gallery | ข่าวสาร | เทวรูป พระมหาคเณชะ ปางต่างๆ | บาสัค | ดวงตราประมุข | ประคำเทพนพเคราะห์ |
สาระพันทุกข์ สุข ของอสินะตันตระ | |
asinatantra | เนื่องจากกระทู้สาระพันทุกข์สุข เดิมถึงวาระที่ต้องจากไป . . จึงได้โอกาสตั้งกระทู้บ่นใหม่ คราวนี้ใส่ชื่อตัวเองไว้เลย จะได้ไม่ต้องละอายใจที่รู้สึกว่า มีทุกข์สุข อยู่กะเค้าคนเดียว หุ หุ ใครที่แวะมาอ่านก้อเตรียมใจ ถัดจากนี้ไป ผมก้อจะบ่นของผมไปเรื่อย ^_^ - - eternity complain > > > |
ผู้ตั้งกระทู้ asinatantra :: วันที่ลงประกาศ 2006-05-30 09:49:21 |
<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ถัดไป >> |
ความคิดเห็นที่ 201 (693371) | |
แว่น | เรียนท่านอสินะตันตระ เมื่อวานแว่นได้มีโอกาสไปร่วมพิธีไหว้ครูประจำปีของตันตระเทวาลัยมาเลยมีข้อสงสัยมาถามขอรับ (แบบว่าเป็นพวกสอดรู้สอดเห็นนะขอรับ) คือ อย่างแรกนะขอรับ เมื่อวานนี้ตอนที่สีขาวทำพิธีสวดเปิดเสร็จจะมีการเจิมหน้าผากให้ผู้ที่เข้าร่วมทำพิธี โดยอาจารย์ท่านหนึ่งแต่ผู้เข้าร่วมพิธีมีจำนวนมาก เลยมีอาจารย์อีกท่านมาช่วยเจิมหน้าผากเพื่อความรวดเร็ว แว่นเป็นคนหนึ่งที่รอจนคนเหลือน้อยแล้วจึงไปเข้าแถว และได้สังเกตเห็นว่าอาจารย์ท่านหนึ่งสวดยาว อีกท่านสวดแบบย่อ ๆ คนที่มาเข้าแถวรอเจิมหน้าผากเลยต่อแถวที่สวดยาว ๆ (แว่นก็เป็นคนหนึ่งล่ะ) เลยอยากเรียนถามว่า การสวดแบบยาว ๆ กับสวดแบบย่อ ๆ ให้ผลไม่เหมือนกันหรือขอรับ หรือขึ้นอยู่กับใจคนที่ถูกเจิม |
ผู้แสดงความคิดเห็น แว่น วันที่ตอบ 2006-11-12 15:11:59 |
ความคิดเห็นที่ 202 (693375) | |
แว่น | ยังไม่หมดขอรับท่านอสินะตันตระ อีกอย่างหนึ่งขอรับ การปิดทอง เมื่อคืนสีแดงมีพิธีปิดทองเพื่อความร่ำรวยให้กับผู้ที่ถวายอัคนี แว่นก็สังเกตเห็นอีกแล้วขอรับ(บอกแล้วว่าเป็นพวกสอดรู้สอดเห็น) ว่า ผู้ที่ถวายอัคนีบางคนอยากให้อาจารย์ที่มีขั้นสูง ๆ ปิดทองให้ เลยอยากเรียนถามว่าการปิดทองจากอาจารย์ที่มีขั้นต่าง ๆ กันให้ผลต่างกันหรือขอรับ หรือทั้งหมดขึ้นอยู่กับใจของเราทั้งนั้น ที่เรียนถามหากเป็นการลบหลู่ก็ขออภัยด้วยขอรับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น แว่น วันที่ตอบ 2006-11-12 15:17:14 |
ความคิดเห็นที่ 203 (694078) | |
asinatantra | เฮ้อออออ วิญญาณไม่ค่อยจะยอมกลับร่างเลยผม.... *0* เอาหละตอบคุณแว่น กระทู้ 202 และ 203 รวมเลยนะ การขอพรเทพนั้น อาจารย์ที่นี้ก็เหมือนบรุษไปรษณี ที่นำคำขอของท่าน ๆไปส่ง .. แต่ขณะทำหน้าที่สวดก็ละซึ่งความไม่เป็นกลางแบบมนุษย์ออกนะครับ.. ที่ถามว่าสวดยาว หรือ สวดสั้น นั้นไม่มีปัญหาต่างกันครับเป็นความถนัดในคำสวดของอาจารย์แต่ละท่าน และอาจารย์แต่ละท่านเป็นตันตริกที่มีคุรุคนละท่านบ้างหรือเรียนคนละแนวบ้าง ฉะนั้นความถนัดของอาจารย์แต่ละท่านคงจะต่างกัน ทีนี้ถามว่าแถวที่สวดยาวทำให้คิวยาวกว่า แน่นอนว่าสวดยาวกว่าก็คิวยาวกว่าอยู่แล้วตามเวลาที่ใช้ แถมบุคคลที่รอสวดก็ประจวบเหมาะกับเป็นบุคคลที่ชอบแนวฟังสวดยาว ๆ ก็เท่านั้นเอง เหมือนการรับพร ที่จะรู้สึกว่าได้พรยาว ๆ กว่าจะได้เยอะกว่า-สบายใจกว่า ประมาณนั้น แต่ทั้งนี้ ไม่มีหนทางใดไม่ดีทุกบุคคลเลือกได้ตามความสบายใจของตนเองครับ .....ทุกอย่างเหมือนกันหมด ส่วนเรื่องขั้นของอาจารย์ นั้นก็ไม่มีผลหรอกครับ เพราะแปะทองและให้พรจากองค์เทพเป็นหลักซึ่งจะสังเกตุได้จากองค์เทพที่ตั้งอยู่เป็นประธาน ความเป็นกลางต้องเท่ากันเหมือนคำสวดในคำถามแรก... ถึงแม้ว่าจะเป็นพิธีกรรมไหว้ครูของตันตระ แต่พิธีกรรมในช่วงเย็นนั้นเปิดให้ทุกคนได้ร่วมมีความสุขด้วยกัน หากเป็นพิธีกรรมของเหล่าตันตริกล้วน ๆ คงไม่สามารถเปิดช่วงเวลานั้นให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมได้ เพราะ วิถีปรัชญาของตันตระอาจจะแปลกแยกไปหน่อยสำหรับบุคคลที่ไม่ใช้ตันตริก ในกลุ่มตันตริก ระดับขั้นอาจจะมีผลบ้างในบางเรื่อง บางกรณี แต่ไม่ใช่กับทุกเรื่องครับ.....ซึ่งผมตอบให้มากกว่านี้ไม่ได้ |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-13 10:34:43 |
ความคิดเห็นที่ 204 (695156) | |
ลูกหมาขนสีแดง | เช้านี้ได้เข้ามาอ่านเลยแวะมาทักทายคะสมุนทั้งสองตัวเป็นไงบ้างคะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกหมาขนสีแดง วันที่ตอบ 2006-11-14 07:23:00 |
ความคิดเห็นที่ 205 (695396) | |
asinatantra | หวัดดีครับ ลูกหมาขนสีแดง.. สมุนหมูกับสมุนเบบี๋ สบายดีแต่กำลังจะกลายเป็นเต่าเข้าไปทุกที 55555 เพราะไม่ว่าอะไรอยู่กับผมละก็เป็นเต่ากันหมด...ก็เลี้ยงตามอัตภาพผมไป ...เผิอญสมุนทั้งสองเป็นพันธุ์ที่เหมาะแก่การทำเต่าอยู่แล้วคือเห็นนั่งได้ทั้งวัน นั่งหลับบ้าง นั่งเหม่อบ้าง นั้งน้ำลายยืดบ้าง ไปตามประสา และตอนนี้สมุนเบบี๋ก็ไม่สร้างปัญหาแล้วเพราะดูท่าสมุนเบบี๋คงจะรู้แล้วว่าผมใจร้าย เดี๋ยวโดนทิ้งอะยุ่งเลย พักนี้เลยทั้งอึทั้งฉี่ เป็นระเบียบเชียว ฮ่ะๆๆๆ รอดไป.....เบบี๋ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่า ที่บ้านผมแลดูจะมีอะไรก้อน ๆ วางอยู่สองก้อน อยู่ตรงโน้นตรงนี้ นั่งอยู่เป็นก้อน ๆ ก็แปลกดีว่า อะไรจะเปลี่ยนกันได้ขนาดนี้ ..... มะ เชื่อ อย่า หลบ หลู่..... ขอบใจที่แวะถาม จะจำไว้ว่าหากหมดปัญญาดูแลแบกหาม จะนึกถึงลูกหมาดำกับลูกหมาแดงก่อนเลย...เพราะวศินะตันตระมาเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ว่าฝีมือการเลี้ยงสมุนของเราสองคนไว้เยอะเชียว ว่าเก่งกาจเหลือหลาย..... ขอบใจกับน้ำมะขาม อะหย่อย ๆ ด้วยนะ....ลูกหมาแดง |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-14 10:46:57 |
