ReadyPlanet.com


เรื่องราวของสาวใส
avatar
ยายแก่


เหนื่อย...เครียด.....ไปเทวลัย  !!!

เหนื่อย...เครี้ยด))))))))....ไปเทวลัย !!!

ยายตระโกนลั่นในใจเลียนแบบโฆษณาเลิกเหล้า

ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ 2 วิ แล้วคว้ากระเป๋าถือเดินดุ่ยไปสถานีช่องนนทรี

จับรถไฟฟ้าไปเทวลัย ถึงที่นั่นราวหกโมงกว่าๆ มืดสนิทแล้ว

ท้องฟ้าหน้าหนาวส๊วย...สวย สวยจริงๆ

จันทร์เสี้ยวตรงโค้งฟ้าตะวันตก ช่างงดงาม แสนโรแมนติค

จะมีใครเชื่อไหมนะว่ามีสถานที่ที่สวยงาม ปลอดโปร่ง โล่งสบาย

กว้างขวางใหญ่โตแบบนี้ ฝังตัวอยู่ในป่าคอนกรีตใจกลางเมือง

ย่านสะพานควาย ซึ่งราคาที่ดินแพงดังทองคำฝังเพชร 

 



ผู้ตั้งกระทู้ ยายแก่ โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2006-11-11 12:18:40


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (692160)
avatar
ยายแก่

โห....ถ้าเอาไปสร้างโรงแรมห้าดาว  คอนโดหรู  คอมเพล็กซ์ หรือ

Office Building จะทำเงินได้มหาศาลสักแค่ไหนน๊า... 

แล้วทำม๊าย...ทำไม ท่านเจ้าบ้านถึง อุทิศให้เป็นเทวลัยต้อนรับ

ผู้ตกทุกข์ได้ยากไม่เลือกชนชั้น ไม่หวังสิ่งตอบแทน

ขอเพียงมีจิตศรัทธาและต้องการที่พึ่งทางใจเท่านั้น

 ยายหล่ะบูชาท่านจริง..จริ้ง  เฮ้ย...พูดป้ายยยย......เดี๋ยวคนไม่เคยไปเทวลัย

จะว่า “เว่อร์” ลองไปเห็นกะตาเองเถ๊อะ แล้วจะรู้ว่า

คำพูดของยายมันยังน้อยไปซะด้วยซ้ำ…………

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ยายแก่ วันที่ตอบ 2006-11-11 12:20:34


ความคิดเห็นที่ 2 (692162)
avatar
ยายแก่

ยืนเก็บเกี่ยวบรรยากาศและทัศนียภาพยามโพล้เพล้ใกล้ค่ำ

พร้อมสูดอากาศฟอกปอดอย่างเป็นสุข อาจารย์ตู่ผ่านมาเห็น

กรุณาแวะบอกว่าเทวลัยเปิดตั้งแต่ 4 โมงเย็นแล้วให้เข้าไปภายในได้

ยายลุกตามไปติดๆโอโฮ..ทำไมคืนนี้คนเยอะจัง แทบไม่มีที่นั่ง  

เทวจารย์หลายท่านยังมาไม่ถึง ก็แหม...รถติดสนิทอย่างกับกาวตราช้าง

ยายแหวกกลุ่มหนุ่มสาวไปยังกลุ่มสูงอายุ เอ๊า...!นั่งตรงนี้แหล่ะ  แต่อือ...

รู้สึกคล้ายๆเหมือนมีคนแอบมองอยู่นะ

แน่ะ..มองอีกแล้ว

แน่ะ..ยังมองอีก คราวนี้เหมือนจะยิ้มให้ ยายรู้จักกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่น๊า.......

นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ยายยิ่งไฮเปอร์+สมาธิสั้น  แล้วจะไปจำใครด้ายย...

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ยายแก่ วันที่ตอบ 2006-11-11 12:21:47


ความคิดเห็นที่ 3 (692165)
avatar
ยายแก่

ความคิดหยุดสดุดลง เมื่อสาวใสวัย 20 ที่ยายเคยเขียนถึงในกระทู้ที่ 249709

(ความเห็นที่ 3) กระหืดกระหอบเข้ามานั่งใกล้ๆ โห..รถติดเป็นบ้าเลยพี่...

