อยากรู้ก็ต้องพิสูจน์ครับ ....อย่าปล่อยความสงสัยไว้หากยังแก้ได้อยู่

...จำไว้ครับ..  ไม่มีใครเอาปืนจอหัวบังคับให้เราทำอะไรหรอกครับ หากไปที่ไหนแล้วเค้าเรียกเงินก็ไม่ต้องไปครับ....

แต่หากสงสัยต้องมาดูเอาครับ เพราะถึงจะมีคนบอกว่าไม่เสียเงิน คุณก็จะยังสงสัยอยู่ดี เนอะ....แวะมาดูที่หน้าประตูก็ได้ครับ ดูไม่ดีก็วิ่งหนีไปเลย ......เนอะ 

ที่ตันตระเทวาลัยกับที่วัดแขกเหมือนกันมั้ยค่ะทางด้านความเชื่อ

เราคล้ายกันนะ เราต่างก็นับถือในเทพเจ้าองค์เดียวกัน แต่ด้วยเหตุผลในเบื้องลึกที่แตกต่างกัน  แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้แบ่งแยกกัน ขอให้มีศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า เราก็ต้อนรับเหมือนกัน

และที่นี่มีค่าใช้จ่ายมั้ยค่ะ เช่นค่าประคำ ค่าบุชาอะไรทำนองเนี่ยหนะคะ

ค่าใช้จ่ายสำหรับอะไรล่ะ ?  

 หากต้องการเพียงแค่มานมัสการ องค์เทพ ด้วยความศรัทธา นั้น  ทาง เทวาลัย ได้เตรียม กลีบกุหลาบ ที่แกะกลีบเรียบร้อยแล้ว ไว้ให้ท่าน ใช้โปรย เพื่อนมัสการ   หากท่านต้องการทำให้ดีไปกว่านั้น ก็เพียงหาซื้อน้ำดื่มที่ยังไม่ได้ดื่มมารดพระบาทองค์เทพ   สำหรับธูปเทียน ไม่ต้องใช้ ดอกไม้ไม่ต้องนำมา

อย่างนี้เรียกว่า ไม่มีค่าใช้จ่ายได้ไหม?

หากคุณต้องการ ปรับพื้นดวง ก็เพียงแจ้งชื่อ  และ กรอกแบบฟอร์มของเรา เพื่อเข้าพบ อาจารย์ที่ยินดีชี้แจงวิธีการปรับพื้นดวงให้คุณ ในขั้นตอนนี้มีการทำพิธีบวงสรวงกลางแจ้ง  และทุกพิธีก็ต้องมีค่าครูใช่ไหม? 1บาทก็คือเงิน  แค่นั้นเองที่ต้องจ่าย หากไม่จ่าย เราเองก็ยินดีจ่ายให้

อย่างนี้เรียกว่า ไม่มีค่าใช้จ่ายได้ไหม?

สำหรับประคำคอ เราเองมีให้บูชา  แต่ไม่ใช่มีแต่เงินแล้วจะซื้อได้  การที่ได้ครอบครองประคำของที่นี่ คุณต้องผ่านขั้นตอนการนั่งสมาธิในเบื้องต้น  บางคนอาจรอจนท้อ  และบางคนก็สามรถครอบครองได้ตั้งแต่มาครั้งแรก  อันนี้เป็นเรื่องความสามารถส่วนบุคคล   และ  ไม่จำเป็นต้องมีประคำเราก็ต้อนรับท่านเป็นอย่างดีอยู่แล้ว  สามารถร่วมประกอบพิธีหรือทำสมาธิกับทางเทวาลัยได้เป็นปกติ โดยไม่แบ่งแยกชนชั้นแต่อย่างใด 

อย่างนี้เรียกว่า ไม่มีค่าใช้จ่ายได้ไหม?

บอกตามตรงนะคะตอนนี้รู้สึกเสื่อมศรํทธากับวัดที่หาผลประโยชน์จากความนับถือของเรา

ที่นี่ไม่ใช่วัด เราเองก็ไม่ใช่พระ คุณจะโกรธใครจะเคืองใครก็ไปต่อว่าเขาเถิด  ที่นี่มีเพียงผู้รับใช้องค์เทพ และสถานที่นี้ ก็เรียกว่าเทวาลัย  เป็นที่ สถิต  แห่งเทพ

ไม่รู้ว่าที่นี่เป็นแบบนี้รึเปล่า ช่ายตอบด้วยค่ะ

 ที่นี่ก็เป็นแบบที่คุณคาดไม่ถึงแหละ เป็นธรรมดาของคนที่มีการศึกษาแหละนะ  จะไปไหนทีจะทำอะไรทีก็ต้องรอบคอบสักหน่อย  ส่วนคนไม่รู้อิโน่อิเหน่ ดุ่ยๆเดินเข้ามา ป่านนี้เป็นอาจารย์กันก็ไม่น้อย  

 สวัสดี

ป๊า ตอบเสียยาวเลยนะงับ เขาถามมานิดเดียวเอง แหะ แหะ แหะ

อุอุ นายดำ  ทำไมเวอร์ชั่นนี้ดุจังอะ....