ความคิดเห็นที่ 206 (696605) | |
แว่น | เรียนท่านอสินะตันตระ มีเรื่องขอคำชี้แนะขอรับ คือ ทำไมบางครั้งคนเราต้องการให้คนอื่นทำเหมือนที่เราทำ เวลาที่คนอื่นเขาไม่ทำเหมือนที่เราทำก็จะเป็นเดือดเป็นร้อน เช่น นักเรียนคนหนึ่งโดนครูสั่งให้รัดผมให้เรียบร้อย ใส่กระโปรงคุมเข่า พอนักเรียนคนนั้นเห็นนักเรียนคนอื่นไม่ทำบ้างก็มีการพูดคุยกับเพื่อนว่าทำไมเขาต้องทำแล้วคนอื่นไม่ทำ ทำไมเขาไม่คิดว่าเขาทำแล้วได้ประโยชน์อะไร และคนไม่ทำได้รับผลอะไรบ้าง แต่ในบางครั้งทำไมคนเราไม่ต้องการให้คนอื่นทำเหมือนกันที่เราเคยทำมาแล้ว เช่น เมื่อก็เรากินข้าวในห้องทำงานได้แต่เดี๋ยวนี้เราไม่ได้ทำแล้ว แต่พอคนอื่นทำก็ว่าเขาทั้งที่เมื่อก่อนเรายังทำ |
ผู้แสดงความคิดเห็น แว่น วันที่ตอบ 2006-11-15 08:57:11 |
ความคิดเห็นที่ 207 (696730) | |
asinatantra | ตอบคุณแว่นกระทู้ 207 คำตอบคือ ความเห็นแก่ตัว ครับ ไม่มีอะไรต้องคิดต้องอธิบายมาก ..... แต่เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ยอมรับ ใครจะบอกว่าตัวเองเห็นแก่ตัว!!!! จริงไหม? ซึ่งจะต่างกับตันตริก เราโลภเราบอกว่าเราโลภ เราเห็นแก่ตัวเราก็บอกว่าเราเห็นแก่ตัว หรือเราดีเราก็บอกว่าเราดี และอื่น ๆ อีกเยอะที่ความเป็นมนุษย์เป็นอยู่....ถึงบอกว่าพวกเราอาจจะคิดต่าง การยอมรับในตนเองก่อนคือทางแก้ของอีกหลายอย่างมาก.. คุรุสอนผมว่า " คนที่โวยวาย คือคนที่เสียผลประโยชน์ " อุ อุ |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-15 10:33:48 |
ความคิดเห็นที่ 208 (696842) | |
แว่น | เรียนท่านอสินะตันตระ ขอบคุณที่ให้คำชี้แนะขอรับ แสดงว่าคนเราไม่จำเป็นต้องปล่อยวางใช่ไหมขอรับ เพียงแต่ต้องรู้ว่าเราเป็นใคร กำลังทำอะไร และทำเพื่ออะไร อีกอย่างหนึ่งการยอมรับความจริงที่เราเป็นมันเป็นสิ่งที่ยากนะขอรับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น แว่น วันที่ตอบ 2006-11-15 12:33:43 |
ความคิดเห็นที่ 209 (697057) | |
แว่น | เรียนท่านอสินะตันตระ ความเห็นแก่ตัว กับ การรักตัวเอง ต่างกันอย่างไรขอรับ แล้วอย่างไรเรียกว่า "พอดี" เอาอะไรมาวัดขอรับ อีกอย่างหนึ่งขอรับ คนที่มีความสุข ยิ้มได้บนความเจ็บปวดของตัวเองบ้ามั๊ยขอรับ ขออภัยที่วันนี้รบกวนถามหลายเรื่อง |
ผู้แสดงความคิดเห็น แว่น วันที่ตอบ 2006-11-15 16:00:46 |
ความคิดเห็นที่ 210 (698283) | |
asinatantra | ตอบคุณแว่น กระทู้ 209 และ 210 .. แน่นอนว่าการยอมรับในตัวเองนั้นยาก ถึงยากที่สุดสำหรับมนุษย์หลาย ๆ ฅน แต่ที่แจงว่ายอมรับนั้น ต้องขอแจงต่อว่ายอมรับเพื่อแก้ไข มิใช่ยอมรับเพื่อปลอยเอาไว้อย่างนั้น ..ที่บอกว่าเราเป็นใครและทำอะไรอยู่ หมายถึงให้ประเมิณตนเองยอมรับในตัวเอง ว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี สิ่งไหนนำมาซึ่งทุกข์ และสิ่งไหนนำมาซึ่งสุข และเมื่อรู้ก็คัดทิ้ง หรือคัดเก็บ หรือคัดมาพัฒนา...ฉะนั้นคำว่า วาง ต้องเป็นสิ่งจำเป็นแน่นอน อาทิเช่น รู้ว่าเค้าไม่รักแล้วแต่ก็ยังโกหกตนเองต่อไปไม่วางลง ก็ทุกข์อยู่วันยันค่ำ...เป็นตัวอย่าง ความเห็นแก่ตัว และ การรักตัวเอง มันก็คล้าย ๆ กันนั้นแหละ ครับ เช่นเพราะรักตัวเองจึงต้องเห็นแก่ตัว มันเรื่องประมาณเดียวกัน... คำว่า "พอดี" ใช้แล้ว พอดีนั้นพอดีกับใครและเท่าไหร่ถึงจะพอดี นั้นแหละข้อยากที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝน แต่มนุษษ์คนหนึ่ง ๆ จะไม่มีวันหาจุดพอดีที่จะทำให้ชีวิตตนเองดีได้หากแม้ยังโกหกตนเองอยู่ คนที่มีความสุขและยิ้มได้บนความเจ็บปวดของตัวเองนั้นบ้ามั้ย บ้า แน่นอนครับและตันตริกถือว่าไม่นิยม ตกสมัยอย่างถึงที่สุด... |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-16 16:27:38 |
ความคิดเห็นที่ 211 (699025) | |
แว่น | เรียนท่านอสินะตันตระ ขออนุญาตเรียนถามต่อว่า ถ้าหากว่าเราต้องอยู่กับคนที่เห็นแก่ตัวโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น เขาเป็นลูกน้องเรา และเราไม่สามารถที่จะสับเปลี่ยนโยกย้ายเขาไปอยู่ที่อื่นได้เนื่องจากเป็นหน่วยงานราชการ เราควรจะอย่างไรกับเขาดี เพราะตอนนี้ในที่ทำงานมีคนประเภทนี้รวมตัวอันอยู่มาก คือทำงานมีแผนกอยู่ 4 แผนกที่ทำงานร่วมกันและต้องอยู่รวมกัน แรก ๆ ก็มีแค่คนเดียวแล้วก็เพิ่มมาเป็น 2 คน 3 คน จนตอนนี้เป็นกลุ่มเป็นก้อน ทำให้การทำงานไม่ก้าวหน้า หัวหน้าแผนก 3 คนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับคนพวกนี้ เวลาเรียกประชุมพูดในที่ประชุมก็ทำเฉยไม่รับรู้ อีกอย่างขอรับ ตอนนี้แว่นยอมรับความจริงเรื่องการหมดรักแล้วขอรับ แต่กำลังค่อย ๆ วาง (บรรจงวางอยู่) ขอบคุณที่ปรึกษาที่ดีอย่างคุณปุ๊ก(ปิ่น) ขอรับ คนเราถ้าไม่รักตัวเอง แล้วจะรักคนอื่นได้อย่างไร |
ผู้แสดงความคิดเห็น แว่น วันที่ตอบ 2006-11-17 08:26:20 |
ความคิดเห็นที่ 212 (699139) | |