หนูออกจากบ้านตั้งแต่บ่ายสี่ ถึงเอาเกือบทุ่ม หนูนั่งกระสับกระส่ายตลอดทาง

อยากให้ถึงเทวลัยเร็วๆ  คนขับรถนึกว่าหนูร้อนเร่งแอร์ซะเย็นเจี๊ยบ

ดูดิ..ดูดิ แม่คะนิ้งเกาะหัวหนูขาวโพลนเลยพี่  เห็นม่ะ..เห็นม่ะ

ยายหัวเราะคิ๊ก นึกภาพเธอสระผมเปียก ๆโดนแอร์เป่าหัว 3 ชั่วโมง

น้ำแข็งเกาะหัวเลย 555

ผู้แสดงความคิดเห็น ยายแก่ วันที่ตอบ 2006-11-11 12:22:39


ความคิดเห็นที่ 4 (692166)
avatar
ยายแก่

ยังค่ะ..ยังไม่หมดเรื่องโจ๊กของเจ้าหล่อน เหอะ เหอะ

เมื่อเริ่มสวดมนต์ทำสมาธิ เธอนั่งสงบ นิ่ง แน่วแน่ ดูน่าเลื่อมใส

นิ่งจนผิดปกติ เสียงสวดมนต์เงียบแล้ว   เธอก็ยังนิ่งอยู่ ยายสะกิดปลุก

...........นี่..นี่..เขาลุกไปจนหมดแล้ว อธิษฐานอะไรอยู่

...........เปล่าค่ะ หนูกะลังคิดว่าจะกินอะไรดีที่ปากซอย อิอิ

ยายก็หัวเราะอีกเป็น คิ๊กที่2 โอ๊ยขำ............

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ยายแก่ วันที่ตอบ 2006-11-11 12:23:38


ความคิดเห็นที่ 5 (692168)
avatar
ยายแก่

หลังจากเดินเกี่ยวก้อยกันออกมาด้านนอกเราหันมาปรับทุกข์กันว่า

จะทำไงดีคืนนี้ดึกกว่าเดิม เธอกลัวกลับบ้านดึก พ่อแม่เป็นห่วง

ยายกลัวห้างคาร์ฟูร์ ปิด จะเอารถออกไม่ได้ (แอบจอดรถไว้ที่นั่นอ่ะค่ะ)  

แต่ในเมื่อตั้งใจแล้วต้องทำพิธีให้ครบ อย่ามาล้มเลิกเพราะอุปสรรคแค่นี้

ว่าแล้วก็เกี่ยวก้อยกันเดินต่อ ถึงเทวสถานด้านนอก

ยายพบสุภาพสตรีคนนั้นอีกแล้ว

เธอก็ยังคงมองยายอีกแหล่ะ...เออ..เอาละซิ

ผู้แสดงความคิดเห็น ยายแก่ วันที่ตอบ 2006-11-11 12:24:41


ความคิดเห็นที่ 6 (692169)
avatar
ยายแก่

เสร็จพิธีก่อนกลับยายแหงนมองท้องฟ้ายามดึก

สาวใสเธอก็แหงนมองบ้าง

...........ยายพรึมพรำเบาๆ ท้องฟ้าสดใสจังเลยนะ มีดาวด้วย

...........เธอก็เออ..ออ ตาม......ใช่พี่  มีมะม่วงด้วย

คราวนี้ยายไม่คิ๊กแล้ว แต่ปล่อยก๊าก..เลยเมื่อหันไปเห็นเธอยืนจ้อง

มะม่วงสองลูกที่ห้อยอยู่ตาเป็นมัน  โอ๊ยขำ  ขำ....เจ่ง เจ่ง

เด็กเอ๊ยเด็ก.... เห็นอะไรเป็นของกินไปโหม๊ดดดดด.... 555

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ยายแก่ วันที่ตอบ 2006-11-11 12:26:05


ความคิดเห็นที่ 7 (692174)
avatar
ยายแก่

สาส์นจากยายแก่......

