ReadyPlanet.com


สาระพันทุกข์ สุข ของอสินะตันตระ
avatar
asinatantra


เนื่องจากกระทู้สาระพันทุกข์สุข เดิมถึงวาระที่ต้องจากไป  . . จึงได้โอกาสตั้งกระทู้บ่นใหม่ คราวนี้ใส่ชื่อตัวเองไว้เลย จะได้ไม่ต้องละอายใจที่รู้สึกว่า มีทุกข์สุข อยู่กะเค้าคนเดียว  หุ หุ ใครที่แวะมาอ่านก้อเตรียมใจ ถัดจากนี้ไป ผมก้อจะบ่นของผมไปเรื่อย ^_^ - -   eternity complain > > >


ผู้ตั้งกระทู้ asinatantra โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2006-05-30 09:49:21


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 [7] 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 301 (975118)
avatar
บี๋อ้วน

นี่เรื่องจริงนะเนี่ย คนเรามักจะคิดว่าถ้ารักกันจริงต้องยอมรับได้ทุกอย่าง แต่บางทีก็ลืมไปว่าวันแรกที่เจอกัน รักกัน เราไม่ได้เป็นแบบนี้นี่นา แล้วไอ้การที่จะหาคนที่คิดว่ารักแล้ว จะยอมรับได้ทุกอย่างมันเก๊าะ หาย๊ากกก เต็มทน

ก้องี้แหละค่ะ ผู้หญิงมันเยอะกว่าผู้ชายมากมายหลายเท่า แล้วผู้ชายที่มีอยู่เนี่ย ก็หาแท้ ๆ ยากเหลือหลายอีกเหมือนกัน เฮ้อ...

ก็ทำใจเนอะ ทางเลือกมันเยอะ นี่นา หึหึ

ผู้แสดงความคิดเห็น บี๋อ้วน วันที่ตอบ 2007-05-27 19:40:48


ความคิดเห็นที่ 302 (993324)
avatar
asinatantra

อาทิตย์ก่อนไปดูหนัง the world end มามีตอนหนึ่งของหนังที่ใช้การสื่อสารของจิตวิญาณด้วยปูตัวขาวหม่น ๆ ....ตอนหนึ่งจิตวิญาณตนหนึ่งที่กลายร่างเป็นตัวใหญ่มั่ก ๆ และในที่สุดก็ได้สลายตัวกลายเป็นปูตัวขาวหม่น ๆ เป็นร้อยๆๆๆๆๆๆๆ หล่นผลั่ก มาบนพื้น แล้ว ปูทั้งหมดก็เริ่มเดิน ทำตาล็อก แล๊ก ไปมา ดุกดิ๊ก ดุกดิ๊ก หลังจากที่ปูเริ่มเดิน บางตัวก็เดินตรง บางตัวก็เดินเป๋  แล้วจะมีอารมณ์ในหนังปะมาณว่า ปูพูดกันเองว่า

เอ เอ ทางนี้ดิ  .... ทางนี้เฟ่ย....

แล้วก็เริ่มเดินกันกุ๊บ กั๊บ กุ๊บ กั๊บ....แต่มันเดินกันไปตัวละทาง!!!!

ดูแล้วก็ขำนึกถึง ตันตริกที่ท่านคุรุ และ เจ้าบ้าน เปรียบเป็น ปู  ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าอยากจะเดินไปทางไหน แต่พฤติกรรมสังขารมันไม่ให้ นะจิ เลยเดินไม่ตรง ฮ่ะๆๆๆ ฮา ๆๆๆ  นึกแล้วขำ อะ

ใครดูหนังเรื่องนี้แล้วคงจำฉากนี้ได้  ++++  ลองนึกเปรียบเทียบดูจิ ว่าตันตริกนะเป็นแบบนี้เปี๊ยบ....อิ อิ อิ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-06-09 10:14:57


ความคิดเห็นที่ 303 (1063826)
avatar
asinatantra

อ้าวววววว

กระทู้ 303 ถึง 306 ก่อนหน้านี้มันหายไปไหนอะ!  เนื้อที่ในกระดาษไซเบอร์มันหด ได้ เหมือนผ้าโดนแช่น้ำด้วยเหรอ????

ใครรู้บ้างบอกผมด้วย ?

หรือว่าโดนเจ้าบ้าน ลบไป?  แหะ แหะ อันนี้ไม่ขอค้าน คร๊าบบบบ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-07-19 10:28:14


ความคิดเห็นที่ 304 (1082226)
avatar
asinatantra

โดดงานไปเที่ยวมาหลายวัน  กลับมาอ่านกระทู้ในเว๊ปยอมรับว่าต้องร้อง ว๊ากกกกกกกกก   อะไรจะขนาดนี้  คงเหมือนบทความวิจารญ์ที่เคยว่าคนสมับนี้อยากได้ทุกอย่างเหมือนพิซซ่าเดลิเวอร์รี่  ง่าย เร็ว ++

อ่านไปก็กลุ้ม บวก งง แล้วถ้าคิดแบบนี้ทุกอย่างนี้มันจะรอดไม๊อะ  มนุษย์มีข้อเสียด้านนี้มากขึ้น ๆ ทุกวันคือการขาดสติ  พอไม่มีสติทุกอย่างก็ไป สมาธิ หลักการคิด หลักการแก้ปัญหา  นึกได้อย่างเดียวว่า

กด ตูดๆๆๆ ฮาโหล ขอสั่งแก้ทุกข์หน่อยครับ ต้องมาส่งใน 30 นาทีด้วยนะ?????????  โอ้ววววพระเจ้าจอร์ท มันยอด มากกก

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-07-31 17:05:03


ความคิดเห็นที่ 305 (1104682)
avatar
00

ท่านครับ อยากทราบว่าถ้าเกิดเราอาจจะพอเข้าใจในคำสอนของท่านคุรุ บางคำสอน เช่น หยิบได้วางได้ค่อยหยิบ เราจะต้องเจอบททดสอบด้วยหรือไม่ครับ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราเข้าใจมันได้จริง ๆ หรือไม่ และมันจะต้องเจอทุกคำสอนที่เราเข้าใจหรือเปล่าครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น 00 วันที่ตอบ 2007-08-12 00:40:49


ความคิดเห็นที่ 306 (1104772)
avatar
11

ขอตอบแทนท่านหน่อย นะ ก็คือการตั้งศีลไง ติดเรื่องอะไร ก้อ ลองบังคับเรื่อง นั้นซิ

ผู้แสดงความคิดเห็น 11 วันที่ตอบ 2007-08-12 08:05:32


ความคิดเห็นที่ 307 (1105646)
avatar
asinatantra

ตอบคุณ 00

เอาเป็นว่าผมจะแกล้งว่าคุณเป็นตันตริกนะ  วันหลังอยากจะถามเรื่องปรัชญาตันตระ ช่วยผมใส่ชื่อหน่อยเถอะนะ  ไม่ได้กลัวอะไรหรอกกลัวว่าตอบคนนอกไปก็จะทำให้ปวดหมองกันไปเปล่าๆๆ

เอาหละ  อะไรที่จะทำให้รู้ว่า อ้ายที่เรียนมามันใช้ประโยชน์ได้จริงหละ  ก็ต่อเมื่อใช้จริงได้มั้ย....ถึงผมเองจะเป็นพวกเพี้ยนตามท่าน ๆ คุรุบ่นบางที เพราะชอบหาทุกข์ใส่ตัวเป็นครั้งคราว แต่การหาทุกข์ใส่ตัวก็เพื่อพิสูจน์ว่าปรัชญาที่ผมคิดว่าผมรู้นั้น มันนำมาปฎิบัติจริง ๆ ได้ในชีวิตหรือเปล่า  พอชีวิตมันเกิดทุกข์ผมจะกลับมายืนในตำแหน่งสุขเดิมได้เร็วหรือช้าขนาดไหน  ...บททดสอบบางทีก็ไม่ด้มาจากคุรุหรอก บางทีเราก็หาเรื่องมาใส่ตัวเองนั้นแหละ

"หยิบได้วางได้ค่อยหยิบ วางได้หยิบได้ค่อยวาง" ....ประโยคเต็มเป็นแบบนี้  อะไรวาง วางแล้วอะไรคือหยิบ  ถามมาได้จะตอบห้ถ้าใส่ชื่อมา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-08-13 20:59:24


ความคิดเห็นที่ 308 (1127731)
avatar
asinatantra

แอ๊บ....เป็นคำวัยรุ่น  ที่ไม่ใช่รุ่นผมแน่นอน  ใช้กันอย่างแพร่หลาย  เช่น  แอ๊บแบ๋ว แอ๊บเด็ก แอ๊บโง่ แอ๊บเก๋  อะไรก็ตามแต่..ผม อะ ตกหลุมรักคำๆ นี้จริง เลยเพราะมันอธิบายอะไร ๆ ให้กระจ่างได้เยอะเชียว

แอ๊บโง่..เป็นคำที่ผมใช่บ่อยสุด

เรื่องขำ ๆ เมื่อวานที่ผมเอาแอ๊บโง่มาใช้ เอามาเล่าให้เพื่อน ๆ อ่าน ค่ำวานผมเจอเพื่อน(มนุษย์)  เพื่อนทำตาโตมาเลย ว่าไปเจอหนังสือเกี่ยวกับปรัชญาเล่มหนึ่งดีมากๆ ชวนผมคุยเรื่องนี้โดยเอาไวน์แดงมาล่อ  ผมก็เอาจิเลี้ยงไวน์ผมละก็ คุยมาเถอะเรื่องไร ผมฟังได้หมด อิอิ  เพื่อนบอกว่าในหนังสือเล่มนี้ปรัชญามันเริ่มตรงที่ว่า

ผู้รู้ที่รู้ว่าตนเองรู้นิดเดียว กับผู้รู้ที่รู้ว่าตนเองรู้หมดแล้ว  ใครจะรู้มากว่ากัน....

เพื่อนบอกว่าปลื้ม...มันเป็นประโยคที่ดีมากเพราะคนที่รู้ว่าตนเองรู้นิดเดียวย่อมมีโอกาสเรียนรู้มากขึ้น แต่ผู้รู้ที่รู้ว่าตนเองรู้หมดแล้ว จริงๆ แล้วคือไม่รู้    แล้วเพื่อนก็หันมาถามผมว่า  เข้าใจมั้ยมันเป็นประโยคปรัชญานะ  ผมเข้าใจเรื่องปรัชญามั้ย มันเข้าใจอยากนิดนึง!

ผมก็  แอ๊บแบ๋ว แอ๊บโง่  ด้วยรอยยิ้มหวานๆ กับตาใสๆ โดยตอบไปว่าผมเข้าใจ    เพื่อนก็ยังไม่เชื่อเพราะหน้าไม่ให้ตามที่บอกไว้บ่อย ๆ ....ทีนี้เพื่อนก็เริ่มอธิบาย ยาววววว วววว  เลยเพื่อให้ผมเข้าใจประโยคนี้

เอาเถอะ ผมจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจในสายตาเพื่อนในค่ำวานนี้    แต่ที่แน่ๆ เวลายาวววววว นานที่เพื่อนเพียรอธิบายปรัชญาให้ฟัง ผมก็ กระดึบ กระดึบ ไวน์ของเพื่อนไปจนหมด ขวดดดดด

อิอิ  แล้วคุณ ๆ ว่าผมเข้าใจที่เพื่อนพยายามบอกผมมั้ย? นะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-08-26 10:52:58


ความคิดเห็นที่ 309 (1135080)
avatar
asinatantra

ของไม่ดี ที่ส่งผลดีก็มีนะ? ?