asinatantra | อืมมมม แหมม.....เรื่องงานนิรายละเอียดปลีกย่อยมันเยอะครับ...เอาเป็นว่าถ้าเป็นผม ผมไม่คิดมากในรายละเอียดครับ งานก็คืองาน หัวหน้าก็คือหัวหน้า ลูกน้องก็คือลูกน้อง มีอะไรที่บกพร่องก็เรียกมาคุย คุยเป็นเรื่องเป็นราวเป็นงานเป็นการ ว่าอะไรที่ไม่ดีและส่งผลกระทบต่องาน ขั้นตอนต่อไปคืออะไร บทลงโทษคืออะไร หากไม่กระทำซะตั้งแต่ต้นมาก็ติดกันเป็นกิจวัตรเป็นปกติอยู่แล้ว และเราเองเป็นตัวอย่างที่ดีไม๊ ลูกน้องไม่เชื่อฟัง เคารพเพราะอะไร ต้องดูรายละเอียดหลายอย่าง ทุกอย่างจะมีเหตุของมันหมด..... การเก็บเรื่องโน้น เรื่องนี้มาคิดไปมา โดยมิกระทำการแก้ให้ชัดเจน ก็แบกอาการปวดหมอง อยู่อย่างนั้นร่ำไป เรื่องบางเรื่องแก้กันง่าย ๆ ตรงที่การเจรจาเท่านั้นเอง.... แถมท้าย รักตัวเองมากไปก็ไม่ดีของทุกอย่างถ้าทำให้ พอดี พอดี จะดีที่สุด..... |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-17 09:41:19 |
ความคิดเห็นที่ 213 (699156) | |
asinatantra | วันศุกร์แย้วววววววววววววว ได้เวลาก๊กแล้วน่า เอิก เอิก.... วันนี้ตอนเย็นอาจารย์ปั๊บ อาจารย์ตุ้น จะเอาสมุนส่วนตัว 2 ตัวมาเจอสมุนหมูกับสมุนเบบี๋ของผม ตามความต้องการของวศินะตันตระจอมไฮเปอร์ !!!! วศินะตันตระเป็นพวกไฮเปอร์ เลยพลอยทำให้รอบข้างกระเพื่อมไปด้วย เวลา วศินะตันตระโผล่ อืด อืด(ขอเน้นว่า อืด อืด หุหุ )เข้ามาที่เทวาลัยที ทุกท่านจะออกเสียง จ๊ากกกกกก มาแล้วววววววว!!!! ผมก็เลยจำต้องลองเอาสมุนมาประชันกันดูดิว่าใครจะย้วย อ้วน ยืด กว่า เฮอะๆๆๆๆ ผมว่าสมุนหน้าโหดของผมทั้งสอง วิ่งหนี อาด อาด กลับบ้านชัวร์ เหตุเพราะได้เข้าขั้นตอนทำเต่ามานานพอดู.... โปรดติดตามตอนต่อไป |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-17 09:52:42 |
ความคิดเห็นที่ 214 (699303) | |
แว่น | เรียน ท่านอสินะตันตระ อย่างไรเรียกว่า "พอดี" |
ผู้แสดงความคิดเห็น แว่น วันที่ตอบ 2006-11-17 12:01:01 |
ความคิดเห็นที่ 215 (699509) | |
แว่น | เรียนท่านอสินะตันตระ วันนี้มีเรื่องรบกวนเรียนถามท่านอสินะตันตระอีกเรื่องขอรับ คือ เรื่องการนั่งสมาธิเวลาแว่นไปนั่งสมาธิที่เทวาลัยแล้วอาจารย์บอกให้คิดอะไรก็ได้ไปเรื่อย ๆ แว่นกลับนึกไม่ออกว่าจะคิดอะไร แล้วช่วงแรกของการนั่งสมาธิที่มือจะมีความรู้สึกบางอย่าง แต่พอในไปสักพักความรู้สึกนี้ก็จะหายไป บางวันมือก็จะขยับบ้างเล็กน้อย บางวันก็ไม่ขยับเลย และทุกวันนี้แว่นก็นั่งสมาธิที่บ้านทุกวันเป็นจำนวน 100 ลมหายใจ แต่พอเริ่มนับ 1 2 3....ทีไรจะต้องมีเรื่องอะไรให้คิดทุกทีขอรับ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ขอรับ เวลาอยู่ที่เทวาลัยอาจารย์บอกให้คิดอะไรก็ได้กลับคิดไม่ออก พออยู่ที่บ้านกลับมีเรื่องให้คิดที่ตั้งแต่ลมหายใจแรกจนถึงลมหายใจที่ 100 (แต่ว่าระยะหลังบ้างครั้งที่นั่งที่บ้าน กำลังคิดอะไรไปเรื่อย ๆ ก็จะมีบ้างที่รู้สึกกึ้กแล้วก็คิดอะไรไม่ออกเลยอยู่พักหนึ่ง รู้สึกแต่การนับลมหายใจอยู่ขอรับ) |
ผู้แสดงความคิดเห็น แว่น วันที่ตอบ 2006-11-17 15:41:17 |
ความคิดเห็นที่ 216 (699571) | |
asinatantra | ตอบกระทู้ 215 พอดี เป็นสิ่งที่ต้องหัด พอดีแล้วจะเกิดสิ่งดีอย่างแท้จริง ฉะนั้น คำว่า พอดีแล้วจึงดี ไม่มีมารตฐานวัดแน่นอนหรอก พอดีของผมก็ไม่ใช่พอดีของคุณแว่น พอดีจึงเป็นสิ่งที่ต้องหัดเรียนและจดจำสิ่งที่เกิดกับตน เมื่อทำให้เกิดความพอดีในเรื่องใดขึ้นมาได้ รับรองว่าจะเกิดผลดีกับตนเองจนแถบจะไม่มีผลร้ายเลยทีเดียว.... ตอบกระทู้ 216 นั่งสมาธิแบบเทวาลัย เคยอธิบายไปแล้วหลายกระทู้ว่าการเกิดสมาธิแบบตันตระ นั้นต้องใช้งานจริงได้ ตัวอย่างเดิมคือ เวลาเราทำงานเมกจะเกิดเรื่องราวต่าง ๆ ที่ต้องแก้ไขสถานะการณ์แต่ในความเป็นจริงคงไม่มีใครมารอเรานั่งลงขัดสมาดนั่งสมาธิ เงียบ สงบ สยบเคลื่อนไหวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยกลับมาแก้ไขเรื่องราวกันต่อ.จริงไม๊..สมาธิต้องเกิดเมื่อสมองทำงานอยู่คือคิดอยู่ให้ได้....ถามว่าทำไมอยู่ที่เทวาลัยคิดไม่ออก เพราะความไม่ชินไง ไม่ชินต่อบุคคลไม่ชินต่อสถานที่ ทำให้วิตกมากไม่เท่ากับการอยู่ในที่ๆ คุ้นเคย.... การเรียนสมาธิ เรียนเพื่อให้รู้จักการมีสมาธิ มีสติ ไม่ต้องคิดเยอะ เราไม่ได้ฝึกให้เหาะเหิน เดินอากาศอยู่แล้ว ฉะนั้นอะไร ๆ มันก็เราทั้งนั้น สิ่งที่ต้องหัดควรจะเป็น นั่งสมาธิเพื่อตั้งสมาธิได้ในยามขับขัน ตั้งสติเป็น ว่ามันอยู่ตรงไหนของตัวเรา ง่าย ๆ แบบนั้น..... |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-17 16:33:52 |
ความคิดเห็นที่ 217 (701071) | |
แว่น | เรียน ท่านอสินะตันตระ นั่นซิขอรับ พอดีของท่านอสินะตันตระอาจไม่ใช่พอดีของแว่น แล้วแว่นเคยทำอะไรพอดีบ้างหรือเปล่า ตอนนี้แว่นกำลีงทำอย่างมีสติอยู่หรือเปล่า ทำด้วยรู้แต่ว่ามันตอนทำเพราะมันเป็นหน้าที่ พอเบื่อก็อ้างโน้นอ้างนี้ ขนาดแว่นยังไม่สามารถบอกตัวเองได้แล้วใครจะบอกแว่นได้ ขอบคุณท่านอสินะตันตระที่ให้คำชี้แนะ ขอบคุณตันตระเทวาลัยสถานที่ที่ทำให้ได้พบผู้รู้ ขอบคุณท่านเจ้าบ้านที่ทำให้ได้พบผู้รู้ และสถานที่ดี ๆ |
ผู้แสดงความคิดเห็น แว่น วันที่ตอบ 2006-11-19 08:01:48 |
ความคิดเห็นที่ 218 (706000) | |