 

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ยายค่อนข้างว่างน้องๆในที่ทำงานก็บ่นว่า

บอร์ดเทวลัยดูอึมครึมชอบกล ให้ยายเขียนอะไรให้อ่านบ้าง

ยายเองก็ไม่รู้จะเขียนอะไรให้มันสนุกมุกกระจ่ายนอกจากมาเล่า

สิ่งละอันพันละน้อยตามที่ได้พบได้เห็น  และสาวใสที่ยายเอ่ยถึง

เธอก็อนุญาตให้ยายนำเรื่องของเธอมาเล่าได้

คงมีแต่สุภาพสตรีท่านนั้น ท่านที่แอบมองยายอ่ะนะ

ถามจริ๊งงงงงง.......................ป้าแมวอ่ะป่าว อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น ยายแก่ วันที่ตอบ 2006-11-11 12:27:47


ความคิดเห็นที่ 8 (692184)
avatar
ผู้หวังดี

คนที่ชอบมองโลกในแง่ร้ายมาอ่านเรื่องเบาๆของยายแก่เถอะฮะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้หวังดี วันที่ตอบ 2006-11-11 12:41:53


ความคิดเห็นที่ 9 (692990)
avatar
ป้าแมว

นั่นแน่ !   แอบมาโพสแล้ว  หายไปเป็นอาทิตย์แน่ะ   ตอนนี้ไม่ต้องไปแอบมองคุณยายแก่หรอก   เห็นก็ทักทายเลย 

เมื่อคืนเจอกันแล้ว เจอกันอีก  11.11.06  คุณยายแก่อาจจะมีเรื่องเล่าอีกน่ะแล่ะ  จะได้เบาสมองกันไป  หาอ่านที่ไหนไม่ได้แล้ว 

เมื่อคืนก็รับสิ่งดี ๆ  และเป็นมงคล  กลับบ้าน สบายใจกันเป็นแถว 

ผู้แสดงความคิดเห็น ป้าแมว วันที่ตอบ 2006-11-12 05:28:34


ความคิดเห็นที่ 10 (694094)
avatar
asinatantra

ผมว่า  เพราะ   คุณยายแก่เขียนกระทู้สนุกขนาดนี้ คงเป็นธรรมดาหละครับที่มีคนอยากเห็นตัวจริง...เดากันไป เดากันมา  ว่าเขียนได้ฮามีรสชาติขนาดนี้หน้าตาจะเป็นอย่าไงไรน่า....แก่ สาว ผมยาว ผม สั้น อ้วน ผอม สูง เตี๊ย ก็เดากันไป...

ผมเองก็ยังไม่เคยเห็นตัวจริงคุณยายแก่ซักที  วันหลังต้องให้คุณป้าแมว ตันตริกน้องใหม่ชี้ให้ผมดูซัก กะ หน่อย

 อิ อิ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-13 10:44:43


ความคิดเห็นที่ 11 (694299)
avatar
ยายแก่

ขอบคุณค่ะ......!

ตัวอักษรกับตัวเป็นๆต่างกันริ๊บรั๊บนะคะ

เห็นแล้วจะขำไม่ออก ชื่อก็บอกแล้ว "ยายแก่" อิอิ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ยายแก่ วันที่ตอบ 2006-11-13 14:10:00


ความคิดเห็นที่ 12 (696821)
avatar
หมูแดงสังขารดำ

อ่านที่คุณ ยายแก่ พูด ทำให้นึกถึงครั้งแรกที่ได้ไปเทวาลัยเลยคร้าบบบบ ไปถึงปุ๊บผมเกือบเดินออกไปปากซอยอีกที เดินวนๆตั้งหลายรอบ เพระไม่คาดว่าเทวาลัยจะสวยอย่างนี้ เจ้าบ้านท่านเมตตาจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น หมูแดงสังขารดำ วันที่ตอบ 2006-11-15 12:04:34


ความคิดเห็นที่ 13 (698245)
avatar
เด็กน้อย

ผมว่าคุณยายคงตั้งใจเขียนให้คนที่มองในแง่ลบอ่านน่ะครับ ผมยังไม่เคยไปครับแต่อ่านแล้วรู้สึกดีๆจังครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กน้อย วันที่ตอบ 2006-11-16 15:46:01


ความคิดเห็นที่ 14 (699112)
avatar
asinatantra

อ่านเรื่องเจ้าบ้านใจดีเยอะ ๆ เลยอยากมาอาจหาญแซวคร๊าบบบบบ   ....  คือ...แบบว่า...เออ..เวลาเจ้าบ้านดุขึ้นมาที นะครับ  วิ่งกันกระจายยยยยยยย  เจ้าบ้านตันตระเทวาลัยเราเป็นคนดุมากที่ใจดีมากนะครับ...เอ....จะเข้าใจมั้ยน่า  แบบว่าดุแต่ใจดี  จึ๋ยยย จึ๋ยยยย  ไปดีกว่า.....