*^* ขำๆๆ   เนื่องจากว่าตอนนี้ผมตรงยาวๆ กำลังไม่เทรนดี้อย่างแรง ผมก็อยากจะมีผมเป็นลอน หงิกงอ พอหล่อกะเค้าบ้าง ก็ ทั้งดัด ทั้งม้วน ทั้งมัด แต่เจ้าผมสุขภาพดีมากเกินเหตุของผมมันก็กลับมาตรงแป่ะอีก ภายในหนึ่งถึงสองชั่วโมง...กลุ้มจาย จริงๆ  ๆ . .

วันหนึ่งได้เจอคุณเป็ดหรือ(อาเป็ด)ของหลาย ๆ คนที่นี้ ผมก็กรี๊ด แตก โหหหห  ผมสวยจังเลยแบบที่อยากได้เลย นะนั้น  ....

ผมก็เข้าไปถามว่าทำอย่างไรให้ได้ผมแบบนี้ ผมเพียรมาหลายขนานไม่ประสบความสำเร็จซักที  อาเป็ดตอบกลับมาว่า อย่าทำให้ผมดี! แล้วก็มัด ๆ เอาไว้ตอนนอนพอเช้ามาก็จะหงิกไปมา + +

ผม อะ???? ...ทษฎีนี้ไม่เคยลองแหะ  เพราะเคยแต่หมั่นภาคเพียรทำให้ผมตัวเองสุขภาพดี ใส่มันเข้าไปทุกอย่าง วิตามิน ครีม ฯลฯ  5555  ถึงบางอ้อ   จริงสินะ ....ตั้งแต่นั้นผมก็ปล่อยผมตัวเองแบบไม่ต้องไปสนใจมันมาก ครีมนวดใส่นิดเดียว หวีบ้าง ไม่หวีบ้าง ไม่อบไอน้ำ ไม่ใส่ยาบำรุง  ตื่นนอนมาก็ปั้นๆๆ  ยีๆๆๆ  ไม่ต้องหวี ไม่ต้องแปรง ?? เหอะ เหอะ หิ หิ  ได้ผลแหะ!  มันเริ่มหงิกนานขึ้นแถมได้สีน้ำตาลแก่ ๆ อีกต่างหาก..

ดูดิ  ของเสียให้ผลดี ๆ ก็มีนะ ....  ตอนนี้อะ ผมก็เริ่มแฮ๊บ*** กับ ผมหงิก ๆ ของตัวเองแล้วคร๊าบบบบบ

ขอบคุณ  อาเป็ด .........คร๊าบบบบบบบ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-08-30 10:19:56


ความคิดเห็นที่ 310 (1149697)
avatar
asinatantra

เทคโนโลยีเกินกำลัง.....

วันพฤหัสที่ผ่านมาดวงของเครื่องเทคโนโลยีผมคงจะดีเอามากๆ ถึงมากสุด  เหตุเพราะในวันเดียวกันมีคนให้คอมโน๊ตบุ๊ค กับP  DA ผมมาอย่างละเครื่องโดยที่มิได้นัดหมาย แหมมมม  ไอ้ดีใจก็ดีใจมากเลยคร๊าบบบ แต่อ้ายสมองโลเทคโนโลยีของผมมันมีเร็มไม่พอจะเข้าใจอะไรเลยนะสิ คนโน้นช่วย คนนี้ช่วย ก็แล้ว ผมก็ทำตาปริ๊บๆ น้ำตาจะไหลเอาเพราะจำวิธีใช้ไม่หมด  เดือดร้อนเจ้าบ้านแสนใจดีต้องมานั่งปวดเศรียรเวียนเกล้ากับพฤติกรรม ค ว า ย ของผม....เฮ้อ  บางทีการว่าตัวเองมันก็แปลกอยู่ แต่ผมก็บ่นของผมมาตั้งแต่เมื่อวานว่า "เกิดมาเป็น ค ว า ย แท้ๆ"จนเจ้าบ้านก็ใจดีปลอบใจ ว่าใจเย็น ๆ ๆ....

ก็เอาตามท่านว่า เลิกทำความเข้าใจ กลับบ้านอาบน้ำ กระดึ๊บๆ ยินโทนิค ไปสองแก้ว! เอออ แหะ ค่อยดีหน่อย....หายมึนหัวไปได้บ้างงงงงง  และผมก็นึกได้ว่า  เออ นะ ตราบใดที่ชีิชีวิตยังมีคจนโอ๋ อยู่จะคิดมากไปไยก็สามารถตั้งหน้าตั้งตาโง่ต่อไปและรบกวดเค้าต่อไปดีฟ่า.....หิหิ ตอนนี้ผมก้นึกถึงเจ้าบ้าน เจ้ามดดำอ้วน และMr แสนใจดี(ไม่ประสงค์ออกนาม) ว่าก็ให้เค้าช่วยต่อไป...

ดูดิ นี้ก็พิมพ์จากโน๊ตบุ๊คสุดแสนทันสมัย  มันซ้อนกันวุ่นวายไปหมด เดี๋ยวลองส่งดู ถ้าอ่านรู้เรื่องก็บุญไป...นี้หละครับความสุขที่ได้ทุกข์ประเภทหนึ่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-09-08 10:43:55


ความคิดเห็นที่ 311 (1149713)
avatar
asinatantra

สงสารเจ้าหมาดำตาบอด...นึกแล้วก็ขำว่า วันก่อนทำงานอาแปะให้ยายตู่ไม่ทันสืบเนื่องด้วยกำลังทำความเข้าใจกับเทคโนโลยีใหม่ที่มีคนให้มา  นึขึ้นได้ถึงเจ้าลูกหมาขนแดง เออ ใช้ลูกหมาขนแดงเป็นอาแปะแทนดีก่า  เดินดุกๆๆ ไปเทวาลัยเจอลูกหมาดำตาบอดยืนทำหน้าที่อยู่ ผมก็ถามได้ความว่า ลูกหมาขนแดงไม่มา เอาฟ่ะ ลูกหมาดำตาบอดละกันมาเป็นอาแปะให้หน่อย ...นึกแล้วก็ขำ ที่เห็นเจ้าลูกหมาดำตาบอดมานั่ง แปะ แปะ ของที่ผมใช้อยู่ ก็เลยล้อไปว่าโดนผมใช้แต่ละอย่าง ฉีดยาสมุนหมู กับ สมุนเบบี๋ยังงี้ เป็นอาแปะยังงี้ เล่นกับวศินะตันตระ ยังงี้  ดูจะเป็นงานที่ไม่สาระเท่าไหร่  แต่ผมปลื้มนะครับ เพราะอ้ายสิ่งที่ผมใช้หมายถึงสิ่งที่ผมหมดปัญญาแบกหามเอาจริง ๆ ...ก็เลยมาเขียนเล่าให้สีดำอ่านกันว่า ผม ขอบคุณในการดูแบของทุกคน ทั้งเจ้าหมาดำ ยายตู่ ลูกหมาทั้งสอง ลูกแมวทั้งสอง และเจ้ามดดำอ้วน  และก็เจ้าขาวที่ย้ายมาดำที่ผมยังไม่ได้ตั้งชื่อให้ และเจ้าดำอีกหนึ่งที่ไม่มีชื่อขำ ๆ ตั้งให้เหมือนกัน  ที่ช่วยให้ชีวิตผมในการเป็นมนุษย์ง่ายขึ้นและมีความสุขแบบเอาแต่ใจของผมต่อไปได้...

เหมือนอย่างพ่อดำ ตั้งใจไว้ว่าจะตั้งกองกำลังไว้ให้...

ด้วยเพราะทุกคนก็กลัวผมซะ แบบไม่ค่อยมีเหผตุผล ผมก็ถือโอกาสมาขอบใจทุกคนมาณ โอกาสนี้และผมก็จะตั้งหน้าตั้งตา กวนใจและป่วนทุกคนต่อไป อิ อิ อิ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-09-08 10:56:44


ความคิดเห็นที่ 312 (1149801)
avatar
asinatantra
นึกถึงสีดำ ได้อีกคนที่ลืมจะขอบใจซะ เจ้าโฟคเต่า สุดแสนจะใหม่มากกกกกกกกกก ... ไง
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-09-08 11:23:57


ความคิดเห็นที่ 313 (1150594)
avatar
ลูกหมาดำตาบอด

แค่นายได้เรียกใช่ก็เป็นบุญท่วมหัวลูกหมาตัวน้อยๆน่ารักๆอย่างผมทั้งสองแล้วคับ

ปล.เดี๋ยวนี้ผมไม่ดุแล้วนะคับ(กลัวโดนจับใส่ที่ครอบปาก)

โฮ่ง โฮ่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกหมาดำตาบอด วันที่ตอบ 2007-09-09 09:23:34


ความคิดเห็นที่ 314 (1151266)
avatar
asinatantra

they don"t know taht they don"t know.....

เคยเล่าถึงประโยคตรงข้ามของประโยคนี้ คือ ( we know that we know )

มี ตันตริกคนหนึ่งถามผมว่า อะไรคือจุดสำคัญของตันตระ ผมก็ตอบไปว่าการเรียนตันตระนั้นก็เพื่อให้ตนเองพบความสุข และ จัดการกับทุกข์ของตัวเราเองได้.. หน้า งงๆ คือสิ่งที่ได้รับกลับมา..แน่นอน จุดหมายมันฟังดูเล็ก แต่ นั้นแหละครับคำเล็กๆ สั้นๆ สองพยางค์นี้ แหละที่หลายๆ คน ไม่รู้ว่ามันคือสิ่งที่พวกเค้าเหล่านั้นต้องการและดิ้นรนเพื่อได้มันมา  .. เช่น เราตั้งใจไปเดินเล่นซื้อของสักชิ้น และได้ซื้อมันมา เราทำมันเพื่ออะไรครับ อยากได้? สนุก? แก้เบื่อ? ชอบ ? แต่จุดข้างในก็คือ ความสุขของตัวเองไงครับ...ถูกมั้ย

ผมเข้าใจ.... มนุษย์บางคนและเป็นส่วนใหญ่ด้วยซ้ำไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ว่า ตัวเองกำลังทำอะไรเพื่ออะไร..มนุษย์ทุกคนอยากมีความสุข แต่ลืมคำๆ นี้ไปแล้วด้วยบดบังมันซะด้วยเหตุผลล้านแปดข้อของการเห็นแก่ตัว..ถึงตรงนี้คุณ ๆ จะคิดว่า ใครหละจะไม่เห็นแก่ตัว ...ถูกต้องเลยครับ การเห็นแก่ตัวเป็นเรื่องที่เป็นปกติมาก และทุกมนุษย์ก็ต้องมี ผมเองก็มีและมีมากซะด้วย แต่การเห็นแก่ตัวนั้น จำเป็นต้องไม่ผิดและเกินเลยกับความถูกต้องของตนเอง...ที่นี้อะไรคือความถูกต้องของตนเอง  อันนี้ยาวเลยครับที่จะอธิบายและความถูกต้องของแต่ละคนก็ไม่มีวันที่จะเหมือนกันได้โดยเด็ดขาด...

คำประโยคด้านบน ผมก็แค่ชี้ว่าแม้แต่จะให้รู้ว่าไม่รู้ ว่าตัวเองมีหรือไม่มีความสุข ยังทำไม่รู้เลย..แล้วจะพ้นจากทุกข์ได้อย่างไร

 

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-09-10 10:35:09


ความคิดเห็นที่ 315 (1152352)
avatar
asinatantra

โอ้วววววววว  พระเจ้าจอร์ททททท  ทำไปด่ายยยยยย...

เมื่อวานถึงเวลาดี ต้องตัดสินรูปประกวดงานแอ๊บแบ๋ววว แอ๊บบ้า แอ๊บบ๋อง ตามคอนเซ็ปประกวด + + ผมคงเอารายละเอียดมาเล่าไม่ได้เพราะ ... อืมมมม ขนยังลุกอยู่เลยครับ มัน ไม่มีอะไรจะพูดได้มากไปกว่า ขนลุ๊กกกกกก ..

