขอเอาใจช่วยมิว่าคุณเลือกทางเดินไหนก็ตาม....

ในเมื่อการเรียนตันตระจะต้องสอนทั้งพระเวทย์ และพระเวช  ซึ่งการเรียนพระเวทย์ คือ การศึกษาภาคปฏิบัติ เช่น การประกอบพิธีกรรม การบวงสรวง สังเวย การรับพลัง การถ่ายเทพระเวทย์ การฝึกจิต การทำสมาธิ การทำคุณไสย รักษาคุณไสย ส่วนการเรียนพระเวช คือ การศึกษาภาคจิตใจ ความเข้าใจในชีวิต การหาคำตอบให้กับชีวิต เช่น ตัวเราเป็นใคร อยู่เพื่ออะไร กำลังทำอะไรอยู่ ต้องการทำอะไร ตายแล้วไปไหน ตายแล้วเป็นอย่างไร อะไรคือทุกข์ วิธีจัดการกับทุกข์ การอยู่กับกรรม การรับกรรม การเลี่ยงกรรม การหนีกรรม การหลบกรรม 

แล้วเมื่อมีคนมาขอให้ทำคุณไสยทำไมถึงไม่ทำให้เขาล่ะ  แล้วถ้ามีการทำคุณไสยจริง ๆ  ผลกรรมที่เกิดจากการจะตกเป็นของใครและมากน้อยแค่ไหน

ถ้าไม่ทำเสน่ห์ และมีวิธีไหนบ้างมั๋ยที่จะทำให้คนรักที่แยกจากกันกลับมารักกันเหมือนเดิม

ฮั่นแน่  มีคนวงในมาถามด้วย หุหุ  พวกเราตันตริกเรียนเผื่อให้หลุดพ้นครับ  หลุดพ้นจากความทุกข์แบบมนุษย์  หากแต่ใครหยิบใครคว้าได้เท่าไหร่ก็หยิบใส่กระเป๋ากันไป..และอีนิดพวกเราไม่อยู่กับกรรมครับ  เราศึกษามันและแก้ออก หุหุ หากจะรู้ต้องรู้ให้ดีครับ  คนอยู่กับกรรมเหมือนอยู่กับทุกข์  ไม่เอาครับพวกเราไม่นิยม....

กับคำถามที่ว่ามีคนมาขอให้ทำคุณไสยทำไมถึงไม่ทำ  คำตอบคือ  เพราะมันไม่ใช่หนทางหลุดพ้นนะสิครับ ตรงกันข้ามมันผูกกรรมให้เป็นปมกันขึ้นไปอีก

กับคำถามที่ว่าทำคุณไสยแล้วกรรมตกอยู่ที่ใคร  หุหุ  ถ้าคุณกระทำและมีอาจารย์ทำให้  กรรมนั้น ๆ ก็ ตกสู้ผู้กระทำสิ ง่าย ๆ เองครับ  หากแต่ถ้ากระทำโดยผ่านคนกลางมิว่าจะเป็นคนเป็นเทพ คนกลางรับกระทำให้ก็รับกรรมครับ

ตอบคุณคนเหมือนกัน  เสนห์นั้นกระทำได้โดยธรรมชาติครับ  โดยไม่ต้องเลือกวิธีทำไสย   ลองใช้เวลานึกดูว่า ณ .วันแรกพบกัน วันที่เค้ามารักเราตัวเราเป็นอย่างไร  ถ้าคุณสามารถทำให้กลับไปให้เหมือนเก่าได้  หรือเกือบเหมือนที่สุดได้ เสนห์ตามธรรมชาติก็กลับมาแล้วครับ  ข้อเสียของมนุษย์คือ ความชิน  และก็ตามมาด้วยเบื่อหน่าย มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ อะไรใหม่อะไรนั้นก็ดีไปหมด  แต่เราสู้กับมันได้นะครับ  ลองนึกดูครับ

แสดงว่าไม่มีวิธีไหนที่จะสามารถทำให้คนรักที่แยกจากกันกลับมารักกันเหมือนเดิมหรือ  นอกจากที่ท่าน asinatantra  แนะนำ  และการทำใจ  และถ้าเรารักจริงต้องการให้เขากลับมาจริง ๆ  พอจะมีทางช่วยมั๊ยที่ไม่ทำให้คนกลางต้องรับกรรม  แบบรักจริงและยังต้องการให้เขาอยู่กับเรา

พอจะแนะนำได้ไหมว่ามีที่ไหนที่สามารถทำให้คนรักกลับมารักดังเดิม เพราะไม่อยากโดนหลอก

ตอบ ความคิดเห็นที่๔นะ

มีหลายคนที่ทางเราได้เคยทำคุณไสยให้ครับ

ประการแรกเลยก็คือ 

 ขอพรองค์เทพหากท่านเมตตา  ก็แทบไม่ต้องทำอะไรเลย ก็สำเร็จสมปรารถนา

ประการที่สอง

ศรัทธา  และ ความอดทน  ของผู้ที่จะมาให้ทางเราช่วย เป็นสำคัญ 

ประการที่สาม

อยู่ที่วินิจฉัยของเทวราจารย์ว่าสมควรทำให้ใหม?

สำหรับเรื่องของความรัก มันเป็นทุกข์ที่เราอยากพาคนข้ามไปให้พ้นมากกว่า เราจึงมักหยิบยื่นทางออกที่เป็นการยุติปัญหาให้จริงๆ  ซึ่ง ณ ตอนนั้น หลายคนมักไม่รับการช่วยเหลือในวิธีนี้

เปรียบเหมือน คนที่ติดยาเสพติด และยังมีพิษของยาอยู่  หน้าที่พวกเราก็คือทำให้ท่านเลิกจากยา  เราจึงมักถอนพิษให้  มากกว่าไปหายามาให้เขาเสพอีก

วิชาต่างๆที่คุณกล่าวมาเป็นวิชาชั้นสูง คงไม่นำมาใช้เมื่อไม่มีเหตุอันควรหรอกนะ

สำหรับเรื่อง  ผลของกรรม ไม่ขอตอบ เอาเป็นว่าไม่มีอะไรฟรีในโลกนี้ก็แล้วกัน