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-17 09:27:25


ความคิดเห็นที่ 15 (737333)
avatar
ยายแก่

มีเรื่องเล่า....เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 30.11.49 ยายแบกความทุกข์จนล้นปลี่เข้าไปกราบ

ขอพรพระแม่อุมาเหมือนเช่นเคย แต่ปรากฏว่ามีพิธีกรรมอยู่โดยมีท่านอสินะตันตระ

เป็นผู้ประกอบพิธีเอง และท่านก็กรุณาปิดทองให้ยายด้วย แต่แปลกมากๆ ยายไม่เคย

เป็นแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ คือตัวลอยๆ โงนเงน ต้องพยายามพยุงตัวไว้เดี๋ยวล้ม  

จากนั้นความรู้สึกภายใน(ความร้อนรุ่ม กระวนกระวาย) ทำไมมันชาๆ อย่างนี้

เอ..!!จะอธิบายอย่างไง  คือความทุกข์ ความร้อนรุ่มยังอยู่ ไม่ลืม แต่มันชาๆและทนได้

แปลกมากๆเลยค่ะ จากนั้นยายจึงหันมาเก็บข้อคิด คำสอน จากทุกกระทู้และทุกข้อความ

ที่ท่านอสินะเขียนไว้ แล้วตั้งชื่อโฟลเดอร์นั้นว่า “ปรัชญาท่านอสินะ”  เปิดอ่านทุกวัน

พยายามทำความเข้าใจ รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้างตามกำลังสติปัญญาของยายน่ะค่ะ 

ยายขออนุญาตใช้หน้ากระดานนี้กราบขอบพระคุณ ท่านอสินะ อาจารย์หมี อาจารย์ตู่

อาจารย์นิล อาจารย์นิจ อาจารย์หนึ่ง และอาจารย์ท่านอื่นๆด้วยที่เมตตาช่วยเหลือยาย

                                               กราบขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ยายแก่ วันที่ตอบ 2006-12-16 10:41:08


ความคิดเห็นที่ 16 (737748)
avatar
ผู้รอคำตอบ

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะครับกระผม

กระผมว่าอาการเบลอๆของคุณยายหากเป็นวิทยาศาสตร์ก็คือเป็นลม แต่หากเป็นไสยศาสตร์หรือมิติพิศวงก็ว่าคุณยายได้รับพลังงานบางอย่างแล้วพลังงานนี้จากที่ไหนครับจากท่านอาจารย์อสินะตันตระหรือจากมหาเทพนะครับกระผม หากคำถามของกระผมไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมประการใดโปรดอภัยด้วยครับกระผมเป็นเพราะกระผมไม่รู้เท่าถึงการณ์นะครับแต่ก็อยากได้คำตอบครับกระผม

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้รอคำตอบ วันที่ตอบ 2006-12-16 15:48:08


ความคิดเห็นที่ 17 (738022)
avatar
asinatantra

อืมมมมม  อย่างแรก คิดว่ารู้แล้วหละว่าใครคือ อสินะตันตระ ในสายตาคุณยายแก่ .... จะบอกว่าไงดีอะ  ผม นะ หล่อกว่าอาจารย์คนนั้นเยอะเลยนะผมว่า>>>  จริง ๆ นะ มีใครเห็นด้วยกับผมไม๊

ผู้รอคำตอบครับ  จะเอาคำตอบแบบไหนดีหละ  วิทยาศาสตร์ก่อนนะ ในสมองมนุษย์นั้นมีสองซีก มีสารหลั่งออกมาคนหละแบบ คนละหน้าที่ หากสารข้างใดข้างหนึ่งหลั่งไม่สมดุลย์ ก็จะทำให้เกิดอาการมึนชาได้ อย่างหนึ่ง แต่อะไรทำให้สารในสองซีกนั้นหลั่งได้สมดุลย์และไม่สทดุลย์ ก์คือสภาพร่างกายที่เกิดผิดปกติขึ้นมาจากอารมณ์ ครับ เป็นตัวอย่างง่าย ๆ และการรู้สึกดีขึ้นหรือแย่ลงในความรู้สึกสามารถทำให้ดีขึ้นหรือแย่ลงทางร่างกายได้ ง่าย ๆ อย่างเช่น จิตใจบำบัดที่เอาไว้รักษามะเร็งไงครับ  หวังว่าคงอาจจะเคยได้ยินและได้อ่านมาบ้าง