asinatantra | เมื่อวันศุกร์ก่อนที่อาจารย์ปั๊บ อาจารย์ตุ้น เอาสมุนสองตัวมาออฟฟิศ ตามที่เล่าไว้ เลยมาเล่าต่อว่าผมก็พาสมุนหมูกับสมุนเบบี๋มาเจอกัน คราวนี้ค่อยสบายหน่อยเพราะสมุนเบบี๋ยอมเดินด้วยตัวเองแล้วไม่ต้องลากต้องถู กันมา คงจะเพราะโตขึ้นแล้วมั่งไม่กลัวโน้นกลัวนี้มากนัก... สรุปผลว่าสมุนหมูกับสมุนเบบี๋ ได้มาเจอเพื่อน ฮ่ะ ฮ่ะ ขอบอก ขอบอก ว่าไม่ได้วิ่งหนีกลับบ้านตามคาดนะครับท่าน แต่ระหว่างตัวผู้ กะ ตัวผู้ ก็มีอันจะกัดกันไปซะ สมุนตัวผู้ของอาจารย์ปั๊บอาจารย์ตุ้น เลยมีอันต้องระเห็ดออกนอกออฟฟิศไป เหลือแต่น้องนางตัวเมียให้สมุนผม ยนโฉมดมกันเหล่กัน ก็ ดมกันไป ยืดกันไปด้วยชีวิตไม่เคยเลจอตัวเมีย และแล้วสมุนเบบี๋ดันตื้นเต้นเก็บอารมณ์ไม่อยู่ อึ ออกมากองเท่าภูเขาในออฟฟิศผมเลย โอ้ววววววว พระเจ้าช่วยกล้วยทอด มันช่างเหม็น สุดๆ ....เห็นว่าหลาย ๆ ท่านที่อยู่ในเหตุการณ์ก็มีอันอึ่งกับหุ่นอันอวบอั๋น หยวย ยืด ยาน ของสมุนทั้งสองของผมกันไปตาม ๆ กันและทำให้ได้ยินคำพูดที่ได้ยินจนชินหู จากคนที่มาเทวาลัยช่วงนั้นพอดีว่า " นี้ตัวอะไรอะ " เหอะ เหอะ ผมเองยังไม่แน่ใจเลยว่ามันตัวอะไร เลยตอบให้ไม่ได้.....หลังจากปล่อยให้ดมและยือหยวยกันไปพอประมาณ เหล่มองนาฬิกา อะจึ๋ยยยย เจ้าบ้านจะมาแย้วววววว ไปแร็ววววววววว ผมก็พาสมุนเผ่นอ้าววววว กลับบ้านโดยด่วน.... กลับถึงบ้าน สมุนหมูสมุนเบบี๋แทบขาดใจ ลงนอนอืดหายใจแฮก ๆๆๆๆ เพราะเดินไกลถึง 100 เมตร!!!! ผมก็นั่งลงมองอาการหอบแฮก ๆ แล้วคิดว่า โถถถถ เดินแค่นี้ยังเหนื่อยแทบไส้แตก จะไปทำอะไรด้ายยยยยย อยู่เป็นเต่าของผมต่อไปนะดีแย้ววววววว |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-23 10:05:10 |
ความคิดเห็นที่ 219 (706755) | |
ป้าแมว | ท่านอสินะตันตระ มีสมุนหมู สมุนเบบี้ ก็มีความสุขไปอีกแบบ เพลินดี และก็มีอะไรแปลก ๆ ให้ดูเล่น อ่านที่ท่านเล่า เห็นภาพแล้ว ตลกดี นั่งขำ ๆ หัวเราะอยู่ในลำคอคนเดียว หะ หะ หะ เฮ้อ ! คงน่ารัก ได้เห็นชีวิตสมุน ๆ มีท่าทาง อาการตลก ๆ ทุกวัน |
ผู้แสดงความคิดเห็น ป้าแมว วันที่ตอบ 2006-11-23 17:02:14 |
ความคิดเห็นที่ 220 (707586) | |
ลูกหมาดำตาบอด | นายคับวันที่15-17ธันวานี้ มีงานประกวดที่สวนสามพรานงานใหญ่ด้วยนะคับ นายไม่นำสมุนทั้ง2ไปเดินประกวดโชว์ห่านหรือคับ เพื่อจะได้ถ้วยรางวัลกลับบ้านมาดูเล่น ผมยังคิดว่าจะไปเลยแต่ต้องดูใกล้ๆก่อน เพราะจะไปดูเขาแข่งสุนัขอารักขาที่สำคัญของหมาขายถูกมากๆคับ ปีที่ผมไปมีตรวจสุขภาพฟรีด้วย(ของสมุนนะคับ) |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกหมาดำตาบอด วันที่ตอบ 2006-11-24 10:10:06 |
ความคิดเห็นที่ 221 (707591) | |
ลูกหมาดำตาบอด | ลืมไปคับก่อนหน้านั้นมีงานที่เดอะมอล์บางแคด้วยคับวันที่2-3ธันวา |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกหมาดำตาบอด วันที่ตอบ 2006-11-24 10:13:35 |
ความคิดเห็นที่ 222 (707629) | |
asinatantra | ขอบใจนะลูกหมาดำตาบอด คือว่า...แบบว่า....มันไปกันไม่ไหวจริง ๆ ผมอะนะ เป็นคนเกิดวันศุกร์ ฉะนั้นตายเพื่อความสวยงามได้เลยนะ และทีนี้เจ้าสมุนหมูกับสมุนเบบี๋ เนี๊ยะก็มีอุปสรรคหลาย ๆ อย่างที่มาขัดกับอาการเกิดวันศุกร์ของผม อะครับ เลยไม่ค่อยได้นำไปไหนด้วย เพราะสมุนหัวใจชมพูทั้งสอง จะชอบมาจู จุ๊บ ผมตลอดเวลา แล้วลองนึกดูถึงความยืด ๆ เยิ้ม ๆ ที่มาติดผมดูสิครับ พอพลักออกก็ทำหน้าเศร้า ตาห้อย กันอีก....เพื่อป้องกัน การตบตี กับระหว่างผมและสมุน สมุนก็เลยต้องรับกรรม อยู่บ้านไปครับ( ประมาณเห็นแก่ตัวไว้ก่อน) มีครั้งหนึ่ง ผมออกอาการใจดีขึ้นมา เอาสมุนเบบี๋ ขึ้นรถไปหาเพื่อนเพื่อดูอาการขนแหว่ง โอเค น้ำลายยืดกันในรถจนผมกะสมุนกลิ่นเดียวกันแล้ว ไม่เป็นไร ยอมมมมม ขับรถตากแอร์กันอยู่ดี ๆ สมุนเบบี๋คงตื้นเต้นกับวิว ภายนอกรถที่ตั้งหน้าตั้งตาดู ล่าล้าลา...ขณะที่รถติดอยู่ สมุนเบบี๋ก็ ตดออกมา ปูดดดดดด ปูดดดดดดด ปูดดดดดดดด เริ่มหมุนไปหมุนมา ผมก็ โอ้ววววววว พระเจ้าช่วยผมด้วย อย่านะ อย่านะ อย่าปล่อยออกมาโดยเด็ดขาด วันนั้นกว่าจะถึงบ้านแถบตาย ต้องเปิดหน้าต่างรถหลอกล่อ ขับรถไป ก็ต้อง เล่นกับสมุนไปด้วยเพื่อให้สมุนเบบี๋ลืมสิ่งที่ตัวเองกำลังจะผลิตออกมา ...... เข็ดเลยครับ อีกอัน เอาสมุนหมูไปหาหมอ ....สมุนหมูชอบมากขึ้นรถเนี๊ยะ น้ำลายสมุนหมูจะเยอะกว่าสมุนเบบี๋เยอะมากกกกกกก ดูวิวิ ตื้นเต้น กันไปตามทาง สมุนก็เกิดอาการรักผมขึ้นมา จะมานั่งตักซะให้ได้ ทั้งปีน ทั้งป่ายข้ามเก้าอี้มาหาผม หากเป็นลูกหมาน่ารักก็ว่าไปอย่างแต่นี้ ตัวก็อ้วนขนาด น้ำหนักพิกัดก็เกือบ 30 โลบวกน้ำลายที่ไหลเยิ้มเป็นชาม ๆ ตบตีไปก็ทำตาห้อยย้วยแดงอีก ..วันนั้นสรุปว่า ตบตีกันตลอดทาง ชุดผมก็แหกไปหนึ่งตัวด้วยทั้งเล็บและน้ำหนักของสมุนหมู!!!!! เป็นตัวอย่างที่ผม ขออนุญาติเห็นแก่ตัว ให้สมุนทั้งสองเป็นเต่าต่อไปในบ้านผม .....นะ ดี แล้ว |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-24 10:57:25 |
ความคิดเห็นที่ 223 (708529) | |
ลูกหมาดำตาบอด | น่าเสียดายแทนสมุนทั้ง2จังนึกว่าจะได้เป็นนายแบบกับเขาบ้าง แหะ แหะ ผมเคยไปเดินเล่นในงานประกวดแบบนี้มาหลายครั้งอยู่คับเวลาไปชอบเอาเจ้าบางแก้วไปด้วยเพราะเวลาใครเห็นก็จะบอกว่า "กล้าพามาได้ไงบางแก้วดุจะตาย" แล้วเขาก็จะได้เห็นว่าบางแก้วของผมไม่ดุ (มันทำให้ผมดูเท่อย่างไรไม่รุ แหะ แหะ) |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกหมาดำตาบอด วันที่ตอบ 2006-11-25 01:58:10 |
ความคิดเห็นที่ 224 (708735) | |