ผมให้คำตัดสินไปแล้ว เพราะเป็นสีที่ทำให้ผมขนลุกมากที่สุดดดด และ มีแต่คำนี้วิ่งพล่านในหัวผม

ทำไปด่ายยยยยยยยย+ + + + +

ก๊ากกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ....

ขำยิ่งกว่าดูตลก ขนลุกยิ่งกว่าดูหนังผีสยองขวัญ *^*

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-09-11 10:40:44


ความคิดเห็นที่ 316 (1153588)
avatar
asinatantra

ต่อจากกระทู้ 314

อะไรคือความถูกต้องเพื่อเกิดสุข...แต่ละคนมีความถูกต้องของตนเองที่ต่างกันด้วยสาระสำคัญในชีวิตที่แตกต่างกัน..

เริ่มแรกแบบง่ายสุด ขอแค่ให้หยุดคุยกับตัวเองดู ถึงความอยากได้ที่จะเป็น และ อยากจะไปให้ถึงของชีวิตเราเองและเทของที่มีในกระเป๋า(ชีวิต)เราเองออกมาวางแบดู ตัวอย่างเช่น  อยากมีรถหรูๆ ขับคันละ 5 ล้านส 10 ล้าน แต่ทำงานได้เงินเดือนๆ ละ 20,000 บาท อันนี้ต้องเข้าใจแล้วว่ากำลังฝันเกินความพอดีตนเองไป ฉะนั้นหนทางที่จะได้รถคันหรู จะมีแต่ทุกข์ใจ  เพราะอะไรนะหรือครับ เงินมันไม่ตกมาจากฟ้าลงสู่อุ้มมือเราได้ เหมือนฝนนะสิ  สมมุติหากเกิดเป็นผู้หญิง(ตัวอย่าง เฉย ๆ ) ก็อาจจเพียร พยายามหาสามีรวย ๆ ถึงรวยมากที่สุดเพื่อจะได้มีรถคันหรูนั่ง เอาหละถึงหาได้สำเร็จ แต่มันก็ไม่ใช่รถเราอีกเพราะเป็นเงินสามี ต้องนั่งหมั่นเอาใจสามี โดนด่า โดนว่า โดนนอกใจ ไปทำสวย ไปทำผอม สาระพัดเหนื่อยและ ทุกข์  เพื่อให้สามีรักและโปรดปราน เพื่อเลือกให้ได้เป็นคนครอบครองรถคันหรู...ความอยากมันขัดกับความถูกต้องของตนเองตั้งแต่ต้น..

ช่วงขณะที่มีทุกข์อยู่กับ สามีรักน้อยลง สามีไปรักคนอื่น แก่ขึ้นจนกลัวสามีเบื่อ อ้วนขึ้นจนสามีไม่ปลื้มใจ ขี้บ่นจนสามีไม่กลับบ้าน...คิด นึก ตรอง อยู่ตลอดเวลา...ทุกข์ตลอดเวลา  โดยที่ไม่รู้ว่าทำไม????

หากคิดแก้ที่ต้นกำเนิดทุกข์ ก็คือ ความไม่พอดีที่เลือกเดินมาตั้งแต่ต้น  ได้เป็นคนมีเงินเดือนกิน เงินเดือนใช้ ร่างกายปกติ ก็ถือว่ามีความสามารถแล้วที่ได้เกิดมาแบบนี้  ลดความอยากได้เกินพอดีของความถูกต้องของตนเองลงหน่อยไม่ดีเหรอ ??  จริงมั้ย จะได้ ได้ทำในสิ่งที่ตนเองทำได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องนั่งทุกข์ใจเพราะเผื่อให้จนเองตาม ในความอยากของตนเอง..

ตัวอย่างหนึ่ง เท่านั้น....

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-09-12 16:21:55


ความคิดเห็นที่ 317 (1156243)
avatar
พ.จ.ม.
มันช่างน่าระทึกขวัญสั่นประสาท มากเลยใช่ไม๊คะ ขนาดคนส่งเข้าประกวด ยัง ยึย ยึย กับตอน act ท่าเองเลย จริงด้วยค่ะทำไปได้ อึ๋ย อึ๋ย
ผู้แสดงความคิดเห็น พ.จ.ม. วันที่ตอบ 2007-09-15 14:29:56


ความคิดเห็นที่ 318 (1157710)
avatar
ลูกหมาดำตาบอด

ว่าแต่ใครนะที่ทำให้ท่านถึงกับต้องขนลุ๊ก แสดงว่าคงต้อง น่าเกลียดน่ากลัว มากๆแน่เลย  อยากรู้จังเขาคนนั้นคือใคร

ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกหมาดำตาบอด วันที่ตอบ 2007-09-17 09:28:39


ความคิดเห็นที่ 319 (1157735)
avatar
asinatantra

555555555555555555555 5555 55555 5555

ใครทำอะไรไว้ย่อมรู้ตัวดี....จริง ปะ ปะ

อย่างที่เจ้าบ้านว่าไว้ผีหลอก อะ น่ากลัวน้อยกว่าคนหลอก เยอะๆๆๆๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-09-17 09:53:58


ความคิดเห็นที่ 320 (1163561)
avatar
asinatantra
ฮ่ะ ฮา ฮ่ะ ฮา ... ด้วยอยากจะโชว์ว่าไฮเทคขนาดดดด ขอผมอวดหน่อยเถอะว่าผมกำลังจะส่งข้อความนี้เข้าเว๊ปจากเครื่อง PDA ของผมโดย GPRS คร๊าบบบ ใครจะว่าบ้า บอ อะไรก็ตาม แต่แหมมมม ถ้ารู้จักผมนะจะเข้าใจเลยว้า แร็มสมองผมมันทำความเข้าใจเครื่องไอทีกะเค้าได้เหมือนกัน่าาาา โหลๆ เทสๆ ผมอยู่่พัทยา ขอลองส่งละน่า ฮาโหลๆ เทสๆ 1234
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-09-21 17:45:52


ความคิดเห็นที่ 321 (1163665)
avatar
เจ้าบ้าน
กระทู้นี้ต้องเรียกใหม่ว่า"กระทู้ที่ไม่รู้จักวาง"ยาวเหลือเกินยาวจริงๆนะเนี่ย
ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าบ้าน วันที่ตอบ 2007-09-21 19:17:12


ความคิดเห็นที่ 322 (1164378)
avatar
asinatantra

อะจ๊ากกก โดนไปหมัด  หนักจริงๆ "กระทู้ที่ไม่รู้จักวาง" โหโดนเต็มหน้า ..จริงด้วยแหะ  ไม่วางซักที!!

ท่านเจ้าบ้าน คร๊าบบบบ   ก็ด้วยเหตุว่าตั้งเป็นสาระพันทุกข์สุขของอสินะตันตระนะสิครับเจ้าบ้าน ผมถึงหน้าด้านหน้าทนเขียนโน้น เล่านี้เป็นตุเป็นตะเรื่อยมาจนกว่าเว๊ปเค้าจะหมดหน้ากระดาษไปซะ...ด้วยคิดว่าคนที่เข้ามาอ่านคงเห็นหัวข้อแต่ต้นและ ไม่เอาสาระอะไรกับผมนัก  หิ  หิ (ประมาณพยายามแก้ตัว)

แล้วนี้กระทู้นี้มานน โผล่มาอยู่หน้าแรกเลยได้ไงอะ กระทู้อื่นๆ ด้วย อืมม แต่ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องคลิดหาข้างใน แต่แหมม คงต้องเพิ่มดีกรีความหน้าทนของผมขึ้นอีกหน่อย เพราะแขกที่ผ่านเข้ามาเว็ปนี้คงจะเข้ามาอ่านและบ่นว่า  " มานเปงอารายของมานเนี๊ยะ "

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-09-22 09:27:59


ความคิดเห็นที่ 323 (1165532)
avatar
asinatantra

...หงิก....

ในที่นี้ไม่ใช่อาการหน้าหงิกแน่นอน หิหิ...เมื่อวานผมไปสปาแถวพัทยาเหนือมา  ก็เดินดูน้ำผุ ดูต้นไม้ข้างร้านเค้าสบายใจ ก็มาเจอหงิก หงิกงอของใบต้นรีราวดี เริ่มดำมัน เริ่มหงิกหละ ทำให้นึกขึ้นได้ว่าฤดุใบหงิกที่เจ้าบ้านเบื่อนักหนาเริ่มมาถึง เป็นเหตุผลที่เจ้าบ้านไม่อยากให้ปลูกรีราวดีเพิ่ม เพราะต้นเค้าชอบพร้อมใจกัน ทิ้งใบเกือบหมดในหน้าหนาว ส่วนที่พอจะเหลืออยู่บ้างก็หงิกงอ หรือไม่ก็โดนเพี๊ยะกิน ..แลดูเศร้าหมอง..แต่แหมม  ผมมองอีกอย่างนะ  ต้นรีราวดีเค้าอาจจะกำลังหัด " ร่วงได้งอกได้ค่อยร่วง งอกได้ร่วงได้ค่อยงอก " ก็ได้นะ

จริงมะ+++

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-09-23 10:39:06


ความคิดเห็นที่ 324 (1186248)
avatar
asinatantra

แหะ แหะ ไม่มีอะไรแค่อยากให้กระทู้มันมาอยู่หน้าแรก เลยมาโพส เล่น เล่น ....คริ คริ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-09-29 16:55:47


ความคิดเห็นที่ 325 (1186915)
avatar
asinatantra

เช้านี้นั่งอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง เจอคำสอนทางพุทธศาสนาคำว่า  "ตถตา" แปลว่า  " เช่นนั้นเอง " คือ  ไม่หลงรัก  หลงเกลียด  ไม่หลงยินดี  ไม่หลงยินร้าย  กิเลสก็เกิดไม่ได้

ผมเห็นด้วยนะ  แต่มันไม่ใช่  ปรัชญาตันตระ ไปได้ลึกกว่านั้นอีก

การวาง หรือ ละ ซึ่งกิเลส แล้ว ไม่ใช่หนทางในความสุขที่ถาวรในปัชญาตันตระ ผู้วางแล้วคือผู้สงบแล้ว แต่ความสุข แท้จริงนั้นมิได้มาจากการวางเพียงอย่างเดียว

ผมขอหยิบยกปรัชญาตันตระแค่หนึ่งประโยค คือ " หยิบได้วางได้ค่อยหยิบ วางได้หยิบได้ค่อยวาง " ผู้ละซึ่งกิเลสโดยส่วนมากที่เราเห็นคือผู้ประติบัติ ธรรม ไม่มีที่อยู่ที่สะดวกสะบาย ไม่มีเสื้อผ้าอาภรที่สะดวกสะบายและขาดซึ่งอะไร ต่อมิอะไรที่ให้ความสะดวกสบายซึ่งนำมาถึงความสุขที่แท้จริง เพราะต้องวางต้องตัดกิเลสทิ้ง...แต่ตันตระไม่ใช่แบบนั้น  ความพอดี ของแต่ละคนนั้นต่างกัน นาย ก อาจจะใช้เงินได้เดือนละแสนบาท นั้นคือความพอดีของนาย ก  โดยไม่เดือดร้อนอะไร  นาย ข อาจจะใช้เงินได้เดือนละ เจ็ดพันบาทโดยไม่เดือดร้อนอะไร  หมายถึงนาย ก ต้องละทิ้งความพอดีตนเอง ละ วางเงินทั้งหมด เพื่อให้เกิดสุข หรือ? ไม่ใช่แน่นอนในสายตาตันตระ

เป็นบุคคลที่โลดโผนในวงสังคม หรือ หยุดยืนในค่ำคืนหนึ่งในแสงสี และบาร์เหล้า เป็นผู้หลุดพ้นไม่ได้หรือ  ....หึ หึ ชุดนักบวชมิได้ตัดสินว่าเป็นนักบวช  คุณ ๆ เคยได้ยินคำ ๆ นี้มั้ย

เพราะคำสอนส่วนมากสอนให้ละวาง ซึ่งก็ถูกในขั้นตอนหนึ่ง แต่ผู้ละวางไม่เป้นจะกลายเป็นผิดไปในทันที  ตันตระสอนให้วางเป็นและหยิบเป็นซึ่งลึกกว่าปรัชญาการละวางนัก  เราบอกว่าผู้วางอย่างเดียว โง่ เพราะไร้สุข อาหารดี ๆ เครื่องดื่มดี ๆ ชีวิตดี ๆ กิเลสดี ๆ  มีได้จะละวางทิ้งทำไม

ที่ลึกกว่าในแนวตันตระ คือ หาความพอดีในตนเองให้ได้ และหยิบมันขึ้นมา และ วางมันลงไป เมื่อถึงเวลา หยิบขึ้นมาใหม่ และ วางกลับลงไปใหม่ อีกเมื่อถึงเวลา  นั้นสิ เป็นหนทางแห่งสุข

แต่  พอดี จะหาอย่างไร  ? นั้นแหละศาสตร์ของ ตันตระ เทวาลัย เท่านั้นที่ชี้ถึงมัน

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-09-30 10:46:36


ความคิดเห็นที่ 326 (1194021)
avatar
asinatantra

หลาย ๆ ครั้งที่รู้สึกว่าตัวเองแปลก ๆ และทุก ๆครั้งที่ฟังเรื่องทุกข์ใจของเพื่อนฝูง หรือ ผู้คนที่พบเจอในชีวิต และได้มีโอกาสพูดคุยกัน...ก็ดูเหมือนผมจะค้นพบความแปลกนั้นเข้าไปทุกที...