ทีนี้ทางไสย  วิธีและพิธีกรรมที่สามารถทำให้บันเทาจากความทุกข์ นั้นเกิดขึ้นได้ครับ มันเกิดได้จากการที่ผู้กระทำไสยมีประสิทธิภาพด้วยตนเอง หรือได้รับให้มีประสิทธิภาพในการกระทำพิธีกรรมไสยนั้น  ในกรณีของคุณยายแก่ นั้นไม่ใช่อำนาจของผมแน่นอนเพราะผมมิได้อยู่ในพิธีกรรมนั้น เลยไม่เห็นรายละเอียด มิสามารถบอกได้ ว่าอะไรบ้างในวันนั้น  แต่จากความคิดส่วนตัว อำนาจจากองค์เทพก็เหลือเฝือแล้วครับ.....

ต้องลองดู เมื่อทุกข์ เมื่อไม่ทุกข์ ไม่ต้องลอง ง่าย ๆ แบบนั้นครับ....

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-12-16 19:30:43


ความคิดเห็นที่ 18 (738024)
avatar
asinatantra

คุณยายแก่ครับ  ไม่ต้องตั้งโฟลเดอร์หรอกครับ มีอะไรมาถามได้ผมอยู่เทวาลัยเกือบทุกวัน หาคนที่หน้าตาหล่อเหลาที่สุดนะครับ นั้นหละผม

ผมบอกเด็กทุกคน ตันตริกทุกคนว่าหากชอบแนวคิด หาเหตุ แบบผมแต่ยังไม่เข้าใจบางเรื่อง ก็ถามได้ครับผมไม่ว่า 

ยินดีต้อนรับผู้อยากรู้ เสมอ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-12-16 19:36:06


ความคิดเห็นที่ 19 (739951)
avatar
ผู้รอคำตอบ

ขอบพระคุณครับสำหรับคำตอบ

กราบเรียนถามอีกข้อครับกระผม

กระผมไปที่เทวลัยหลายครั้งแล้วครับกระผม จะทราบได้อย่างไรว่าตนเองได้รับหรือสัมผัสพลังน่ะครับกระผม

ผมฝึกสมาธิมาบ้าง ระยะหลังฝึกบ่อยๆเวลาผมจับเมาส์ทำไมมันรู้สึกแป๊บๆที่มือเหมือนไฟดูด อาการแบบนี้เรียกว่าอะไรครับท่าน กรุณาตอบผมนะครับสงสัยจริงๆ ขอบคุณมากครับท่าน

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้รอคำตอบ วันที่ตอบ 2006-12-17 21:36:12


ความคิดเห็นที่ 20 (740764)
avatar
asinatantra

ตอบผู้รอคำตอบ

ต้องถามตนเองก่อนว่าจะรับหรือสัมผัส พลัง เพื่อการอะไร?

หากคุณหมายถึงการศึกษาไสย รายละเอียดยังมีเยอะให้ศึกษา ซึ่งถ้ายังไม่ได้เป็นผู้ตัดสินใจเรียก ก็ยังคงอธิบายไปก็ไม่มีประโยชน์ ครับ  แต่รากฐานต้องตอบตัวเองก่อนให้ได้ว่าเราจะรับรู้ถึงพลังนั้นเพื่ออะไร แล้วเดินตามทางที่เลือกตอบ หากไม่ได้ตัดสินใจที่จะศึกษาไสยก็ไม่จำเป็นต้องสัมผัสหรือรับรู้พลังเหล่านั้นโดยไม่จำเป็น  ทุกอย่างมีด้านดีและด้านเสีย 

แต่หากอยากทราบเพราะจะได้รู้ว่าพิธีกรรมที่กระทำนั้นมีพลังงานไม๊ เอาแบบนี้เข้าตั้งว่า  สิ่งที่คุณขอพรไปประสบความสำเร็จหรือไม่  หากสำเร็จสมใจก็หมายถึงผู้กระทำมีพลังงาน พลักดันคำขอของคุณให้เป็นจริงได้  หากไม่สำเร็จก็ต้องมาศึกษาตีความต่อว่าผิดตรงรายละเอียดไหนไม๊ และลองกระทำให้ถึงที่สุด อาจารย์ท่านที่หนึ่งทำไม่สำเร็จ ลองอาจารย์ท่านที่สอง สาม สี่ ห้า ไปดู เพราะ สิ่งเหล่านี้อาจารย์แต่ละท่านที่ตันตระเทวาลัยก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรจากทุกท่าน นอกจากรอยยิ้ม....