แต่ผมก็เค้าใจนายดำนะการกระทำไสยนั้นอยู่ที่  สมาธิและจิต ของบุคคลนั้นๆ บางทีมีคนถามผมว่า "แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าจะได้ผล  แล้วจะได้ผลภายในกี่วัน"  เออดิฟังแล้วบางทีก็มึนเหมือนกัน เพราะมันอยู่ที่จิตคุณครับ..แต่มีตัวอย่างเช่น

ขอพรเรื่องขอชีวิตบุคคลอันเป็นที่รัก >> เคยเห็นบุคคลที่ขอได้ผลในสองวัน จากโคม่าลุกมาเดินเฉย ๆ ผมก็อึ้งในจิตเค้าเหมือนกัน นับถือ นับถือ

ขอพรเรื่องความรัก >>> ขอวันจันทร์ได้วันศุกร์

ขอพรเรื่องอุปสรรค >>> ขออาทิตย์นี้ได้อาทิตย์ถัดไป

อันนี้ให้เปรียบเทียบความเร็วของความสำเร็จในจิตระดับ ดี ส่วนจิตคุณ ๆ เป็นระดับไหน ตรองเอา...

บางคนบอก  นู๋ ผม ทำไมทำไม่ได้ผลขอพรไม่ได้ผล  ต้องแจงว่าขณะที่คุณทำการขอพรมีคุณกับเทพเท่านั้นที่คุยกันอยู่   คุณนิ่งพอไม๊ขณะขอพร  และคุณนึกอะไรอยู่ขณะที่ขอพร   อุอุ  มีคุณเท่านั้นที่รู้!! ว่าเพราะไรถึงไม่สำเร็จ ฮ่ะๆๆๆๆๆ

หรืออีกกรณีก็แปลก  (เปรียบเทียบ) เช่น มีตนมาถามเจ้าบ้านว่า" เจ็บคอเป็นไข้ทำอย่างไรจะหายรู้สึกทรมารจังเลย " เจ้าบ้านบอกชื่อยาขนาดยาและวิธีกินให้ ไปหาซื้อยากินเอา  คนนั้นบอก  " อ้าว งี้ก็เสียเงินดิ "  อ้าววว ผมก็มึนอีก  แล้วนี้จะให้เจ้าบ้านผมเดินไปซื้อยาจากร้านขายยาให้คุณหรือไงครับถึงจะพอใจกัน  ผมก็อะนะ   ฟังมาก ๆ ก็ปลงรับประทานว่า

" กรรมของใครใครก็ถือกันไว้ในมือ "  ฮ่ะๆๆๆๆ

วันนี้เวอร์ชั่นโหดตามนายดำ....อิอิ  ขออภัยในความไม่สะดวก

เกิดมา อุแว้ แรก ก็กำมือ 2 กำมือ กำใครใครรู้ใครกำ จากนั้นก็ผูกเอาชื่อ เอานามสกุล มาผูกอีก  ผูกพันกับคนที่เกิดก่อนเรา และหลังเราผูกพันกับความเชื่อที่มีมาก่อน  ก็ผูกกับเพื่อน ผู้กับคนรักไปเรื่อย ๆ จนเป็นกำ แล้วถามว่าจะแก้กำนั้นอย่างไร ผู้ผู้เข้าใจหรือยังแห่งวิธีการผูก ถ้ารำคราญสามารถตัดได้ไหม อยู่เฉยไม่นึกถึงมันได้ไหม ไม่สนใจมันได้ไหม ตอนนี้แหละมันอยู่กับความสามารถเฉพาะแต่ละท่านและแล้วละ มันเป็นวิถีแห่งตนที่พอเรามักเรียกว่าวิธีแห่ง ปัจเจกบุคคล บางทึคนเรามักจะทุกข์ก่อนทุกข์จะมาจริงเสมอ  ๆ

นานๆจะเห็นข้อเขียน ของท่าน มังคลา.. จริงๆจังๆเสียที จากเดิมที่ชอบผ่านมาเคาะตามต้นไม้ชาวบ้านเล่นๆ บางต้นลำต้นยังอ่อนไม่แข็งแรง ก็กระเทือนกันไป

ทั้งคม ทั้งเป็นประโยชน์  น่าคิดนะ  ... 

หากเรารู้ว่า อีก 3วันเราจะตาย ( โดยไม่รู้วิธีตายด้วย )   อยากรู้จริงๆว่า คาปูชิโน แก้วต่อไป  ไม่รู้ว่ารสชาติจะเหมือนเดิมไหมน้อ? 

เราอาจจะผูก***โน่น***นี่ไว้กับตัวจนเหมือนมัมมี่แล้ว  มัดจนแน่นหนาแล้วอาศัยสิ่งที่มัดเราไว้แทนรังเหมือนตัว  ดักแด้  ด้วยเข้าใจว่ามันปลอดภัยดี ..

ท่านอาจารย์ดำ  ตอบคำถามทุกครั้งเป็นข้อ ๆ  ตามที่ผู้ถามสงสัย  แบบคิดไปเอง  ชนิดยังไม่ทันได้สัมผัส  ตอบได้ละเอียดทุกครั้งเลยค่ะ   ชอบค่ะ   มีประโยชน์ต่อผู้ที่สงสัยจริง ๆ   นับถือท่านเสมอค่ะ