จนเคยถามคุรุ เหมือนกันว่า ผมควรจะทำอย่างไรกับความแปลกของผมดี?

ผมมองความจริง อาจจะมากเกินไปซะด้วยซ้ำ ความจริงของตนเองและสิ่งรอบ ๆ ตนเอง  ตนเองเป็นใครทำอะไรอยู่ และอยากได้อะไรในชีวิต  คุรุสอนผมมาแบบนั้น ผมเรียนรู้วิถีนี้มาตั้งแต่อายุ 16 ได้มั่ง...หลาย ๆวันนี้ได้ฟังเพื่อนที่รู้จักชอบพอนิสัยกัน บ่นเรื่องทุกข์ในชีวิต ผมก็ได้แนะนำไปบ้าง แต่มักจะฟังเป็นซะส่วนมาก  และมันก็ทำให้ผมรู้สึกถึงความแปลกของตนเองมากขึ้น มากขึ้น และผมก็มานั่งตรองดูว่า พื้นฐานความทุกข์ของมนุษย์นอกจากกิเลส ที่พูด ๆ ถึงกันมาเป็นพัน ๆ ปี แล้วมันลงลึกรักษายากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งในสายตาผม มนุษย์โกหกตัวเองและปฎิเสธความจริงตลอดเวลา จะเลือกฟังและเรียนรู้แต่สิ่งที่ตนเองอยากได้ยิน เท่านั้น ทำให้มันแย่ลึกกว่ากิเลสซะอีก...ในสายตาผม  กิเลสเป็นเรื่องปกติ ที่ควรมี จุดมันก็อยู่แค่ตอบตนเองให้ได้ว่าอะไรคือกิเลสที่อยากมีและตัวเราเองมีศักดิ์ยภาพในการจะมีกิเลสได้ในระดับไหน  และ ก็บริหารมัน ไปตามครรลอง...แต่ปัญหามันอยู่ลึกมากในจิตใจมนุษย์ คือ ตนเองโกหกตนเองจนหาอะไรแทบจะไม่เจอแล้ว

โดนคนรักทิ้ง  ก็อธิบายว่า  คนรักโดนของ

โดนคนเกลียด ก็อธิบายว่า คนรอบข้างนิสัยไม่ดี

อ้วน ก็อธิบายว่า  ระบบในร่างกายมันไม่ดี

อื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งมันเป็นการอธิบายที่ไม่มีความจริงอยู่ในนั้นเลย การมองจากตนเองออกข้างนอกจะทำให้แก้ปัญหาได้น้อยมาก เพราะปัจจัยเยอะ  ผมได้ฟังเรื่องราวมากมายจากมนุษย์ ที่พิสูจน์ให้ผมได้คิดว่า   ตนเอง(มนุษย์ นั้นๆ )มิเคยผิดเลย  อะ  แล้วถ้ามนุษย์ทุกคนคิดว่าตนเองไม่เคยผิดเลย แล้วใครเป็นผู้ผิดหละในสี่พันล้านกว่าคนนี้...

โลกเปลี่ยนไป   คำนี้ได้ยินบ่อย ๆ เปลี่ยนไปเพราะมนุษย์เปลี่ยนไป ,,,

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-10-06 10:00:24


ความคิดเห็นที่ 327 (1204880)
avatar
asinatantra

ไปเที่ยวตบตีกับวศินะตันตระมา หลายวัน..

เที่ยว กะ ตบตีมันอยู่ด้วยกันได้ไง..ฮ่ะๆ ใครที่รู้จักผมกะ(จ้าวบ้า)วศินะตันตระคงกำลังนึกภาพตามอยู่ ,,,มีครับมีจริง เที่ยวกันไปตบตีกันไป  จะอะไรได้ ก็เพราะเวลาเขียวมาอยู่ด้วยกันมานก้อไม่สามารถเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้  นอกจากการตบตีปาระเบิดใส่กันเป็นระยะ  เพราะเขียวลดความเป็นเขียวลง มันก็เหลือใส หรือ แย่สุดก็เทาสิครับท่าน ๆๆๆ   ฉะนั้นก็ลองนึกภาพตามว่า มันจะตบตีกันหรือไม่????

ก็เพราะอาการอยากเป็นคนดีของตนเอง ที่เจ้าบ้านก็ฮึมๆ เตือนอยู่เป้นนัย ๆ ก่อนจะ ไปอยู่แล้ว  ผมก็ มะอาว มะอาว จะเป็นคนดีจะพา(อ้ายบ้า)วศินะตันตระไปเอง ...สุดท้ายก็ต้องโทรมา เล่า ให้เจ้าบ้านหัวเราะตามสายมาถึงอาการป่วนของสองเขียวที่ไม่มีตัวกลางช่วย  ฮ่ะๆๆๆ คิดแล้วก็ขำ  สุดท้ายหลังจากนั่งประชุมกันสรุปกลับบ้านเฮาดีกว่า มามาวกรุงเทพก็ได้ฟ่ะ เมื่อสองเขียวตัวป่วนเห็นด้วยกันดั่งว่า ความเป็นเขียวก็ระเบิดบึม เย้ เย้ ตัวพองอีกรอบตัดสินใจกินข้าวกลางวันรองท้องกับไวน์ไปหนึ่งขวด( ฟามลับ ) โซ้ยเสร็จ เปิดเพลง ฮิบฮอบ เย้ ๆๆๆ ขับรถกลับบ้านเฮา ตันตระเทวาลัย...

นึกแล้วขำ จำเอาไว้ ทีหลังเขียวเบอร์สองกับเบอร์สามตืบกันมันไม่มันส์สสสส  ต้องเอาเขียวที่หนึ่งไปด้วย  ...สองสามจะได้โดนตืบแทน อุอุ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-10-15 09:52:29


ความคิดเห็นที่ 328 (1206111)
avatar
วศินะตันตระ

หุหุการปายเที่ยวครั้งนี้ของพวกเราถึงจาม่ายปราสบความสัมเร๊จนัยการยุร่วมกันของเขียวเบอ2เเละ3เเต่ก็ทัมหั้ยเราเข้าจัยกานมากขึ้นไม่ใช่หรอวศินะตันตระเชื่อว่าฟ้าหลังฝนย่อมดีเสมอนะจ้าเเละอีกอย่างเราด้ายกินไวท์ฟรีดีๆๆฟรีๆๆตั้งมากมายด้วยหุหุ-*-

ผู้แสดงความคิดเห็น วศินะตันตระ วันที่ตอบ 2007-10-16 01:40:44


ความคิดเห็นที่ 329 (1209618)
avatar
ลูกหมาดำตาบอด

ผมไปหาเรื่องรายการ vip ตอนของrichyมาให้ดูคับ

http://hiptv.mcot.net/hipPlay.php?id=12633

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกหมาดำตาบอด วันที่ตอบ 2007-10-18 02:30:19


ความคิดเห็นที่ 330 (1212752)
avatar
asinatantra

เฮ้อออ...รู้มากก็เรื่องเยอะ เรื่องเยอะแถมบวกเข้าไปกับสุดท้ายไม่คิดจะแก้ไข  แล้วจะรู้ไปทำไม???  คนอยากรู้ว่าทำไม พอรู้ว่าทำไม ก็ทำไมต้องเป็นแบบนี้อีก?   คุณ ๆ เคยงงกับเรื่องแบบนี้ไหม ผมสิได้ยินบ่อย ๆ ว่า " อยากรู้ๆ บอกหน่อยสิ " แต่พอพอได้รู้ก็ไม่คิดจะทำอะไรหรือแก้ไขอะไร เพราะเรื่องที่รู้ไม่ถูกหูถูกใจตนเอง .. แล้วจะถามทำไม? แถมเมื่อถามมา แล้วไม่บอก ก็หาว่าใจร้าย?

งง จริง ๆ กับสิ่งที่ไม่รู้จบนี้""" ใครเคยได้ยินเรื่องพฤติกรรมนกกระจอกเทศไม๊ครับ   ตัวใหญ่ขายาวคอยาว เวลาที่นกกระจอกเทศกลัวหรือมีภัยนกกระจอกเทศจะเอาหัวตัวเองมุดทรายที่พื้นด้วยทำให้รู้สึกดีและปลอดภัย แต่ส่วนที่เป็นลำตัวอ้วนใหญ่กลมมันยังอยู่ที่เดิมนะสิครับ!!!! นี้คือที่มาของคำพูด  " ทษฎีนกกระจอกเทศ "

บางทีผมก็เหนื่อยแทนเจ้าบ้านครับ  ท่านเป็นผู้รู้(ที่ดูดุแต่แสนใจดี)ใจดีซะจนผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เห็นท่านตอบสิ่งที่หลาย ๆ คนถามถึงที่มาของกรรมและทำไมชีวิตถึงเป็นแบบนี้  เจ้าบ้านไม่ตอบก็ว่าใจร้าย  และคุณๆ เคยคิดถึงผลเสียของการบอกที่จะเกิดกับผู้บอกไหมครับ ความลับมันก็ควรจะเป็นตวามลับ  แน่นอนอันนี้ไม่เคยคิดแน่ๆ เพราะไม่ใช้เรื่องตน เอาหละแต่อย่างน้อยเมื่อเจ้าบ้านบอกด้วยจะเหตุผลอะไรก็ตามที่ท่านเลือกจะช่วยบอกคุณ  คุณ ๆ กลับรับไม่ได้ในสิ่งที่ตนเองอยากรู้และก็เลือกเดินทางเดิมต่อไป ถามจริง ๆ เถอะ เมื่อเป็นแบบนั้นจะรู้ไปทำไม รู้เผื่อผ่านจากหูหนึ่งออกไปอีกด้านหนึ่ง เหมือนดั่งสายลมผ่าน??? ส่วนบุคคลที่เสียสละเปิดเผย " บอก "  ก็รับผลอันนั้นไป,,,ผมก็ได้แต่ เฮ้อ มนุษย์หนอมนุษย์  เวียนว๋ายตายเกิดกี่พันครา กี่พันครั้งก็มิเคยชนะตนเองได้เลย แล้วจะคิดหวังชนะชะตา ชนะกรรมนายเวร ...มันจะเป็นได้อย่างไร

.... เฮ้ออออ แล้วผมบ่นไปทำไมเนี๊ยะ !! ถือว่าเป็นการระบายออกของผู้สูงอายุละกันครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-10-19 19:56:14


ความคิดเห็นที่ 331 (1218264)
avatar
asinatantra

พักนี้รู้สึกตัวเองเป็น  บ้าหอบฝาง(กระดาษ) ยังไงไม่รู้สิ ....หันไปหันมารอบๆโต๊ะ ก็เห็นแผ่นกระดาษที่ไปฉีกมาตามนิตยสารเพราะไปอ่านเจอข้อความดี ๆ แล้วนึกถึงเพื่อน ๆ ว่าจะเอามาเขียนลอกให้อ่าน  พกไปพกมา  ไม่มีเวลาจะลอกเขียนลงมาในหน้านี้  แผ่นกระดาษก็เลยวางสุมกันกันหนาตัวขึ้นทุกวัน...ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้นะ ..มีคนฉุกคิดให้ผมขึ้นมาเหมือนกัน ว่าในสังคมมนุษย์ไทย(เพราะอยู่ประเทศไทย) มันไม่ค่อยจะมีอะไรคุยกันไปมากกว่า เธอ ฉัน มีไร ซื้อไร ได้ไร อกหัก งานไม่ดี หรือต่าง ๆ สิ่งกันไป  โดยไม่มีการตั้งคำถามต่อว่า เหตุเพราะอะไร หรือด้วยเหตุใด  เราจึงพบปะเรื่องนั้นๆ และมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ส่วนเรื่องจะหาคนถกเรื่องปรัชญาชีวิต นั้น แทบจะลืมไปได้เลย..

