ผมขออธิบายแทนละกันนะครับ ประโยคว่า เข้าใจเมื่อไหร่ต้องจ่ายเมื่อนั้น  เป็นประโยคประชดความเป็นจริงในโลกนี้ครับผมจะยกตัวอย่างอีกสักอันสองอันเผื่อคุณจะได้เข้าใจคำล้อเลียนประชดประชันของพวกเราได้มากขึ้น เช่น

วันหนึ่งคุณก็ออกจากบ้านไปทำงานหรือทำธุระตามปกติ เผิอญคุณถูกคนๆ หนึ่งหยุดคุณไว้จากการเดินอยู่ แล้วบอกว่าเค้าตกรถเลยกระเป๋าสตางค์หาย เค้ากำลังเดินทางไปช่วยญาติผู้ใหญ่ที่โรงพยาบาล ญาติผู้ใหญ่ของเค้าคนนี้ป่วยเป็นโรคร้ายมาหลายปีทุกข์รทรมานมากไม่มีเงินรักษา มีลูกสามคน ลูกแต่ละคนทำงานอยู่ที่บริษัทดี ๆ ทั้งนั้นเลยแต่ไม่มีใครมาดูแลญาติผู้ใหญ่ของเค้าคนนี้ซักคน แต่ว่าเมื่อเดือนก่อนญาติผู้ใหญ่คนนี้ถูกล็อตตารี่เลขรางวัลใหญ่ได้เงินมาก็หลายบาทเลยมีเงินจะรักษาตัวแล้ว เค้าก็แนะนำ นัดแนะกันว่าจะไปเจอกันที่โรงพยาบาลในวันนี้ตรงหน้าห้องทะเบียนที่ตอนนี้โรงพยาบาลปรับปรุงใหม่สวยงามกว่าเดิมเยอะ ที่ต้องไปเจอที่นั้นเพราะญาติผู้ใหญ่พึ่งไปเบิกเงินมาจากธนาคารก็เลยตรงไปโรงพยาบาลเลยเพราะกลัวเงินจะหาย นี้เพราะตนเองตกรถอยู่ตรงนี้ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นอะไรได้หรือป่าวเพราะญาติผู้ใหญ่อ่านหนังสือไม่ออกเพราะสมัยเด็กไม่ได้เรียนหนังสือเพราะครอบครัวจนมากๆ  .... ผมเชื่อว่าพอคุณฟังคุณก็เริ่มทำความเข้าใจว่านั้น นี้ และ โน้นและพอจะเดาจุดสุดท้ายได้จริงมั้ยครับ  สุดท้ายคนนั้นก็ขอให้คุณช่วยซักนิดซักหน่อยเรื่องค่ารถจะไปหาญาติที่โรงพยาบาล ซักยี่สิบก็ได้ ..ผมเชื่อว่าคุณ ๆ หลายๆ คนก็จะควักกระเป๋าหยิบแบงค์ยี่สิบให้ไป ..เมือ่โดนเรื่องแบบนี้ ก็จะทำให้นึกถึงประโยคนี้ว่า  ฟังตั้งนานนนนนน  พอฟังเข้าใจว่าอะไรก็ต้องเสียเงินยี่สิบ จริงมั้ยครับ

และมันก็มาแปลเป็นนัยสูงขึ้นไปเอาไว้ประชดเรื่องกรรม ได้ว่า ถ้าคุณฟังรู้เรื่องว่าคุณเป็นหนี้กรรมเท่าไหร่เวลาเจ้ากรรมนานเวรมาทวง คุณก็ต้องจ่ายคืนเมื่อนั้น

ขอนุยาดท่าน asinatantra มาร่วมขยายความ"เข้าใจเมื่อไหร่ ต้องจ่ายเมื่อนั้น"

ด้วยอีกคนนะคะ

เมื่อก่อนชอบดูดวงจัง...ใครว่าที่ไหนดีที่ไหนเด็ดไปหมด

คราวนี้พอเค้าบอกว่า ชาติก่อนนะเราฆ่าคนนั้น...คนโน้น...คนนี้

ชาตินี้เลยเป็นอย่างนั้น...อย่างโน้น...อย่างนี้

จะต้องไปถวายสังฆทานเท่านี้ถัง....ปล่อยสัตว์จำนวนเท่านี้.....ถ้าไม่ทำจะโดนมากกว่าที่เป็นอยู่นี้...

เพราะอะไร....เพราะรู้แล้วว่าไปทำอะไรมา...

ไม่ว่าเชื่อหรือไม่เชื่อ.... ถ้าไม่ทำก็ไม่สบายใจอยู่ดี (ในตอนนั้นหน่ะนะ)

ก็เลยได้แต่ เฮ้อ... รู้แล้ว...ต้องจ่าย!!! 

เอานึกตัวอย่างอีกอันที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน เรื่องกรรม มาทำให้เห็นภาพ ..

คุณมีเพื่อน หรือ บุคคล ที่สนิทรักชอบพอกันมากอยู่คนหนึ่ง ชีวิตดำเนินไปทุกๆ วันมีความสุขสนุกสนาน เพราะคุณไม่รู้...แต่มาวันหนึ่งคุณได้รู้ว่าบุคคลที่คุณสนิทสนมรักไคร่ชอบพอมากคนนั้น มียศ ฐา บรรดาศักดิ์มากอย่างไรเป็นใครมาจากและไหนมีอำนาจระดับไหน   ความรู้สึกและความสนิทสนมดังก่อนตอนที่คุณไม่รู้ จะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีกเลย...

พอเข้าใจมั้ย " เข้าใจเมื่อไหร่ต้องจ่ายเมื่อนั้น "

"จ่าย" น่าจะแปลว่าสูญเสียหรือเป่า

สูญเสีย  ของมีค่า เงินทอง ทรัพย์สิน

สูญเสีย  ลาภ ยศ สักการะ

สูญเสีย  ความรู้สึกดีๆ ความรัก หรือแม้กระทั่งความรู้สึกที่ไม่ดีก็ได้เนอะ

สูญเสีย  ความเป็นตัวเอง

ที่ว่ามานี้เคย "จ่าย" ไปหมดแล้ว ยกเว้น

สูญเสีย  เสียชีวิตอย่างไม่มีทางได้กลับ

ชอบกระทู้นี้จัง  ยิ่งวิพากย์ยิ่งได้รับผลส้ม  ยิ่งเข้าใจในความหมายของการใช้ชีวิต  ยิ่งอยากมีความสุขแบบไม่มีทุกข์อีกเลย

เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้....แต่ไม่รับ

แล้วทำเป็น...ไม่รู้

เมื่อนั้นก็ยังมิต้อง"จ่าย" ใช่ไหมคะ....อิอิ

รู้แล้วต้องจ่าย ถ้าจ่ายแล้วคุ้ม ผมก็ยอมจ่ายครับ

ความคิดเห็นที่ 5 อันนี้เรียก เนียนๆ ครับ..คำนี้ใช้มั้ยวัยซะรุ่นเค้าใช้กัน  จัดไปแบบเนียนๆ ...ส่วนคุณจะเนียนได้เนียนขนาดไหน อันนี้ต้องดูกันต่อไป