ส่วนสิ่งที่ถามมาอีกข้อหนึ่งเรื่องรู้สึกเหมือนไฟดูดต้องเอาคำเจ้าบ้าน เข้าบอกครับเจ้าบ้านแห่งตันตระเทวาลัย จะสอนพวกผมเสมอว่า  " คิดให้เป็นวิทยาศาสตร์เข้าไว้ "  คือหมายถึงว่าสิ่งที่ควรเป็นไสย ก็ให้เป็นไสย หากสิ่งไหนไม่จำเป็นแก่การตีความก็ให้คิดในทางวิทยาสาตร์เข้าไว้ เช่น ป่วยก็ไปหาหมอ  ไม่ใช่ป่วยแล้วนั่งสวดมนต์ ประมาณนั้นครับ  ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเรื่องไฟดูดนั้นก็คงเหมือนเวลาข้อศอกขนกับอะไรเข้าแล้วรู้สึกมีกระแสไฟวิ่ง จนแขนชานิด ๆ ไงครับ ....

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-12-18 10:29:58


ความคิดเห็นที่ 21 (740976)
avatar
ผู้รอคำตอบ

คลายสงสัยได้ระดับหนึ่งครับ เข้าใจน่ะครับว่าท่านคงตอบลึกๆไม่ได้อย่างไรก็ดีกระผมกราบขอบพระคุณอย่างสูงครับท่าน

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้รอคำตอบ วันที่ตอบ 2006-12-18 13:49:03


ความคิดเห็นที่ 22 (741155)
avatar
มังคลาตันตระ

ตอนแรกอ่างว่าท่านอสินะตันตระปิดทองให้รู้สึกแปลก ๆ เดียวนี้ พัฒนาเรื่องพิธีกรรม ขนาดนี้เลย  พอท่านบอกว่าผิดคน คุณยายแก่ คงเข้าใจผิด คนที่ปิดให้ คงเท่ มาก ท่านเลยนึกว่าใช่  และท่านที่ปิดไป ก็ ไม่มาเขียนด้วยนะ ว่าไม่ใช่ เดียวก็ว ซ....

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มังคลาตันตระ วันที่ตอบ 2006-12-18 16:11:35


ความคิดเห็นที่ 23 (741159)
avatar
มังคลาตันตระ

แต่ถ้าเป็นท่านเจ้าบัาน ปิดทองให้ ยายแก่ ก็โชคดีมาก ๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น มังคลาตันตระ วันที่ตอบ 2006-12-18 16:14:39


ความคิดเห็นที่ 24 (742216)
avatar
asinatantra

คุณผู้รอคำตอบครับ....อ่านข้อความผมอีกทีหนึ่งครับ  ผมอ่านที่คุณแจงรู้เลยว่ายังไม่เข้าใจสิ่งที่ผมจะสื่อ  อืมมมมม  เอาใหม่

คุณผู้รอคำตอบถามว่า จะสำผัสพลังได้อย่างไรตอนมาตันตระเทวาลัย...ผมถึงถามว่าอยากจะสัมผัสไปเพราะเหตุใด ?

หากคุณผู้รอคำตอบ  ต้องการเป็นผู้ศึกษาไสย เป็นผู้ร่ายมนต์ อันนี้ต้องหัดเรียนรู้การสัมผัส ใช้ และควบคุมพลังครับ ซึ่งอันนี้เป็นอีกกรณีหนึ่วซึ่งพิเศษขึ้นมาจากการมาประกอบพิธีเฉย ๆ ซึ่งสามารถทำได้โดยเดินมาหาเจ้าบ้านและถามว่า  ผมขอเป็นผู้เรียนไสยได้หรือไม่? และรอการพิจารณา ว่าคุณเหมาะหรือไม่

หากคุณผู้รอคำตอบ ไม่ต้องการเป็นผู้ศึกษาไสยหรือเป็นผู้ใช้ไสย  ย่อมไม่ต้องรับรู้ถึงพลังอยู่แล้วครับ  ข้อนี้ไม่ต้องสนใจเลยว่ามันมีพลังหรือไม่และมีแบบไหนด้วยซ้ำเพียงแต่จะเช็คได้ว่าพลังของตันตระเทวาลัยนั้นมีไหมก็แค่ถามตัวเองกลับว่าสิ่งที่คุณหวัง สำเร็จหรือไม่  แค่นั้น....