asinatantra | งั้นไว้ผมจูงบางแก้วให้ แล้วลูกหมาดำตาบอดแบกหมู ให้ผมดีปะ อย่างนี้อาจจะพอไปกันรอด อิอิ เพราะสมุนทั้งสองเดินไกล ๆ ไม่ไหว หายใจไม่ทันจะช็อกตายเอาซะเฉย ๆ เคยพาไปเดินเล่นที่บ้านคุณแม่(มนุษย์)ด้วยนึกว่าจะดี จะได้ออกกำลังแต่กลับเป็นว่า เกือบตายหายใจไม่ทัน น้ำลายยืด ตาเหลือก >>>> เวรกรรม >>>>แล้วอีกอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามที่อยู่ต่อหน้าสมุนผม จะดูดีไปหมด เพราะคงไม่มีอะไรที่จะอ้วน จะยืด จะย้วย จะยาน จะบาน กว่านี้อีกแล้ววววววววว หลาย ๆ คนผ่านมาอ่านแล้วคงจะนึกว่า แล้วผมจะเลี้ยงทำไมเนี๊ยะ สมุนที่ทำอะไรไม่ได้แบบนี้ อิ อิ ก็เพราะผมชอบให้ทุกอย่างรอบตัวผมกลายเป็นเต่า นะสิครับ อิ อิ !!!! มันปกครองง่ายดีครับ ไปหละน่า....ลา ล่า ลา วันนี้วันเสาร์ต้องไป คนๆ เข้าไว้ซักกะหน่อย |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-25 10:23:26 |
ความคิดเห็นที่ 225 (709600) | |
ลูกหมาดำตาบอด | สงสัยต้องลองหารถเข็นเด็กให้สมุนของนายเสียแล้วคับอาจจะช่วยได่บ้าง |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกหมาดำตาบอด วันที่ตอบ 2006-11-26 03:06:30 |
ความคิดเห็นที่ 226 (709663) | |
ช่วยด้วย | สงสัยนายคงต้องเป็นคนแก่มักมัก แน่แน่ ถึงไม่มีแรง ขอกำลังเสริมด่วน แหะ แหะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ช่วยด้วย วันที่ตอบ 2006-11-26 08:54:05 |
ความคิดเห็นที่ 227 (710252) | |
asinatantra | ก๊ากกกกกกกกก โอ้วววว อ่านแล้ว นึกภาพตาม โอ โอ ไม่ไหวหรอกลูกหมาดำตาบอด แค่หน้าเจ้าหมูเอง กับ หุ่น เวลาไปไหนกันทีก็มีแต่คำถามว่า ตัวอะไรนะ จะแย่แล้ว ขืนเพิ่มรถเข็นเด็กเค้าไปอีก โดนขำตายเลย.... คุณช่วยด้วย ยังครับ ผมยังไม่แก่ ออกจะหล่อ ขาว สูงยาว แต่แค่เข่าไม่ดีเท่านั้นเองครับ ..... เรื่องแก่ นิห้าม เขียนครับ อ่านแล้วปวดหมอง กระเทือนใจ หัวใจจะวาย!!!! |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-26 20:41:41 |
ความคิดเห็นที่ 228 (710429) | |
ลูกหมาดำตาบอด | ผมว่าถ้าท่านลองวาดภาพอีกนิดนะคับ เป็นสมุนทั้งสองแต่ตัวเอนเด็กแบบการ์ตูนนะคับ แล้วนอนในรถเข็นเด็ก แล้วไปเข็นในงานประกวดสุนัขอะคับ ผมว่าดังแน่ๆคับ อาจจะดังกว่าโฆรณา ก๊าสNGV ก็ได้นะคับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกหมาดำตาบอด วันที่ตอบ 2006-11-27 00:10:46 |
ความคิดเห็นที่ 229 (710933) | |
ป้าแมว | เข้าท่าดีนะคะอาจารย์ แล้ว เอาผ้าผูก โพกหัวสมุนทั้งสอง เหมือนพวกนักดนตรีเพื่อชีวิตประมาณนั้น นอนในรถเข็นเด็ก ตามลูกหมาดำตาบอดบอก เท่ห์ และเก๋ไก๋ ไม่เบา ไม่เหมือนใคร ดีเหมือนกันนะคะ สุดยอด น่ารัก น่าชัง ! |
ผู้แสดงความคิดเห็น ป้าแมว วันที่ตอบ 2006-11-27 15:59:18 |
ความคิดเห็นที่ 230 (710997) | |
เฮ้อ | ไปกันใหญ่
|
ผู้แสดงความคิดเห็น เฮ้อ วันที่ตอบ 2006-11-27 16:52:54 |
ความคิดเห็นที่ 231 (711444) | |
ป้าแมว | ไม่เข้าท่าเหรอคะ ความคิดคงไม่บรรเจิด ขออภัยใน ณ ที่นี้ด้วยค่ะ แย่จัง ! |
ผู้แสดงความคิดเห็น ป้าแมว วันที่ตอบ 2006-11-27 22:14:47 |
ความคิดเห็นที่ 232 (712055) | |
asinatantra | อะ จ๊ากกกกกก.... นึกภาพตามมมม....ไม่ไหวครับ ป้าแมว ไม่ไหวเลย....ทำไมนะหรือครับ ไว้วันไหนมีโอกาสจะลากสมุนมาให้ป้าแมวดู ว่า แค่หน้าสมุนเองมันก็แย่ มากแล้ว แถมเสียงครีด ๆๆๆๆ เหมือนหมูตลอดเวลาการเคลื่อนไหว ถ้าเพิ่มรถเข็นเด็กกับผ้าโผกเข้าไปอีก โอ้ววว พระเจ้า น่าเกลียด น่ากลัวมาก ๆๆๆ ขืนให้ผมเข็นสมุนไปด้วยออฟชั่นแบบที่ว่า อย่าว่าแต่คนจะวิ่งหนีผมเลยครับ ผีก็คงวิ่งหนีผมกับสมุนเหมือนกัน....แล้วอย่างนี้สาว ๆ ที่ไหนจะมาแหล่ผม เหมือนของลูกหมาดำตาบอดละครับ.... |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-28 14:57:17 |
ความคิดเห็นที่ 233 (712169) | |
ป้าแมว | อย่างนี้ ก็ต้องรอ ให้ถึงวันฮาโลวีนสิคะเนี่ย ถ้าเผื่อเป็นไปได้ แปลงร่างสมุนอย่างที่ว่า สาว ๆ จะรุมกันตรึมมากกว่า ยิ่งไปกับลูกหมาดำตาบอดด้วยแล้ว ว้าว.........จ้าบบบบบ นะคะ อาจารย์คะ หน้าสมุนมันแย่มากเลยเหรอ มันน่าสงสารออก อยากเห็นจัง โอ้.......อย่างนี้ก็เหมือนมียันต์ที่มีชีวิต ป้องกันผี ไม่ให้มาย่ำกรายเลยทีเดียวเชียว สิคะ เห็นไม๊คะ สมุนนี่ก็มีประโยชน์เหมือนกัน ไม่ใช่เป็นเต่าอย่างเดียว หะ หะ หะ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น ป้าแมว วันที่ตอบ 2006-11-28 16:09:28 |
ความคิดเห็นที่ 234 (713076) | |
asinatantra | อุอุอุ นั้นสิทำไมผม ถึงนึกไม่ถึงนะ ฮาโลวีน นี้เองที่เหมาะกับสมุนผม ....ขอบคุณ สำหรับไอเดียครับ ป้าแมว..ปีหน้า ปีหน้า คือที่ผมบอกว่า หน้าสมุนมันเลวร้าย จริง ๆ ผมก็ไม่ได้เริ่มคิดอย่างนั้นด้วยตัวเองหรอกครับ คือ แต่ผมสรุปจากเวลามีคนอื่นที่ไม่ใช่ผม เห็น สมุนทั้งสองทีไรมันก็จะมีเสียง ว้ายยยยยตายแล้ว ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ !!! บ้าง หรือ ตายแล้วววว ตัวอะไรนะ ทำไมเป็นได้แบบนี้ !!! ผมยังไม่เคยได้ยินประโยคว่า อุ้ยน่ารักจัง หรือ อุ้ยว้ายทำไมหน้าหล่อแบบนี้ นะสิครับ....เฮ้ออออ แต่สมุนหัวใจชมพู ทั้งสองก็ห้าวหาญครับเพราะเคยกัดคนซ่อมแอร์ที่มาที่บ้านไปแล้วนะครับ....ประมาณเต่ากัดนะครับ...อุอุ |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-11-29 10:22:05 |
ความคิดเห็นที่ 235 (726774) | |