ผมอ่านเจอบทความหนึ่งของท่านที่ใช้นามปากกาว่า ว.วชิรเมธี  ท่านว่า " ไม่เชื่อต้องศึกษา ไม่มีปัญญาต้องเรียนรู็ "  ท่านว่าคนไทยขาดการตั้งคำถามว่าสิ่งนั้นมีพัฒนาการอย่างไร ตัวอย่างที่ท่านยกง่าย ๆ เช่น เด็กไทยสักคนหนึ่งเดินทางไปตามถนนกับคุณแม่แล้วพบคนตาย  เจ้าหนูถามแม่ว่า " แม่ฮะ ทำไมคนจึงตาย" แทนที่แม่จะตอบว่า " ลองคิดดูสิลูก ว่าทำไมคนเราจึงตาย "  คำตอบที่ได้อาจเป็น " เงียบนะ  ถามอะไรบ้าๆ เดี๋ยวผีหลอกหรอก ขอขมาคนตายเดี๋ยวนี้ "

ผมอ่านบนความนี้ในนิตยสารเล่มหนึ่ง ก็ขำกับตัวอย่างทีท่านยกขึ้นมาและก็เห็นด้วยอย่างถึงที่สุด  ผมเขียนอยู่เสมอ ๆ ว่าคนไทยประหลาดขึ้นทุกวัน มองชีวิตเหมือนกับไม่ได้ใช้ขาเดินอยู่บนพื้นโลก  เวลาเจอปัญหาอะไรก็ไม่เคยตั้งคำถามว่าเหตุเพราะอะไรมันถึงเกิด กลับเป็นฝั่งตรงข้ามตลอดที่ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ สิ่งของ หรืออากาศธาตุ จะเป็นผู้ผิดเสมอไม่ใช่ตน  ... ผมชี้ตัวอย่างเรื่องอกหักรักคุดสอนผู้อื่นอยู่เป็นนิจ ว่าการโดนแฟนไปมีคนอื่น อย่างแรกที่คนไทยมักจะคิดคือ แฟนฉันโดนของ? ซึ่งในสายตาผมมันผิดมาก  ในทางกลับกัน ทำไมไม่คิดว่าเค้าไปรักคนอื่นเพราะอะไร เหตุมากจากอะไร เหตุผลที่จับต้องได้ แน่นอนมันต้องวกกลับมาที่ตัวเราเองแน่นอน  แต่แค่ยอมรับก่อนว่าเค้าไม่รักเราแล้วหรือรักน้อยลงแล้ว และเมื่อรักน้อยลงแล้วจะแก้ไขอย่างไร แก้จากต้นเหตุปัญหาคือตัวเราที่คนรักรักน้อยลง อันนี้ไม่มีในหัวสมองเลย " โดนของแน่ ๆ "  คือสิ่งที่เข้ามาในสมองแทน  สำหรับผมถ้าทำของให้คนๆ หนึ่งรัก เกิดกันง่ายๆ ขนาดนั้นผมไปทำของให้ดาราหล่อ ๆ สวย ๆ มาเป็นของผมไม่ดีกว่าเหรอ  .... เปลี่ยนมันวันละคนเลยด้วย

ผมมีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งผมพึ่งพบเจอแต่ก็ชอบพอนิสัยอยู่ เป็นเพื่อนที่ไม่รู้จักผมในด้านอสินะตันตระ  รู้จักผมเพียงแค่มนุษย์โลกคนหนึ่งเท่านั้น  เพื่อนผมเกิดปัญหาทุกข์ใจพัวพันในชีวิตหลายด้าน ทุกข์ใจทุรนทุราย น้ำตาไหลพรากๆ  ผมก็ชี้แนะหนทางเดินให้พยายามดึงขึ้นจากทุกข์  แต่รู้ไม๊เพื่อนผมกลับตอบว่า " โอ้ยยย ไม่เอาคิดมากปวดหมอง ทำไม่ไหว ปล่อยมันงี้แหละ อารมณืไม่ดี ไม่มีเวลามานั่งตีความ สัจธรรมโลก หรอก "

?????  คุณ ๆ เห็นภาพไม๊ ว่า อะไรจะเกิดกับเพื่อนผมคนนี้ต่อไป .. คำตอบมันก็คำสั้น ๆ ง่าย ... ทุกข์  ไงครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-10-23 09:51:31


ความคิดเห็นที่ 332 (1224139)
avatar
asinatantra

เจ้าบ้านโดนผีโต๊ะ หลอก....คริ คริ

ในหมู่ตันตริกที่ตันตระเทวาลัย  พวกเรารู้ๆ กันอยู่ว่า ผี ที่นี้อาละวาดขนาดไหนเช่น ผีตู้เย็น ผีตู้ไมโครเวฟ ผีแก๊ะ ผีโต๊ะ และอื่น ๆ อีกมากมายหลายผี แต่ในที่นี้ขอไม่เอ่ยรวมถึงพี่ ๆ พนักงานกะกลางคืน(ซึ่งเป็นของจริง)แหะ แหะ

เรื่องมีอยู่ว่า เจ้าบ้านถือลูกชุบมาให้ชิมว่าเจ้านี้อร่อยแค่ไหน และก็กินเองด้วยสองกล่อง  เห็นเจ้าบ้านเปิดชิมอยู่สามสี่ชิ้นช่วง หกโมงเย็น แล้วก็วางไว้บนโต๊ะกินข้าวรวม  ผมกลับมาเจอเจ้าบ้านอีกทีก็ตอนจะสามทุ่มแล้ว เห็นเจ้าบ้านถามว่า ลูกชุบอยู่ไหน คริคริ.. ผมอะนึกในใจว่า เสร็จแน่!!  เห็นวศินะตันตระลุกไปหยิบลูกชุบหนึ่งกล่องที่เหลือ(ซึ่งในขณะนั้นย้ายจาก โต๊ะ ไปอยู่ประชาสัมพันธ์แล้ว)มาให้  เจ้าบ้านก็ถามว่า แล้วอีกกล่องหละ? เจ้าวศินะตันตระก็ตะโกนถาม อีกกล่องอยู่หน่ายยยยย ด้วยเสียงยานๆๆๆ ซึ่งในขณะนั้นก็มีตันตริกนั่งกันอยู่หลายคน ....เงียบ.... คือเสียงตอบกลับ  ผมอะหัวเราะ ก๊ากกก เลย ผีโต๊ะเล่นงานเจ้าบ้านแล้วววว  ซักพักก็มีเสียงแผ่วๆ ตามลมมาว่าลูกชุบอีกกล่อง ลงไปอยู่ในกระเพาะ ผีตู่ กับ ผีปุ๊ก(ปิ่น) หมดแล้ว... ก๊ากกก ๆๆๆๆ

ที่ตันตระเทวาลัยจะมีผีเหล่านี้***นมากจริงๆ พวกเรารู้กันเลยว่าอย่าได้วางของกินที่ไม่แปะชื่อเจ้าของ หรือ ไม่ก็แปะประโยคว่า "ยังไม่อิ่มห้ามกิน" อะไรทำนองนี้ไว้ละก็  หมดเกี้ลยง หายจ้อยยย  แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์  คริ คริ  ผมเองเคยมีประสบการณ์โดนผีช่องฟรีสเอาไอติมแท่งไปหยกๆ และผมก็เคยแปลงร่างเป็นผีตู้ ผีโต๊ะ บ้างเหมือนกันตามโอกาส เช่น ปีกไก่ทอดของ ชิก กะ เดล ที่ผมเฮ๊บมา เนียน ๆ หรือ ขนมและผลไม้ไม่มีเจ้าของในตู้แช่  อิอิ

หากคุณ ๆ ที่ไม่ใช่ตันตริก โดนผี เล่านี้หลอกหลอนละก็ อย่าคิดมากนะคร๊าบบบบบ  ถือว่า ทำบุญแก่ผู้หิวโหยยยยยย

คริ คริ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-10-27 10:48:53


ความคิดเห็นที่ 333 (1239078)
avatar
asinatantra

สมุน ไม่ตั้งใจ....

อากาศดี เป็นศรีแท้...ด้วยอากาศเย็นลงและแห้งปราศจากเม็ดฝนให้รำคาญตัว  สมุนหมู กับ สมุนเบบี๋ ก็ ดี๊ด้า ลั่นล้า กันสุด ๆ ทำให้ผมผู้เป็นเจ้านายหรือคนรับใช้ก็สับสนในตัวเองเป็นระยะๆ  ก็พลอยสบายไปด้วย เพราะ ไม่ค่อยมีปัญหาให้ตามแก้ไขด้วยเหตุจากความชื้น แล้ว ชื้นอีก จากฝนที่ตกไปเกรงใจใคร!  มานั่งตรองดูถึงหน้าฝนที่ผ่านมา ผมและสมุนทั้งสองต่อสู้กับความชื้นกันหนักมาก โรคผิวหนังและง้ามเท้าปูดพอง แสนจะน่าสงสารสมุน แต่ที่น่าสงสารยิ่งกว่าก็คือผมและน้องปุ๊กปิ่น(ที่โดนผมใช้)ที่ตอนแรกตั้งใจหาสมุนมาทำหน้าที่สมุน   แต่สมุนทั้งสองกลับแปรสภาพผมกลายเป็นข้ารับใช้ไปซะแบบเนียน ๆ โดยสมุนหัวใจชมพูก็ไม่รู้สภาพตนเองที่เป็นหรอก เอาหละ เล่าแบบ ชิว ๆ นะ เช่น

สมุนกินไส้กรอก หมูปิ้ง ตับย่าง ไม่ได้เพราะ ท้องจะเสีย อึ จะพุง แพร๊ดๆๆๆๆ

สมุนกินท้องหยอดไม่ได้ เพราะ หัวจะเป็นไข่ดาว

สมุนแทะกระดูกหมู หูหมูย่างไม่ได้ เพราะ เคี้ยวไม่เป็นจะติดคอตาย

สมุนตากละอองฝนไม่ได้ เพราะ จะไม่เหลือขนอยู่เลยในระยะอันสั้น

สมุนต้องกินนมเปรี๊ยวทุกวัน เพราะ ระบบย่อยอาการไม่ดี

สมุนกินอาหารผสมเนื้อวัวไม่ได้ เพราะ ตุ่มจะขึ้นทั้งตัวและขนหายจ่อยยยย

สมุนใช้แชมพูธรรมดาไม่ได้ เพราะ แพ้ ขนก็ร่วงหายจ่อยอีก ต้องแชมพูนำเข้า  บางยี่ห้อ เท่านั้น(ราคาไม่ต้องพูดถึง) แพงกว่าแชมพูของผมเองห้าเท่า