ผมบอกชัดเจนว่า  ของทุกอย่างมีสองด้าน สิ่งไหนที่ควรเป็นไสยก็ให้เป็นไสย สิ่งไหนไม่จำเป็นต้องเป็นไสยก็ให้เป็นวิทยาศาสตร์เข้าไว้ 

แน่นอนว่ามนุษย์เราชอบที่จะเป็นบุคคลพิเศษและ/หรือมีมากกว่าคนอื่น ๆ ที่เป็นมนุษย์ด้วยกัน  มันเป็นข้อปกติของพฤติกรรมมนุษย์ แต่เราต้องหัดให้มันอยู่ในความพอดี  พลัง จะมีไปทำไมหากไม่จำเป็น  ผมเองก็เป็นตันตริกที่ไม่มีพลังอะไรเลย เพราะชีวิตผมไม่มีความจำเป็นต้องมี...การเป็นผู้มีพลังไสยและ/หรือเป็นผู้สามารถประกอบพิธีไสยร่ายเวทย์ได้นั้น ต้องแลกเปลี่ยนกับอะไรบ้าง  คุณ ๆ รู้กันหรือไม่ ?? ทุกคนควรจะศึกษาก่อนมิใช่ว่า  ขอแต่ให้มีพลัง  แค่นั้นพออันนั้นเรียกคิดไปไม่ไกลพอ ในโลกมนุษย์นี้ของทุกอย่างมีสองด้านเสมอ เสมอ  +++ เหล่าอาจารย์ที่ตันตระเทวาลัยต้องเสียสละอะไรบ้าง ในการแลกมาซึ่งเป็นผู้ประกอบพิธีไสยและร่ายเวทย์ ได้...

คุณ ๆ อาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่า " ความรู้คือลาภ " มันแปลอะไรอยู่ในประโยคนี้ คิดให้ลึกตีให้แตก ถึงความหมาย..

หากคุณยังมีผู้ที่สามารถกระทำไสยให้โดยผ่านคนอื่นได้อย่าไปเรียนไปมีมันเลยครับ พลัง นะ ขอเสียมีเยอะแยะ  ทีนี้ไปให้คนอื่น ๆ ทำพิธีไสยให้นั้นถามว่าจะรู้ได้ไงว่าโดนหลอกหรือเปล่าเพราะผมก็เห็นโดนหลอกกันเยอะแยะ ตามทั่ว ๆ ไป  คำถามนี้แก้ง่ายนิดเดียวแต่แค่ขอให้ตั้งใจทำ คือ  ตั้งสติตนเองและถามตนเองว่าคุณเสียอะไรไปและคุณได้อะไรกลับมาในการกระทำไสย  นั้น ๆ ตามสถานที่นั้น ๆ แค่นั้นเองและยอมรับกับความจริงซะว่า  ตนถูกหลอกหรือไม่  .....  มันตอบของมันเองอยู่แล้ว

ต้องขออภัยล่วงหน้า ถ้าดุไปหน่อย  แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่าทุกอย่างไม่ใช่ไสย  ตามเจ้าบ้านว่า  " คิดให้เป็นวิทยาศาตร์เข้าไว้"

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-12-19 10:51:09


ความคิดเห็นที่ 25 (744532)
avatar
ผู้รอคำตอบ

ขอบพระคุณสุดๆเลยครับ ท่านอาจารย์อสินะไม่ดุครับแต่เป็นการพยายามอธิบายให้ลึกและชัดเจน ผมกราบขอบคุณครับท่าน เป็นบุญของกระผมที่ได้รู้จักตันตระเทวลัยได้พบแหล่งความรู้และมีผู้รู้ที่พร้อมจะอธิบายครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้รอคำตอบ วันที่ตอบ 2006-12-20 20:35:11


ความคิดเห็นที่ 26 (745034)
avatar
ยายแก่

Ref.ความเห็นที่๒๒,๒๓ 

ยายมีความศรัทธาและเคารพท่านอาจารย์ในเทวลัยทุกท่านค่ะถึงจะไม่ใช่ท่านอสินะแต่ยายก็ยังคงนับถือศรัทธาและดีใจนักหนาที่อาจารย์ท่านเดิมสวดบททุกข์ในรักให้ในอีกสามวันถัดมาหลังจากทราบแล้วว่าท่านไม่ใช่ท่านอสินะค่ะ

ยายมักเข้ามาเล่าอะไรต่อมิอะไรในบอร์ดนี้ด้วยสำนวนเฮๆฮาๆแต่ที่ไหนได้เขียนมือซ้ายป้ายน้ำตามือขวา อือ อือ............