แว่น | เรียน ท่านอสินะตันตระ ขอความกรุณาท่านอสินะตันตระช่วยบอกคุณปุ๊กให้แว่นด้วยขอรับ ว่าตัวปัญหาของแว่นเริ่มอีกแล้วขอรับเหมือนเดิมเลย จนบางครั้งทำให้แว่นรู้สึกว่าทะเลาะกันแล้วต่อยกันปากคอแตกแล้วเลิกแล้วต่อกัน ยังง่ายกว่าการทะเลาะกับความรู้สึกของตัวเอง ว่าจะเอาชนะใจตัวเองด้วยการอยู่เฉย ๆ หรือจะลองกับตัวปัญหาซักตั้งนึงในเมื่อเล่นไม่เลิก โชคดีที่แว่นมีคนให้คำชี้แนะอย่างท่านอสินะตันตระและคุณปุ๊ก |
ผู้แสดงความคิดเห็น แว่น วันที่ตอบ 2006-12-08 11:57:47 |
ความคิดเห็นที่ 236 (730590) | |
asinatantra | หายหน้าหายตาไปหลายวัน....พรุ่งนี้ผมจะมาเล่าความดันทุรังสูงของโซดาหยดเดียว แบบผมให้อ่านกัน.. แหะ แหะ แต่วันนี้ผมขอลาไปป่วยต่อก่อนนะครับ....ยังไม่ไหว |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-12-11 15:45:57 |
ความคิดเห็นที่ 237 (731819) | |
asinatantra | เล่าถึงความดันทุรัง....ของโซดา 1 หยด เมื่อปีหรือสองปีก่อนเคยได้มีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดเลย กับเหล่าอาจารย์รุ่นหง่อม ๆ ในเทวาลัยตอนนั้นไปเครื่องบินกลับเครื่องบิน เพราะเจ้าบ้านออกค่าเครื่องบินให้ จึงไม่มีปัญหา...ขากลับมาถึงกรุงเทพจำได้ว่าได้ยินท่านปิติยะตันตระ ที่กลับมากับรถอาจารย์ป๊อก บ่นถึงเขาที่เป็นเส้นทางกลับจากจังหวัดเลยผ่านเข้ามาที่เพชรบูรณ์ว่าคดเหลือเกิน เวียนหัวมากกกกก.....ผมก็ยังหัวเราะขำ ว่าสม ๆๆๆ เพราะตัวเองกลับเครื่องและเกีลยดการเมารถมาก..แต่ก็หัวเรา สม คนอื่นเค้า... ด้วยความดันทุรังของตัวเองเกิดอยากเห็นสถานที่ ๆ เคยไปตอนเด็ก ๆ ที่เขาค้อเพชรบูรณ์ ก็วางโปรมแกรมทัวร์สุดฤทธิ์ หาคนช่วยขับรถได้ ก็ออกเดินทาง ลัน ลั่น ล่า ...ทางออกจากรุงเทพมันก็เลียบ ๆ ดีอยู่หรอกแต่พอล้อรถแตะเข้าเขตเพชรบรูณ์ อะ ทำไมเขาเยอะจังแถมสูงปรี๊ดดดดดด จนต้องแหงนหน้าขึ้นดู แต่ก็ยัง ลั่น ล่า อยู่แถมนึกว่าไม่ใช้ที่เราจะไปหรอก สูงขนาดนั้นก็ตายพอดีสิ....ด้วยศึกษาแผนที่มาอย่างดี ว่าเข้าถนนเลขที่ 21 เลี้ยวซ้ายไปถนนเลข 12 จะเจอโรงแรม โอเคเป็นไปตามเป้าหมาย ขึ้นเขานิดหน่อยพอป่วน ๆ ท้องแต่รับได้ โรงแรมก็ดี วิว ก็ดี ฮ่า ๆๆๆ สำเร็จสมใจ มื้อเย็นวันนั้นด้วยความซ่า สุด ฤทธิ์ ก็หม่ำอาหารเย็นพร้อมไวน์ไปซักครึ่งขวด เอิก เอิก เริ่มไม่เจียมตัว... วันรุ่งขึ้นโซดาก็ซ่าต่อ จะไปดูน้ำตกแก่งโสภา กะ น้ำตกอะไรอีกสองอย่างใกล้ ๆ กัน ทีนี้คราวนี้เพราะความที่เริ่มป่าเขาถนนมันก็ไม่มีเลขถนนให้อ่านบ่อย ๆ เหมือนทางลาบนะสิ จะด้วยงบหมด หรือผมหาไม่เจอ ปัญหาจึงเกิด เลี้ยวไปเลี้ยวมา เอออออ ถนนหมายเลข 12 หายไปไหน?? จำได้แต่ว่าจากที่ศึกษามาห้ามขับไปถนนเลขที่ 21 ที่เขียนว่าหล่มสัก หล่มเก่า เพราะทางจะคดมากกกกกก....ซึ่งก็คือทางที่ท่านปิติยะตันตระเคยไปมา 50 กิโลผ่านไปอาหารเช้าของผม คือไข่ดาวขนมปังและกาแฟกับบางส่วนของไวน์มื้อค่ำ ก็พุ่งพรวดออกจากปากออกจากจมูกผมแบบไม่ปราณี ถ้าตอนนั้นมันออกทางหูได้ มันก็คงออก แหวะ แหวะ และก็ แหวะ มาตลอดทุก ๆ 15 นาที จนผ่านเข้ากิโลเมตรที่ 80 ผมเวียนหัวมากกกก แต่เหลือบไปเห็นป้ายข้างทางว่าที่เขียนว่า " ยินดีตอนรับเข้าเขตจัวหวัดเลย " อะจ๊ากกกกกกก นี้ผมหลงมาถึงจังหวัดเลย เลยหรือแล้วนี้จะกลับโรงแรมอย่างไร ????? แงแงแงแง เพื่อนผมคนขับรถ พิมพ์ชื่อในเครื่อง GPS ที่ติดตัวไปเครื่องบอกว่า ประมาณ 60 กิโลถึงจะถึงถนนเลข 12 ผมหน้าซีด ตายแน่ ตายแน่ ๆ ผมนึกในใจกับอาการหัวหมุนติ้ว ๆ ท้องบิดไปหมด และผมก็นึกทำไงดี ทำไงดี ขณะที่รถก็ยังคงเลี้ยวคดไปคดมา ขึ้นลงอยู่บนเขา ผมนึกถึง คำสวดฉุกเฉิน ที่คุรุให้เอาไว้
|
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-12-12 13:34:52 |
ความคิดเห็นที่ 238 (731833) | |
asinatantra | ..................... ผมท่องคำสวดนั้น (เขียนไม่ได้เพราะ งก ) ผมแจ้งชื่ออสินะตันตระ นึกถึงพ่อ ขอความช่วยเหลือ ขอเปิดประตูฉุกเฉินหนีไปจากที่นั้น ณ ตรงนั้น ...5 นาทีผ่านไปกับอีกกี่เลี้ยวก็ไม่รู้ สำเร็จจจจจจ ผมง่วงขึ้นมาแบบฉุกเฉินเลย ผมรู้หละว่าอาการแบบนี้ ติดต่อสำเร็จผมหลับตาลง ปล่อยตัวเองให้ครึ่งหลับไว้ และผมก็จากไป เหลือแค่บางส่วนไว้จาก ณ จุดนั้นจนอีก 80 กิโลที่เลี้ยวบนเขาและขอบเหว ผมอาเจียนอีกเพียงครั้งเดียว....และผมก็รอดชีวิตกลับมาถึงโรมแรมมมม.... เมื่อขาผมเหยียบถึงพื้นโรงแรมได้ไม่เกิน 10 นาที เจ้าของประตูภาคพื้น ซึ่งก็คือเจ้าบ้าน ก็โทรเข้ามือถือผมกับคำถามสั้นๆ ที่ได้ใจความตามสายมาว่า " เป็นไงบ้าง " ผมบอกว่าไม่ไหวจะตายเอา ทรมารมากกกกกกก คุยไม่ไหว แต่มาถึงโรงแรมแล้ว ดีแล้ว เดี๋ยวขอพักก่อน เจ้าบ้านพูดสั้น ๆ อีกก่อนวางสายไปว่า " ดูแลตัวเองหน่อย " ฮะ ฮะ ฮะ ผมนึกสมน้ำหน้าตัวเอง หลังจากชั่วโมงนั้นผมรู้และจำได้ว่า การเปิดประตูฉุกเฉินแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น ผมเดี้ยงไปเลย 2 วันไข้ขึ้น เจ็บไปทั้งตัวเหมือนโดนตีมาทั้งตัว กินไม่ลง นอนลอย ๆ จำอะไรไม่ได้ แม้แต่วิธีขับรถ และรายละเอียดในชีวิตประจำวัน เมื่อวาน เมื่อขาได้มีโอกาสกลับมาอยู่ในรังตัวเองแล้วนั้นก็คือบ้าน แดนตันตระที่เจ้าบ้านทำไว้ให้ ผมอาบน้ำด้วยสูตรที่เจ้าบ้านสอนเอาไว้ ผมหยดน้ำมันเขียวลงไป และสวดบอกกับตัวเองว่า ปลอดกัยแล้ว กลับมาเถอะ... และวันนี้ผมก็ปกติดี ทำงานได้แล้ว จำได้หมดแล้ววววว และ นั่งขำกับพฤติกรรมป่วนกับตัวเองที่สรรไปทำมา....แถมเข้าใจแล้วว่าเวียนหัวที่ ท่านปิติยะตันตระไปเจอมาเป็นอย่างไร ขอบคุณเจ้าบ้านที่เปิดประตูให้หนีแบบผิดระเบียบ ขอบคุณคุรุที่เมตตาให้หนี ขอบคุณคนขับรถที่อุตสาห์ขับไปจอดรถไปให้ผม แหวะ แล้ว แหวะ อีก และรอดจาการตกเหวมา ++++++ เหอะ เหอะ แต่วันนี้พอหายดี ก็เริ่มซ่าอีก ว่า *()* ไปเที่ยวไหนอีกดี!!!! นิแหละน่ามนุษย์