สมุนวิ่งเล่นมากไม่ได้ เพราะ จะหายใจไม่ทันน้ำลายยืดตาย หรือไม่น้ำหนักอันเกินพิกัดจะกดทับขาอันเรียวเล็ก แผลง เอาง่าย ๆ อีก

และอีก ฯลฯ  ที่สมุนทำ ไม่ ด้ายยยยย

ทั้งหมดนี้ผมขอยืนยันว่า  สมุน มะด่าย ตั้งจายทั้งน้านนนนนน

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-11-05 10:15:34


ความคิดเห็นที่ 334 (1240983)
avatar
@@@ หนู จะ โต ขึ้น เป็น ตัน ตริก @@@

ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ (ให้ย้อนกลับมาหน้า13)
ให้มาอ่าน(เสพ+Save)ความรู้จากกระทู้นี้

ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งดีใจที่ได้เข้ามาอ่าน

ยิ่งอ่าน ก็ยิ่ง ตกหลุมรัก กับแนวทางนี้

ใช้เวลานั่งไทม์แมชชีน
เดินทางย้อนไปตั้งแต่ 30-05-2006  ถึง 05-11-2007
เดินทางไปได้ 1 ปี ครึ่ง ภายในเวลา 2 วัน

ถึงอ่านแล้วจะยังไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด...
แต่ก็รู้สึกดีจัง

ได้รู้สึกว่าในเอกภพนี้ ยังมีความรู้อีกมากมาย
ที่เกินกว่ามนุษย์ตัวเล็กๆ นี้จะค่อยๆ หา ค่อยๆ เรียนรู้
ไป ลองผิดลองถูกไปโดยไม่มีที่ปรึกษา


กว่าจะรู้ได้สัก เสี้ยวเล็กๆ เสี้ยวหนึ่ง คงใช้เวลาร่วมหลายชาติ

ชาตินี้ ได้ลองมาหลายอย่างแล้ว เป็นเวลา 28 ปี
บวชชีพราหมณ์ ก็บวชมาแล้วตั้งแต่อายุ 20 ขวบ
บวชมาก็หลายวัด ทั้งในเมือง และเข้าป่าฯ

ชาตินี้อยากจะได้เข้าใกล้เทพเทวดา
อยากจะสัมผัส "กระแสเมตตาอันมหาศาล" ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เมื่อต้นปี ก็ไปขึ้นเขา "คิฎฌกูด" (จำไม่ได้ว่าเขียนอย่างนี้รึเปล่า)
พาเพื่อนๆ ไปตั้ง 2 คันรถตู้ กลับมาหมดสภาพกันไปเลย

วัดแขกก็ไป... ตำหนักทรงก็ไป... แต่ยังไม่ "ติดใจ" กับที่ไหนจริงจัง
ถนนประดิพัทธิ์  ก็ผ่านหลายที ได้แต่ผ่านไปผ่านมา
เหมือน จังหวะ-เวลา-สถานที่-และบุญ/กรรม ยังไม่ถึง
จึงยังไม่เห็น เมื่อเวลาถึง...ถึงเวลา ก็ได้เข้ามาเอง

วันเสาร์ที่เพิ่งผ่านมา ได้เข้าไปคุยกับอจล.
เล่าให้ท่านฟังว่า ชวนเพื่อน(ที่ชอบไปวัดแขก-ไปตำหนัก) ด้วยกันให้มา
ตอนแรกก็บอกว่าจะมา พอถึงเวลาจริงๆ ก็ "ติดโน่น..ติดนี่" เปลี่ยนใจกันไป
อจล.ท่านก็บอกว่า "ถ้ากรรมยังเยอะ บางทีก็ไม่ได้มาง่ายๆหรอก"

MODE @ เบิกบาน

เมื่อวันเสาร์ ได้เจอเจ้าบ้านด้วย..

(ครั้งที่2ที่ไป และครั้งที่2 ที่ได้เจอ)
ไปครั้งแรก ได้เจอก็ถามโน่นถามนี่ซะเยอะแยะเลย
แต่พอครั้งที่สอง ก็เกิดอาการเจซะแล้ว...

(อาการพูดไม่ออกยิ้มอย่างเดียว555555)

********************

ได้มาแล้ว
ได้เห็นแล้ว
ได้ฟังแล้ว
แค่เสี้ยวหนึ่ง

รอความเมตตา...
รอเวลา...
รอโอกาส...
รอบุญวาสนา...

ที่กำลังจะมาถึง...
ที่จะได้โอกาสมาเป็นนักเรียนของที่นี่ค่ะ

*********************

ปล.ตามมาป่วนถึงกระทู้นี้

@@@ หนู จะ โต ขึ้น เป็น ตัน ตริก @@@

ผู้แสดงความคิดเห็น @@@ หนู จะ โต ขึ้น เป็น ตัน ตริก @@@ วันที่ตอบ 2007-11-06 15:28:29


ความคิดเห็นที่ 335 (1241764)
avatar
@@@ หนู จะ โต ขึ้น เป็น ตัน ตริก @@@

อรุณสวัสดิ์ อจ.asinatantra และ อจ.ทุกๆ คนค่ะ

(รู้สึกว่ากระทู้เริ่มนิ่งๆ แอบมา คนๆๆๆๆ หน่อยแต่เช้าก่อนทำงาน ^___^ )

แอบมาบอกว่า "ดีใจจังหาได้เบอร์โทรศัพท์แล้วค่า...." ^___^

ไปกัน 2 คน ของหนูผลลงท้าย 500 ผลรวม 36

กับอีกคนนึง ลงท้าย 55 ผลรวม 50

ไปเซ็นทรัลลาดพร้าววันเดียว หาได้ครบทั้ง 2 คนเลย

****

ก่อนนอนเอาเบอร์ที่อาจารย์เขียนฝากหิ้งปู่ไว้

ก่อนออกจากห้องขอกระดาษจากปู่มา ขอพรให้ได้เบอร์วันนี้เลย

ได้จริงๆ ด้วย ^___^ เบอร์สวยจำง่าย

ขอบคุณปู่ ขอบคุณอาจารย์ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น @@@ หนู จะ โต ขึ้น เป็น ตัน ตริก @@@ วันที่ตอบ 2007-11-07 09:34:30


ความคิดเห็นที่ 336 (1244233)
avatar
asinatantra

คริ คริ  ชอบๆๆๆ  มาป่วนกันได้คับ ผมชอบคนป่วนๆ แบบสร้างสรรค์ครับ แค่อ่านชื่อนู๋ก็อมยิ้มแล้วอมยิ้มอีก ทำให้สารแห่งความสุขหลั่งชะลอความแก่ ให้แก่ช้าลงหน่อย ...แต่ขออย่างหนึ่งครับ อย่าเรียกผมว่า  อจ.เลยนะคร๊าบบบบ  ผมไม่ได้เป็นอาจารย์ใครเลย ไม่มีประคำ ไม่มีวิชา อะไรกับเค้าหรอก  ผมอสินะตันตระเกิดมาในตันตระเทวาลัยเพื่อป่วนชาวบ้านเค้าโดยเฉพาะ และผมแน่วแน่ มั่นใจในหนทางนี้มาก ไม่เชื่อลองถาม อจ.ทุกคนดู รุ่นเก่าๆ หน่อยทุกวันนี้เห็นผมเดินมาแต่ไกล วิ่งหนีกันหมดดดดดด ....

มันเป็นแค่กระทู้ สาระพัดทุกข์ กะ สุข ของผมคนเดียวเลยออกจะเงียบๆ ไปบ้างตามอาการเบล่อบ้าง ง่วงบ้าง อิ่มเกินขนาดบ้าง แฮงค์บ้าง ไปตามประสาคนอายุมาก แต่ยัง ยังไม่มากสุดของที่เทวาลัย คริ คริ

ได้เบอร์ดี ก็ดีใจด้วยคร๊าบบบบ  ขอให้รักและมีความสบายใจกับสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนไป....

ถ้ามีอะไรถก มีอะไรถาม ถ้าไม่กลัวปวดหมองมากขึ้น หรือ เพี้ยนมากขึ้นตามผมไป  ก็ พิมพ์มาเลยครับ บบ

>*< ผม จะ แก่ เป็น ตัน ตริก

 

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-11-08 18:00:18


ความคิดเห็นที่ 337 (1246053)
avatar
@@@ หนู จะ โต ขึ้น เป็น ตัน ตริก @@@

เมื่อ วาน ไป เทวาลัย มา ด้วย หล่ะ ค่ะ

ครั้ง ที่ 3 ใน ชาติ นี้ (ไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไหร่ถ้านับรวมทุกชาติ)

ได้ คำ แนะนำ ดีๆ กลับ มา บ้าน อีก ด้วย

และ มี เรื่อง เบิก บาน ใจ จน หัว ใจ พอง มากๆ

จน เก็บ ไม่ ไหว ต้อง เอา มา เล่า ให้ (อจ.) asinatantra ฟังค่ะ

คือ เมื่อ วาน พอ ลง จาก รถ มา ก็ เจอ เฮีย

ก็ วิ่ง ปรู๊ดดดดดดด เข้า ไป สวัสดี ด้วย ความ Happy สุดๆ

ที่ ได้ เจอ....

แล้ว ก็ บอก เหมือน เมื่อ วัน แรก ที่ เจอ กับ ท่าน

ว่า

"หนู อยาก เป็น นัก เรียน ตัน ตริก ค่ะ"

แล้ว ท่าน ก็ ตอบ กลับ มา ว่า

"วัน อาทิตย์ ที่ ผ่าน มา ทำ ไม ไม่ มา"

เราก็อึ้ง ไปก่อนแป๊บนึง

".....!?!?!?!!?!?!?...." (ให้สมองประมวลผล)

และตอบว่า

"อ้าว แล้วหนูจะรู้ได้ไง..." (ไม่มีใครชวนนี่นา)

ท่าน ก็ บอก ว่า

"งั้น วันอาทิตย์ ต้น เดือน คราว หน้า สอง ทุ่ม อย่า ลืม มา"

"อย่างนี้เรียกว่า รับหนูไว้เป็นศิษย์แล้วนะคะ"

ท่านก็ ^____^

"หนู ถือ ว่า นี่ คือ การ อนุญาต ให้ มาศึกษา อย่างเป็นทางการแล้วนะคะ"

ท่านก็บอกว่า

"ลองมาศึกษาดู....ว่าจะชอบแนวนี้มั้ย"

ช่างเป็นวันที่ HaPPy สุดๆ เลยยยยยยยย

 

รีบเล่าให้อาจารย์ท่านนึงฟัง

อาจารย์ก็บอกว่า "ใกล้ๆ ถึงวันไปบอกพี่ตู่ไว้ด้วยนะ
พี่ตู่ได้เตรียมจัดโต๊ะจัดเก้าอี้ไว้ให้"

ตื่นเต้นมาก หนูเลยบอกพี่ตู่ คืนนั้นเลย....

**************
ขากลับบ้าน

ยิ้มหน้าบาน
จากสะพานควาย --> วัชรพล

ผ่าน เมเจอร์รัชโยธิน

โอว.......... เจอโฆษณาหนัง ใหญ่มาก

ที่ด้านข้างเมเจอร์

ชื่อหนังว่า

"ผีกระชากหัว" เข้าโรง 22 พย. นี้ค่ะ

ขำจริงๆ ถ้ากระทู้นี้ลงรูปได้

หนูจะเอารูปใบปิดหนังมาให้ดูด้วยนะเนี่ย

^____^

ผู้แสดงความคิดเห็น @@@ หนู จะ โต ขึ้น เป็น ตัน ตริก @@@ วันที่ตอบ 2007-11-09 17:54:07


ความคิดเห็นที่ 338 (1246161)
avatar
asinatantra

กระทู้หนูที่จะโตเป็นตันตริก ทำให้ผมนึกถึงคนที่เคยเข้ามาโพสในนี้หนึ่งท่าน ที่ผมไม่ขอออกนาม  อ่านกระทู้ทีไรเหมือนหน้าตาผมจะแก่น้อยลง...สนุกดีครับ คนเราต้องหาอะไรสนุก ๆ ทำ และมีความสุขกับมันได้  จิตดีใจดี ก็มีแต่คนอยากคบหา จริงมั้ย?

