ReadyPlanet.com


ถามอีกแล้ว_ทุกวันเลย
avatar
กาณฑ์


1. เวลาไปสักการะท่านไม่ควรมองพระพักตร์ท่านหรือ..ให้มองแต่พระบาทขององค์ท่าน. 2. ของที่ไหว้เจ้าไม่ว่าจีน-ไทย ไม่สมควรเอามาทานหรือครับ.


ผู้ตั้งกระทู้ กาณฑ์ โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2007-10-25 09:12:45


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1220980)
avatar
กาณฑ์
ถามต่อนะครับ 3. บทสวดที่ 67 เกี่ยวกับอะไร 4. ที่แบ่งเป็น ขาว ดำ เกี่ยวกับสีใน วัชรยานหรือเปล่าครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น กาณฑ์ วันที่ตอบ 2007-10-25 14:22:14


ความคิดเห็นที่ 2 (1221057)
avatar
เจ้าบ้าน

ตอบนะครับ

1  มองพระพักตร์ได้หรือไม่ได้อยู่ที่คุณศรัทธาท่านในแบบใด ถ้าเป็นนายเป็นเจ้าชีวิต ควรมองแต่พระบาท มองพระพักตร์ได้ แต่ห้ามจ้องห้ามสบพระเนตร ถ้าเป็นแบบลูกหลาน มองไปเถอะครับ มองด้วยความรัก มองขอความเมตตา มองเท่าไหร่ก็ไม่ผิดครับ

2  ของไหว้เจ้า หมายถึงไหว้สิ่งศักดิ๋สิทธิ์ ละก็ ทานได้ครับ เพราะถือว่าท่านมีวรรณะสูงกว่าเราขอมาทานได้ ครับ

3  บทสวดที่67 เป็นเรื่องขอพระเกี่ยวกับการขอทุเลาเบาบางเรื่องความผิดหวัง ล้มเหลวครับ รวมทั้งเรื่องของเสียหาย อุบัติเหตุด้วยครับ

4  ไม่ใช่ครับ เป็นแนวทางความพอดีในแบบตันตระครับ ขาวให้รู้ว่ามีดำ   ดำให้รู้ว่ามีขาว  ในความถูกย่อมมีความผิดเสมอ ในในความผิดก็มีความถูกแฝงอยู่เช่นกัน พ่อโขมยอาหารมาให้ลูกประทังชีวิต พ่อเป็นคนดีสำหรับลูกเสมอ แม้อาจเป็นคนเลวในสายตาของสังคม ถามว่า พ่อแบบนี้ ควรมีคนช่วยเหลือหรือไม่ ตันตระเทวาลัยช่วยหรือไม่  ตอบได้เลยครับว่า  ตันตระเทวาลัยไม่มีสิทธิ์ ในการตัดสินความถูกหรือความผิดของคน เรามีหน้าที่ช่วยเหลืออย่างเดียว เพราะกรรมที่เกิดขึ้น นั้นย่อมผูกพันมาหลายชาติภพ ใครโขมยใครก่อน นั้น เราอาจจะไม่รู้แจ้งก็ได้ ใครผิดต่อใครก่อนเราก็อาจไม่รู้ถ่องแท้ขอเพียงแค่คนนั้นรักและศรัทธาในองค์มหาเทวะ เราก็มีหน้าที่ๆต้องช่วยเหลือครับ จึงเป็นที่มาของชุดขาวล้วนหรือดำล้วนครับ จะดีจะชั่ว ก็เป็นบริวารลูกหลานของมหาเทพได้ หากรักและศรัทธา ตั้งใจมั่นเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทิศทางที่เจริญขึ้น ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าบ้าน วันที่ตอบ 2007-10-25 15:14:55


ความคิดเห็นที่ 3 (1221103)
avatar
กาณฑ์
ขอบคุณท่านเจ้าบ้านมาก ๆ ครับที่กรุณาไขข้อข้องใจ อยู่พระพุทธบาทครับ ตอนนี้รู้สึก ทุกข์ ๆ ๆ จนมันสับสนปนเปไปหมด อยากไปกราบขอพรบ่อย ๆ ไม่ทราบถึงความเหมาะสมว่าควรหรือไม่ อย่างไรครับ จริงอยู่ครับ สุข-ทุกข์อยู่ที่ใจ แต่เมื่อทุกข์เกิดจากปัญหา ปัญหายังไม่ได้รับทางแก้ไข บรรเทา ไม่หยิบมาคิด มาหาทางออก ก็ไม่ไ้ด้นะครับ เพราะเราเผชิญกับปัญหาอยู่ เพียงแต่ไปเทวาลัยแล้วรู้สึกเหมือนได้พลังบางอย่างในใจ อาจเป็นความหวัง ก็เลยทำให้อยากไป ก็รู้สึกขอบคุณท่านเจ้าบ้านและอาจารย์ทุก ๆ ท่านมากเลยที่ทำให้มีสถานที่เช่นนี้ เหนื่อยหน่าย กับชีวิต เจ็บปวดกับชีวิต ก็ยังมีที่ให้หลบให้พัก ขอบคุณครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น กาณฑ์ วันที่ตอบ 2007-10-25 15:39:49


ความคิดเห็นที่ 4 (1226570)
avatar
จิงปะ
ทุกข์และเหตุแห่งมันคนละเรื่องนิ การแก้ปัญหาโดยไม่ทุกข์ก็มีนิทุกคนมีปัญหาทั้งนั้นไม่ว่าเงินไม่มี ป่วย หางานไม่ได้ และอีกหลายอย่าง แต่ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องทุกข์นะ คิดให้มีสุขก็ได้เช่น ดีใจนะที่เรายังมีแรงยังมีคนที่เรารู้ว่าจิงใจกับเรา มีคนที่เป็นห่วง เพราะถ้าเราไม่มีทุกข์ เราก็จะหาบุคคลที่จิงใจ เป็นห่วง รักเราไมได้ เข้าใจไหมเอย นี้ก็ทำให้ไม่ทุกข์ละ แต่ปัญหายังอยู่ ก็ต้องคิดหาทางแก้ไขต่อไปแต่ไม่ทุกข์ละ
ผู้แสดงความคิดเห็น จิงปะ วันที่ตอบ 2007-10-29 07:44:26


ความคิดเห็นที่ 5 (1226610)
avatar
กาณฑ์
ก็จริงครับ..เพราะถ้าเราไม่มีทุกข์ เราก็จะหาบุคคลที่จิงใจ เป็นห่วง รักเราไมได้...ข้อนี้ถูกที่สุดเลยครับ ขอบคุณครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น กาณฑ์ วันที่ตอบ 2007-10-29 08:14:53



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.