|
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-12-12 13:55:50 |
ความคิดเห็นที่ 239 (733672) | |
asinatantra | มะลิ แปรพักร์(เขียนแบบนี้หรือป่าวอะ) วันนี้ขอผมนินทา เจ้ามะลิ สุนัขจอมป่วนประจำเทวาลัยหน่อยเถอะ ตลอดเวลาที่ทำงานด้วยกันมา อะ!! หมากับคนทำงานด้วยกัน ??? ใช่แล้วครับคุณ ๆ อ่านไม่ผิด ผมกับมะลิทำงานให้เทวาลัยเหมือนกันแต่อาจจะคนละหน้าที่กันหน่อย เมื่อก่อน ก่อนที่เจ้าบ้านจะเปิดกว้างตันตระเทวาลัยให้บุคคลภายนอกแวะเวียนมาเหมือนทุกวันเนี้ เทวาลัยก็จะมีแค่ ยาย น้องปุ๊กปิ่น และผม ทำงานกันอยู่ที่นี้ มะลิผู้ทำหน้าที่เฝ้าสถานที่และมีหน้าที่ใช้พวกผมเปิดประตูให้มะลิเข้าออกเป็นอยู่เป็นประจำ แล้ว ก็ไม่มีใครอีก....มะลิจึงค้อนข้างจะง้อ พวกผมอยู่บ้างเพื่อแลกขนม ถึงแม้ว่ามะลิออกจะเรื่องเยอะอยู่สักกะนิดดดด มะลิไม่กินไก่ทอด มะลิไม่กินไข่เจียว มะลิกินแต่หมูทอดเค็มแต่ห้ามใส่กระเทียมนะ ขนมสุนัขถุงละยี่สิบมะลิก็ไม่ชอบ มะลิจะกินถุงละสี่สิบห้า และอื่น ๆ อีกมากมาย?????? แต่....เราดูออกจะรักกันออกนะ เดี๋ยวนี้สิ เจ้ามะลิแปรพัก ไปแย้วววว จากที่ผมและน้องปุ๊กปิ่นเลิกงานมะลิก็มักจะเดินไปส่งถึงประตูบ้าน เสมอมา หรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ผมออกไปโจ๋ ไปซ่า กลับบ้านดึกดื่นขนาดไหนก็ตาม มะลิก็จะตื่นและวิ่งตามส่งถึงประตูและยืนดูจนเข้าบ้าน ผมรู้สึกว่าโอโห คุ้มค่ากับความป่วนแฮะ แต่บัดนี้เจ้ามะลิตัวป่วนมีอาจารย์ ๆ และท่าน ๆ ที่แวะมาเยี่ยมเยียนที่เทวาลัย พกหมูย่างตับย่าง มาฝากให้มากมายต่อวัน สถิติใหม่สุดเช่นเมื่อวาน เจ้ามะลิได้สหว่าปามตับย่างหมูย่างของฝากไปถึงสิบสองไม้ !!!!! ดูดิ ดูดิ เดี๋ยวนี้มะลิส่งผมแค่ประตูเทวาลัย เรียกก็ไม่มา หายหน้าหายตาไปนั่งรอหมูปิ้งซะเนียน ๆ แบบนั้น เลยเป็นที่มาของคำข้างต้นว่า มะลิแปรพัก ฮืออออ ฮือออออ ขนาดหมายังไม่อยู่กับผมเลย ฮืออออออ ฮืออออ |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-12-13 21:25:41 |
ความคิดเห็นที่ 240 (734356) | |
เงาพูดได้ | พักตร์ แปลว่า ใบหน้า พรรค แปลว่า พรรคพวกกลุ่มคน หรือ ซัมธิงค์ไลค์แท้ด ส่วนคำว่า แปรพักตร์ ควรใช้ว่า แปรพรรค หรือไม่ เราปล่อยให้เจ้าของภาษาที่รักภาษา เขาปวดหัวกันไปดีฝ่า....... |
ผู้แสดงความคิดเห็น เงาพูดได้ วันที่ตอบ 2006-12-14 13:19:44 |
ความคิดเห็นที่ 241 (734420) | |
asinatantra | งั้นเอา แปรพรรค แบบนี้ละกันเพราะมะลิแปรพวก เหอะ เหอะ ระวังเถอะจะจับเอาไม้เสียบตูดย่างซะ...... |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-12-14 13:45:56 |
ความคิดเห็นที่ 242 (737263) | |
asinatantra | ต้นอาทิตย์นี้ ผมพึ่งมาโพสเรื่องความดันทุรังสูงของตัวเองในการไปเที่ยวทริปก่อน...เหอะ เหอะ ลงท้ายไว้ว่า มนุษย์ก็งี้หละ!!! เมื่อสองวันก่อนเพราะอากาศเย็นลง ร่างกายหดลงมั่งเลยทำให้หัวใจคงจะพองโตขึ้น(เกี่ยวไม๊เนี๊ยะ) ความที่ยังเห็นธรรมชาติไม่หน่ำใจเพราะโศกนาฤกรรมเมารถครั้งที่แล้ว เมื่อความอยากที่ไม่เดือดร้อนใครเค้าคือไม่สร้างปัญหาให้คนอื่นนอกจากกระเพาะอาหารตัวเอง และกระเป๋าตังค์ตัวเอง มันยังดุกดิก ดุกดิกในหัวสมองและหัวใจ เอาอีกกกก ผมก็หาจุดไปใหม่ นั่งเปิดหนังสือท่องเที่ยวเปิดเว๊ปมาสองวัน อิอิ เจอแย้ววววว ครับผมเจอเป้าหมายในการทำทริปครั้งใหม่แล้ว เจอปุ๊บโทรไปจองโรงแรมปั๊บ อะฮ้า ว่างซะด้วยยย อุอุ เอาวันเกิดตัวเองที่กำลังจะมาถึงนิหละ เป็นเหตุผลในการอ้างกับตัวเองในการโดดงาน ยะฮู้ ไปเมารถกันใหม่ดีฟ่า!! เมื่อค่ำวาน เจอเจ้าบ้านผมเลยรีบบอกลางานล่วงหน้าเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวอีก ผมยิ้มปากว้างบอกชื่อสถานที่จุดหมายที่จะไปว่า ปาย คำตอบจากปากเจ้าบ้านกลับมา คือ " ยังไม่เจียม " ฮ่ะ ฮ่ะ ผมตอบว่า โซดาหยดเดียวอย่างผมต่อมเจียมตัว มะมีคร๊าบบบบบบบ |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-12-16 10:17:57 |
ความคิดเห็นที่ 243 (754346) | |
asinatantra | อากาศดี๊ ดี จนไม่อยากให้จากไป....แต่ทำไงได้หละ ทุกงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา+++ สิ้นปีกำลังจะมาถึงพร้อมปีใหม่ตามมาตามสากลมนุษย์..ได้ยินคนโน้นคนนี้พูดกันถึงปีนี้ที่กำลังจะผ่านว่าทำอะไรไปบ้าง เกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็มานั่งสาระตะคิดบ้างว่า ตนเองหละ ปีนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง *()* โอโห นึกไล่มาจากปีใหม่ที่แล้วว่าตนเองอยู่ไหน ทำอะไร ความจำต่าง ๆ ที่อยู่ในจิตในสมอง อืมมมม ปีนี้ 2549 ช่างผ่านอะไรมาเยอะเชียว เป็นปีที่มาถึงคำว่า วิมุติ ได้ในระดับที่ผมว่าไกลพอควรในความสามารถของมนุษย์หนึ่งฅน ได้หลุดพ้นจากพันธะนาการของมนุษย์อย่างที่ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเข้าใจมาก่อน ....2549 เป็นครึ่งปีที่เรียนทุกข์อย่างแสนสาหัสและอีกครึ่งปีที่เหลือเป็นการเข้าใจวิถีหลุดพ้น..... ทุก ๆ ปีที่เติบโตมา จนโตมาถึงป่านนี้คิดเสมอว่า ทุกปีได้เรียนรู้ศาสตร์ตันตระเพิ่ม ได้เข้าใจสุขและทุกข์ ของตนเองและมนุษย์เพิ่มทุกปี เหมือนความรู้ที่ไหลมาไม่มีวันจบ แต่ปี 2549 นี้ถือเป็นปีที่ค่อนข้างพิเศษเชียวเมื่อนึกถึง .... ปีนี้ ต้นส้มของผมออกผลให้คั้นน้ำดื่มได้ชื่นใจมากนัก...