เมื่อเขียนเล่าไปว่าตนเองเข้ามาเทวลัยนี้เพราะมีความทุกข์ก็มีคำถามตามมาว่าตันตระเทวลัยช่วยได้ไหม ช่วยอย่างไร สำเร็จหรือไม่ หากมีโอกาสยายจะเล่าให้ฟังนะค่ะ แต่ต้องขอเวลาเพราะการจะเขียนถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สถานที่และบุคคลคงต้องกลั่นกรองถึงความเหมาะสม อะไรควรและไม่ควรด้วยค่ะ

ขอบพระคุณท่านมังคลาตันตระที่กรุณาชี้แนะว่าท่านเจ้าบ้านปิดทองคลายทุกข์ได้ นั่นคือสุดยอดปรารถนาของยายค่ะ แล้วยายจะมีวาสนาไหม? ลำพังท่านสนธนาด้วยยายก็มือไม้สั่นไปหมดแล้ว จะอาจหาญไปกราบขอท่านได้ไง นอกจากท่านจะกรุณาหยิบยื่นให้เองด้วยใจเมตตาต่อยายที่นับถือศรัทธาท่านสูงสุดค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ยายแก่ วันที่ตอบ 2006-12-21 10:23:48


ความคิดเห็นที่ 27 (745255)
avatar
asinatantra

อะจึ๋ยยยย.......  ทุกครั้งที่มีคนเรียกผมแบบสั้น ๆ กระทัดรัดแบบนี้ทีไร มันมีอันต้องปวดกระดูกทุกที..

อสินะ   เป็นชื่อ คุรุ ที่ผมรักสุดหัวใจท่านหนึ่งซึ่งไม่อาจเอื้อมให้แม้แต่คล้าย ๆ ....ผมเลยได้ชื่อแบบตันตริกมาว่า  อสินะตันตระ  ไงครับทีนี้พอเรียกสั้น ๆ ก็จะกลายเป็นชื่อคุรุไปซึ่งนำมาซึ่งความสยึมกึ๋ยในกระดูกมากกก ครับ....

ตามที่มังคลาตันตระแจงเลยครับ  ฝีมือปิดทองคลายทุกข์  ของเจ้าบ้านแห่งตันตระเทวาลัย  นั้นสุดยอด    เนื่องจากเคยมีโอกาศได้ลองมาด้วยตนเองเมื่อครั้งศึกษาทุกข์ลึกไปหน่อยจนโดนด่าและลากออกมาสู่โลกปกติ...แต่เจ้าบ้านไม่แปะให้นะสิครับ คือปัญหา  เจ้าบ้านเป็นผู้ศึกษา วิมุติ(ศาสตร์แห่งการหลุดพ้น)  เจ้าบ้านเลยหลุดพ้นจากเรื่องพวกนี้ ไม่มีอะไรผูกมัดเจ้าบ้านอีก  หรือคำถามอาจจะเป็นอย่างนี้ก็ได้  ทุกข์เท่าไหร่ท่านถึงจะแปะให้  อาจจะจำเป็นต้องทุกข์จนถึงระยะร่างกายทิ้งตนเองแล้ว คือร่างกายปฏิเสธพลังงานแล้ว อันนี้ผมไม่ได้หมายการฆ่าตัวตายนะครับ  ผมหมายถึงเมื่อทุกอย่างในร่างกายปฏิเสธการดำรงค์อยู่ครับ  คือถึงกินข้าวได้ หัวเราะได้ทุกวันก็ตายอยู่ดี ประมาณนั้น

เพราะของทุกอย่างมีสองด้านไงครับ..... ท่านถึงไม่แปะให้โดยไม่จำเป็น

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-12-21 12:39:14


ความคิดเห็นที่ 28 (746790)
avatar
ยายแก่

ขอบพระคุณที่ให้ความกระจ่างและกราบขอประทานโทษด้วยค่ะหากเรียกท่านผิดไปด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ค่ะ กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ยายแก่ วันที่ตอบ 2006-12-22 12:21:08



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.