เมื่ออ่านถึงประโยคว่า " แล้วนู๋จะรู้ได้ไง " ว่าจะมีเรียนวันอาทิตย์ต้นเดือน

ก็ทำให้นึกไปถึงคำตอบที่พวกเราโดนกันอยู่บ่อย ๆ ว่า

" แล้วทำไมไม่ถาม " อะจึ๋ยยยย

แล้วคุณนู๋ที่จะโตมาเป็นตันตริกเล่นเอามาโพสลงแบบนี้ ผมละสงสารเจ้าบ้านและ ยายตู่ แย่ คนมิแห่กันมาจนห้องแตกหรือครับเนี๊ยะ เพราะทุกวันนี้มันก็แทบจะไม่มีที่แบ่งกันวางก้นแล้ววววว

โย่ โย่ พยายามโตต่อไปนะคร๊าบบบบบ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-11-09 19:08:14


ความคิดเห็นที่ 339 (1247256)
avatar
asinatantra

ตันตริก ฝากขายยย....ฮ๋ะๆๆ ฮ่าๆๆ

อ้ายที่พูดประชดนี้ก็ไม่ได้ประชดใครหรอก  ประชดตัวเองว่าคงจะโดนตัดหางปล่อยเทวาลัยเอาแล้วจริง ๆ ขนาดวันนี้มีพิธีประจำปี 10/11 เพื่อ 11/11 ของบิ๊กแปะ ผู้เป็นที่รักของสีขาว   เจ้าบ้านยังไม่ว่าเลยที่ผมไม่อยู่ อะจึ๋ยยย...

จะมองในแง่ดีก็เจ้าบ้านคงไม่อยากให้เหนื่อย ให้ต้องเปลี่ยนแปลงโปรแกรมตัวเอง?

หรือ

จะมองในอีกแง่หนึ่ง  หรือนี้เราจะโดนตัดหางปล่อยเทวาลัยแล้วฟ่าาา?

ฮ่ะๆๆ คิดแล้วก็ฮาในหัวตัวเอง ว่า  หมั่นเพียรไปล้อเลียนน้องปุ๊ก(ปิ่น) ว่าสีขาวฝากขายอยู่บ่อยๆ  สงสัยจะเป็นเป็นผมเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่ง...  ผมรู้ว่าเจ้าบ้านและ 4 คิง คงจะคิดว่าถ้าเจ้าอสินะตันตระอยู่ในวันนี้  มานก้ต้องเดินดุกๆ มาป่วนให้ชาวบ้านตันตริกอื่นทำหน้าที่ได้ไม่ดี หรือ เสียสมาธิ กันป่าวๆ  ฉะนั้นจัดหาโปรแกรมให้ไปซะไกล ๆ เลยหมดความ และ หมดเรื่อง คริ คริ

ไม่เป็นหรอกผมอะ ฝึกความหน้าหนาและหน้าทนมาป็นสิบๆ ปี ประคำก็ไม่มี(เพราะโดนยึดไป) สวดอะไรก็ไม่เป็นกะเค้า แต่แหมมม ใครจะรู้ผมอะตั้งใจฝึกสมาธิให้เพื่อน ๆ นะ เช่นผมเห็น ปิตินะตันตระ นั่งสมาธิอยู่ในเทวาลับ ปึบ ผมก็รีบลดแรงเดิน กระดึบๆ ๆ เบาเข้าไปใกล้ ๆ ใกล้ๆ แล้วผมก็เอานิ้วจิ้มเข้าไปในจมูกของ ปิติยะตันตระ ! แค่นั้นเอง เจ้าบ้านหันมาเห็นและทำหน้า เอื้อมสุดฤิทธิ์ในพฤติกรรมผม  ... แต่ก็ทำให้รู้ว่า ท่านปิติยะตันตระ ไม่สมธิแตกซักกะตี๊ดดดดดด  เห็นมะ เห็นมะ  ผมทำประโยชน์ น่าาาาาา

แล้วอย่างนี้ คุณๆ ว่าผมสมควรโดนตัดหางปล่อยเทวาลัยไหม อะ ?????

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-11-10 09:52:19


ความคิดเห็นที่ 340 (1247566)
avatar
@@@ หนู จะ โต ขึ้น เป็น ตัน ตริก @@@

แล้วคุณนู๋ที่จะโตมาเป็นตันตริกเล่นเอามาโพสลงแบบนี้ ผมละสงสารเจ้าบ้านและ ยายตู่ แย่ คนมิแห่กันมาจนห้องแตกหรือครับเนี๊ยะ เพราะทุกวันนี้มันก็แทบจะไม่มีที่แบ่งกันวางก้นแล้ววววว

(>__<) หนูขอโทษค่า...

อืม....

หากใครสักคน จะผ่านเข้ามาในเว็ปนี้เหมือนนู๋
แล้ว อิน love จนอ่านย้อนกลับมาจนถึงหน้า13
และอ่านลงมาจนถึงข้อความที่ 337 นั้น
หากเป็นคนนอก มิใช่คนใน
ก็ย่อมแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือล้น และสนใจในความเป็น "ตันตระ"มากมาย

*******

ณ เวลาที่ "ฟ้าเปิดทาง" ให้แสงสว่างเข้ามาในชีวิตน้อยๆนี้
นู๋ดีใจมากเกินไปหน่อยค่ะ
ขอโทษด้วยนะคะ

ถ้าท่าน asinatantra และ เจ้าบ้าน
เห็นว่า ความเห็นที่ 337 อาจจะทำให้
ความเป็นส่วนตัวของชาวตันตระเสียไป
ก็ลบทิ้งเถอะค่ะ

ต่อไปนู๋จะ "สำรวม" และระลึกอยู่เสมอว่า

กระดานตรงนี้เป็นพื้นที่สาธารณะ ที่ควรจะระวังในการแสดงความเห็น

แค่นี้นู๋ก็ดีใจในความกรุณาของท่านเจ้าบ้านมากมายแล้ว

จากคำที่ท่านasinatantraได้ตอบกลับมา

" แล้วนู๋จะรู้ได้ไง "
ก็ทำให้นึกไปถึงคำตอบที่พวกเราโดนกันอยู่บ่อย ๆ ว่า
 " แล้วทำไมไม่ถาม "

นู๋ก็ได้เรียนรู้อะไรจากคำนี้แล้วค่ะ

ปล. คืนนี้จะรีบไปเร็วๆ ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น @@@ หนู จะ โต ขึ้น เป็น ตัน ตริก @@@ วันที่ตอบ 2007-11-10 13:59:03


ความคิดเห็นที่ 341 (1247820)
avatar
รักและภักดี
@^-^@
ผู้แสดงความคิดเห็น รักและภักดี วันที่ตอบ 2007-11-10 17:19:32


ความคิดเห็นที่ 342 (1254782)
avatar
@@@ หนู จะ โต ขึ้น เป็น ตัน ตริก @@@

วันนี้เจอเรื่องน่าสนใจจากเว็ปไซต์ค่ะ

Messages from Water

ตาม Link นี้นะ http://gotoknow.org/blog/buddhaza/89381

มีภาพประกอบชัดเจนและสวยงามมากทีเดียว

หนูมั่นใจว่า ในน้ำ บาสัค จะต้องเป็นผลึกที่งดงาม

ไม่แพ้ในเว็ปนี้ทีเดียว

******

MODE อยากเล่า อยากระบาย

อยากเล่าให้ท่าน asinatantra ฟังมากๆ

เมื่อวาน ได้รับพร ตามที่ขอเอาไว้ เมื่อวันงานพิธี 10/11/50

เต็มๆ เลยค่ะ เลยหน้าบานเข้าไปเล่าให้อาจารย์แป้งฟังเมื่อคืน

ขอเรื่องสอบเอาไว้ ต้องสอบวิทยานิพนธ์กระทันหันเมื่อวาน12/11/50

ภาคภาษาอังกฤษตลอด 2 ชม.ครึ่ง

คณะกรรมการสอบต้องมี 3 คน (แต่อาจารย์ 2 ใน 3 ค่อนข้างจะสนิท)

ปรากฎว่า อาจารย์อีก 1 คนที่(ไม่ค่อยสนิท)ติดราชการกระทันหัน

มาคุมสอบไม่ทัน แต่อนุมัติให้ดำเนินการสอบไปได้เลยแล้วจะตามมาทีหลัง (แต่ปรากฎว่ามาไม่ทัน ^___^)

ภาษาอังกฤษหนูยอมรับว่าแย่มากจริงๆ (ถ้าสอบเป็นภาษาไทยคงจบไปนานแล้ว) แต่ยังได้รับความเมตตาจากอาจารย์มากๆ

ที่พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่หนูพยายามจะตอบ

แต่เกือบครึ่งหนึ่งของที่อาจารย์ถาม ตอบไม่ออกมาทันใจเลยจริงๆ ถึงขั้นเงียบไปจนบรรยากาศอึมครึมกันไปทั้งห้อง

อาการแบบน้ำท่วมปาก อย่างที่สถาบันสอนภาษาอังกฤษชอบเอามาทำเป็นโฆษณา อาการอย่างนั้นเลย

ท้อมากๆ เลยนะ ตอนอยู่ในห้องนั้นเกือบ 3 ชั่วโมง (ความรู้สึกแบบอยากหายกลายเป็นอากาศไปตรงหน้าอาจารย์)

จนขออาจารย์ว่า in this point can I answer in Thai

โดนด่า เอ๊ย โดนดุ อีกว่า แล้วคุณจะมาเรียนภาคอินเตอร์ทำไม

ในที่สุด สรุปว่า ถือว่าการสอบครั้งนี้ ในหัวข้อ และวัตถุประสงค์ ถือว่า ผ่าน แต่ในตัวรูปเล่ม ต้องแก้เกือบทุกหน้าเลย

การได้รับความเมตตาแบบที่นอกเหนือจากเหตุผล นี่เป็นสิ่งที่มากกว่าที่เคยคิดไว้ว่าจะได้รับจริงๆ ค่ะ

*******

ความสามารถ และความพร้อม เรามีติดตัวอยู่เท่าไหร่

เราก็รู้อยู่แก่ใจ ว่ามันไม่สมควรจะผ่านจริงๆ

แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรให้มันเตรียมตัวให้ทันได้ในเวลาที่บีบคั้นขนาดนี้

จึงได้แต่ขอพรจากเทพให้เมตตา ขอให้การสอบครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดีด้วยเถิด เพราะไม่มีเวลาพอที่จะแก้ตัวแล้ว เวลามันจวนตัวแล้ว จะต้องจบภายในเทอมนี้

ตอนนั่งอยู่ตรงหน้าห้อง จากทั้งหมดที่เราตอบไป

ต่อให้เราเป็นคณะกรรมการ ก็ยากที่จะให้ผ่าน

คนสอบเองยังรู้ตัวเลย

แต่ปรากฎว่า "ผ่าน" โดยมีเงื่อนไข

ต้องแก้ทั้งหมด ตามที่คอมเม้นท์กันไว้...ให้ครบ

ก่อนส่งให้อาจารย์อีกท่านดู (อย่าให้ท่านเห็นเล่มนี้สอบนี้เลย)

คิดดูเถอะ.... ว่า เป็นไปได้... มันเป็นไปได้

และ เป็นไปแล้ว....