เพียงพอ และสามารถแบ่งปั่นผลส้มให้คนอื่นที่ชอบในรสชาติของผลส้มของผมได้ดื่มให้ชื่นใจ มากขึ้น มากขึ้น เพื่อรอต้นส้มของตันตริกเหล่านั้นออกดอกออกผลเป็นของตนเอง..... วางได้หยิบได้ค่อยวาง หยิบได้วางได้ค่อยหยิบ...ผมวางความเป็นมนุษย์ไปแล้วและเลือกหยิบแต่สิ่งที่อยากหยิบแล้วเท่านั้น ชีวิตใหม่ของผมกำลังดำเนินต่อไปเพื่อรอวันที่ผู้เป็นเจ้าของชีวิต อนุญาติให้กลับบ้าน... กราบขอบคุณเหนือหัวต่อคุรุทุกท่านที่อดกลั้นสั่งสอนผม ให้เป็นตันตริก ขอบคุณ 4 Kings ที่อดทนผมและประคับประคองให้ผมเดิน ขอบคุณเจ้าบ้านที่รองรับวิถีชีวิตอันป่วนประสาทของผมและเป็นกำลังใจให้เสมอ ๆ ๆ ตั้งแต่เด็กจนแก่ ขอบคุณเหล่าอาจารย์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนที่ดีให้ไม่เหงาได้ทุก ๆ วัน และให้รู้จักคำว่า เพื่อน Happy New Year ต่อทุกท่าน ตันตริกทุกคน ขอให้ทุกคนมีความสุขตามอัตภาพที่เราพึงมีได้ มีทุกข์ให้น้อยที่สุด และ ถือขนมในถาดให้ดี ๆ อย่าให้หล่นหายไประหว่างทางเวลากลับถึงบ้านจะได้มีขนมอวดคุรุ ว่า สำเร็จแล้วครับ/ค่ะ...... |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-12-27 10:42:08 |
ความคิดเห็นที่ 244 (755614) | |
แว่น | เรียนท่านอสินะตันตระ อยากเรียนถามว่าวิมุติ(ศาสตร์แห่งการหลุดพ้น) เป็นอย่างไรขอรับ (หมายถึงไม่รัก โลภ โกรธ หลง หรือเปล่าขอรับ) |
ผู้แสดงความคิดเห็น แว่น วันที่ตอบ 2006-12-28 08:44:03 |
ความคิดเห็นที่ 245 (755706) | |
asinatantra | ตอบคุณแว่น วิมุติ - การหลุดพ้น หลุดจากพันธนาการของสิ่งอื่นต่อตัวเรา แต่เราจะถือหรือจะหยิบหรือจะผูกอะไรไว้นั้นเป็นเรื่องของเราเหตุเพราะเมื่อไปถึงวิมุติแล้ว ถือหรือวางก็เหมือน ๆ กัน มันไม่มีอะไรส่งผลต่อตัวเราอีก *()* จะรัก จะโลภ จะโกธร จะหลง จะสุข จะทุกข์ มันก็ไม่ส่งผลอะไรอีก อยากมีก็มีไม่อยากมีก็ไม่มี ไม่มีลักษณะ ไม่มีสัญญา อีก.... ประมาณนั้น |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-12-28 10:11:09 |
ความคิดเห็นที่ 246 (758921) | |
asinatantra | 30 ธันวาคม 2549 ปีใหม่อีฟ...แล้วน่า ใคร ๆ ทำอะไรไปบ้างและวางแผนอะไรกันวันส่งท้ายปีพรุ่งนี้บ้าง ผมก็เองคงไปหาที่เมาของผมหละครับ ตามประสาคนโสดบ้าง ไม่โสดบ้าง แต่ปีนี้สิ่งที่ทำให้ไม่รู้สึกเหงาเลยคงเป็น เพราะเจ้าบ้านแสนใจดี จะจัดอัคนีให้ได้แวะเวียนไปทำได้ตลอดเวลาจนข้ามปีใหม่ แถมมีจัดอาหารไว้หม่ำกันอีก .... ใครที่ไม่ได้ไปต่างจังหวัด หรือไม่มีโปรแกรมอะไรพิเศษ หรือกำลังรู้สึกเหงา ๆ เพราะไม่มีคนรู้ใจข้างกาย เชิญครับ เชิญ มาเทวาลัยนั่งคุยกันไปมา รับรองว่าไม่มีเหงา หนักจะฮาซะมากกว่า..... อาหารเหล้ายาปลาปิ้ง มีให้แก้หิวววววววว แต่ช้าหมด อดไม่รู้ด้วยเพราะเราเหล่าตันตริกนะ นักกินตัวยง อิอิ ผมละคนหนึ่งละ |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2006-12-30 18:49:34 |
ความคิดเห็นที่ 247 (759888) | |
หนุงหนิง | ขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าแด่คุณอสินะตันตระและทุก ๆ ท่านที่แวะเวียนเข้ามาถาม...มาตอบ...ให้คนที่แวะเวียนเข้ามาอ่านอย่างหนุงหนิงได้ความรู้ และความสุขไปในเวลาเดียวกันค่ะ ขอให้มีความสุข สนุกสนาน ตามหนทางที่เลือกเดินนะคะ Happy New Year ค่า |
ผู้แสดงความคิดเห็น หนุงหนิง วันที่ตอบ 2006-12-31 12:34:08 |
ความคิดเห็นที่ 248 (761317) | |
asinatantra | ขอบคุณครับ *()* ขอให้คุณหนุงหนิงมีความสุข สนุกสนานเหมือนกันครับ.... ผม อะ เมื่อคืนผมหัวเราะซะกามปวดเลยครับ แถมค็อกเทลยังไหลอยู่ในเลือดไม่ยอมจาง เลยครับ เอิก เอิก+++++ |
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra วันที่ตอบ 2007-01-01 19:25:26 |
ความคิดเห็นที่ 249 (762268) | |
ป้าแม้ว | สวัสดีปีใหม่ 2550 ค่ะ ท่านเจ้าบ้าน และท่านอสินะตันตระ ก่อนอื่นใด ๆ ขอกราบขอบพระคุณท่านงาม ๆ ๆ สำหรับสิ่งที่ผ่านมา ที่ท่านเป็นแสงสว่าง ช่วยส่องนำทาง และแนะนำคำสอนดี ๆ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินชีวิต และสั่งสอนในการเป็นตันตริกค่ะ รวมทั้งความสนุกสนาน อิ่มเอม ทั้งกายและใจ ขอให้ท่านประสบความสุข สุขภาพแข็งแรง สนุกสนาน (ลัล ล่า ลา ตามแบบฉบับของท่านอสินะตันตระ) และเป็นที่เคารพรัก และเทิดทูน และเป็นที่พึ่งช่วยชี้แนะ แด่ท่านคณาจารย์น้อย ใหญ่ รวมทั้ง ป้าแม้ว คนนี้ด้วยนะคะ HAPPY NEAR YEAR 2007 |
ผู้แสดงความคิดเห็น ป้าแม้ว วันที่ตอบ 2007-01-02 14:28:12 |
ความคิดเห็นที่ 250 (762282) | |
ป้าแม้ว | ปีใหม่นี้ 2550 เปลี่ยนชื่อใหม่แล้วค่ะ จาก ป้าแมว เป็นป้าแม้ว อาจารย์มี๋...........ท่านว่าดีค่ะ มีโชค มีลาภ ขอให้มีโชคลาภ มีสิ่งที่ดี ๆ เข้ามาในชีวิต จริง ๆ ก็ say yes ! ok แล้วค่ะ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ป้าแม้ว วันที่ตอบ 2007-01-02 14:35:32 |
<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ถัดไป >> |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 272812 |