 

ผู้แสดงความคิดเห็น @@@ หนู จะ โต ขึ้น เป็น ตัน ตริก @@@ วันที่ตอบ 2007-11-13 14:49:50


ความคิดเห็นที่ 343 (1255937)
avatar
ม.อ.น้อยศิษย์สีสุดท้อง

เรียน ท่านasinatantra

วันก่อนมีโอกาสได้รับความรู้เรื่อง วงแหวน กับท่านเจ้าบ้านซึ่งรู้สึกสนุกมากกับการที่ได้คิดไปตามคำที่ท่านสอน ตั้งแต่อยู่มาเกือบ 2ปี โอกาสยากมากที่จะได้ถาม ตอบ ได้พอสมควร

ไม่ทราบว่าท่านasinatantra พอจะช่วยเสริมความรู้นี้เพิ่มอีกได้รึไม่เนื่องจาก ถึงมีโอกาศได้พบท่านเจ้าบ้าน แต่ก็ไม่ได้คุยเรื่องปรัชญาสักเท่าไร จริง ๆ แล้ว กับปรัชญานี่ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่แต่สนุกตรงที่ ทำให้เราได้คิด กว้างและไกลขึ้น ถ้าได้ฝึกบ่อย ๆจะได้ไม่เป็นกบในกะลา ทราบมาจากพี่สีขาว ท่านนึงว่าท่านasinatantra ซึมซับคำสอนได้เป็นอย่างดี ไม่ทราบว่าท่านจะพอ อนุเคราะห์ ม.อ. สักคนได้ไม๊คะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ม.อ.น้อยศิษย์สีสุดท้อง วันที่ตอบ 2007-11-13 23:40:06


ความคิดเห็นที่ 344 (1257101)
avatar
asinatantra

ตอบ ม.อ.น้อยศิษย์สีสุดท้อง

ขอผมแซวหน่อยนะ (ชื่อเหมือนนักมวยเลย ครับ)คริ คริ

เอาหละ แจงต่อมาอีกหน่อยสิครับว่า  "วงแหวน"  อะไร เผื่อผมรู้ผมจะช่วยขยายความให้

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-11-14 10:05:06


ความคิดเห็นที่ 345 (1258966)
avatar
ม.อ.น้อยศิษย์สีสุดท้อง

สืบเนื่องจาก มีอจ. ม. ถามว่าประคำแทนอะไร และก็มีอจ.น. ตอบว่า แหวน ท่านก็เลย บอกว่าแล้วในแหวนมีอะไร ม.อ.น้อยศิษย์สีสุดท้อง ก็เดาไปว่า มีของอยู่ในแหวน ท่านก็บอกต่อว่า แล้วข้างนอกแหวนก็มีเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอาอะไรอยู่ในและนอกแหวน หรือถ้ากำหนดสิ่งที่อยู่ในแหวน เป็นความรู้ แล้วข้างนอกเป็นความไม่รู้ หรือจะสลับกัน เป็นไม่รู้อยู่ใน รู้อยู่นอก และสิ่งที่อยู่ข้างใน กลับเบาบาง สิ่งที่อยู่ข้างนอกกลับหนาแน่นยิ่งตอบยิ่งสนุกกับการได้คิด ซึ่งท่านบอกว่ามันไม่มีผิด ถูก ถามไปถามมาเริ่มงง แต่เป็นการจุดประกาย กับปัญญาน้อย ๆ เท่าหางอึ่ง ประมาณเนี้ยะค่ะ รบกวนท่าน asinatantra โปรดแนะนำด้วยค่ะ

(ม.อ.น้อยศิษย์สีสุดท้อง ไม่ได้เป็นนักมวยแต่เกือบมีแควนเป็นนักมวย) 

ผู้แสดงความคิดเห็น ม.อ.น้อยศิษย์สีสุดท้อง วันที่ตอบ 2007-11-15 00:28:37


ความคิดเห็นที่ 346 (1258971)
avatar
ม.อ.น้อยศิษย์สีสุดท้อง
ขอแก้จาก อจ.น. เป็น อจ. ห. ค่ะลืมไป น เต็มไปหมด
ผู้แสดงความคิดเห็น ม.อ.น้อยศิษย์สีสุดท้อง วันที่ตอบ 2007-11-15 00:32:27


ความคิดเห็นที่ 347 (1260265)
avatar
เจ้าบ้าน
image

เริ่มแล้วนะ  ระบบสมาชิก
ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าบ้าน ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2007-11-15 13:37:39


ความคิดเห็นที่ 348 (1260536)
avatar
asinatantra

ตอบ ม.อ.น้อยศิษย์สีสุดท้อง

ในตันตระ  วงแหวนเปรียบดังปัญญา วงแหวนมีขอบกลมอยู่ด้านนอกและวางเปล่าอยู่ด้านใน เป็นเครื่องหมายของรูปธรรมและนามธรรม ที่วกกลับมาเป็นวงกลม

ก็วงแหวนที่จับต้องได้ด้านนอกนั้นเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้เห็น ๆ ภายในวงแหวนว่างเปล่าเปรียบเป็นความคิดความรู้คือนามธรรมไงครับ...ระหว่างความว่างเปล่าด้านในและสิ่งที่จับต้องได้ด้านนอก  ก็อยู่ที่แต่ละคนว่าจะให้ความสำคัญกับสิ่งไหนมากกว่ากัน..

ปรัชญาเป็นเรื่องถกเถียงกลับไปกลับมา ... แต่พอจะแนะแนวให้หาแกนกลางให้เข้าใจง่ายๆ ได้ว่า  รู้เอาไปทำอะไร?  ถึงอยากรู้มากและโชคดีได้รู้มากตามที่อยากแต่กลับเอาตัวไม่รอด เอาความรู้ไปใช้ไม่ได้   ก็เหมือนวงแหวนข้างในกลวงว่างเปล่า สู้รู้น้อยรู้เท่าที่ควรรู้แต่สามารถเอาความรู้ไปกระทำให้ตัวเองรอด มีความสุขดีในชีวิตจะดีกว่า   แต่รู้เท่าไหร่ถึงจะพอดี  อันนี้แต่ละคนต้องหาให้เจอ  ???  โดยเอาหลักที่แจง ปรับกับตนเองดู

การเปรียบเทียบในวิถีปรัชญา  ก็  แปลง่ายๆ อีกนัยหนึ่งได้เหมือนเครื่องเตือนใจชนิดหนึ่ง อธิเช่น ประคำก็เป็นรูปกลมวงแหวนที่สามารถดัดได้ รีมาก รีน้อย กลมดิก หรือกลมยาว ๆ ตามสภาพสถาณการณ์ที่เป็นอยู่   แหวนที่ประดับอยู่ที่ปลายประคำก็เป็นวงแหวนแขวนอยู่  ผู้ที่ได้มาครองต้องเตือนตัวเองว่า เป็นผู้สอบเพื่อเป็นผู้รู้แล้ว ทุกครั้งที่เอื้อมมือสวมประคำเข้าที่หัวลงไปคอตนเอง   เมื่อเห็นต้องเห็นและเตือนตนเองได้ว่า พร้อมแล้วใช่ไม๊ที่จะสวมความเป็นผู้รู้และปฎิบัติตนให้ได้อย่างที่รู้มา...มิ อย่างนั้น ก็อย่าประดับมันลงที่ร่างตน  มันเป็นการเตือนตนเองได้อย่างหนึ่งไปในที

และอีกอย่าง วงแหวนเป็น รูปร่างแทนสีเขียวบนภาคพื้น หมายถึงปัญญา

ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-11-15 16:07:14


ความคิดเห็นที่ 349 (1260546)
avatar
@@@ หนู จะ โต ขึ้น เป็น ตัน ตริก @@@


ในชีวิตนี้ ไม่เคยได้ยินคำว่า "ตันตระ" มาก่อน
แต่ เมื่อเริ่มรู้จัก ด้วยการ กดลิงค์ "ตันตระเทวาลัย"

มาจากเว็ปริชชี่

ก็ in love กับ "ตันตระ" จนต้องเข้ามาอ่านทุกวัน

ยิ่งพอได้เข้ามา "ตันตระเทวาลัย" ครั้งแรก
ก็ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่

ได้อ่านมาเรื่อยๆ

จนมาแอบฝังตัว อยู่กระทู้ของท่าน asinatantra

เข้ามาทุกวัน และวันละหลายๆ รอบ
กด Refresh กระทู้ "สาระพันทุกข์ สุข ของอสินะตันตระ"
ด้วยความถี่ประมาณชั่วโมงละ 1 ครั้งค่ะ
(วันๆ นึง ก็กดเข้ามาประมาณ 10 ครั้ง ^___^)

เป็นอย่างนี้ทุกวัน... เหมือนมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่าง

อีกเรื่องหนึ่งคือ มีคำถาม...ที่มีคนฝากมาถามหน่ะค่ะ

ขออนุญาตถามนะคะ
เป็นคำถามที่เกิดขึ้นด้วยความรักและเคารพ
คือ หลังจากได้ไปเทวาลัย มา 5 ครั้งแล้ว
รู้สึกผูกผันกับที่นี่จัง

แล้วเมื่อคืนคนที่ไปด้วยกันทุกครั้งก็พูดขึ้นมาเสียงเศร้าๆ ว่า


"ฝากถามในเว็ปให้หน่อยนะ ว่า ตันตระ จะมีวันเลิกหรือเปล่า"
"งานเลี้ยงจะมีวันเลิกลา หรือเปล่า"

โดยส่วนตัวของแล้ว หนูคิดว่า
เราทุกคน ที่ได้ก้าวเข้ามาที่นี่
ล้วนแล้วแต่ ถึงเวลา ที่จะได้เข้ามา
ถ้ายังไม่ถึงเวลา ก็คงไม่ได้เข้ามา...

จากที่อ่านกระทู้ย้อนไปเรื่อยๆ
เจอคำพูดจากอาจารย์ท่านนึง
ที่ตรงกับความรู้สึก ณ เวลานี้มากๆ คือ...

แล้วคุณจะพบว่า การที่คุณได้ก้าวเท้าเข้ามาในที่แห่งนี้ เป็นวาสนา  และหลังจาก คุณก้าวเท้าออกไปจาก  เทวาลัย ชีวิตของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป.. คุณจะไม่ได้เดินคนเดียวอีกต่อไป คล้ายๆอย่างที่ทีมฟุตบอลทีมที่เกรทบริเทนทีมหนึ่งเข้าว่าไว้..............You Never Walk Alone...อะไรประมาณนี้ ....
ดำ (
13@tantradevalai.com) 23-09-2005

ชีวิตหนู...ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
ทั้งมุมมองชีวิต และ การบูชาเทพที่หนูเคารพ
เป้าหมายของชีวิต
และการเดินแต่ละก้าวบนโลกนี้...อย่างอบอุ่น

แต่จากคำถามนี้ ทำเอาหนูเศร้าไปเหมือนกัน
เกิดความรู้สึกขึ้นมาแว่บหนึ่งว่า
"เรารู้จักบ้าน ช้าเกินไปรึเปล่านะ"

.....

ผู้แสดงความคิดเห็น @@@ หนู จะ โต ขึ้น เป็น ตัน ตริก @@@ วันที่ตอบ 2007-11-15 16:11:27


ความคิดเห็นที่ 350 (1260570)
avatar
เจ้าบ้าน
image

ขอเพิ่มอีกนิดสำหรับเรื่องวงแหวน ซึ่งหมายถึงปัญญา ให้ลองมองดูจะรู้ว่าวงแหวนมีส่วนของ ในวงแหวน และนอกวงแหวน  นอกจากการเป็นรูปธรรมและนามธรรมแล้วยังหมายความได้ถึงความรู้อันมากมาย นอกวงแหวน และสิ่งที่เรารู้หรือเลือกแล้วที่จะรู้ คือในวงแหวนอีกด้วย
ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าบ้าน ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2007-11-15 16:25:04



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 [7] 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.