อ่านแล้วน้ำตาไหล อือ อือ คิดถึงบ้านไหมหนอ ..........

ขอบคุณค่ะ สำหรับกำลังใจของท่านอสินะตันตระ

ป้าน่ะ  ก็อยากศึกษาแนวพ้นทุกข์แบบตันตระเหมือนกัน   เพื่อจะได้รับ สิ่งที่เรียกว่า "ขนม" กลับบ้านกับเค้าด้วยค่ะ เรามาทางพุทธแบบไทย หลายรูปแบบ แต่ไม่ใช่ไสยศาสตร์  แต่เป็นการดำเนินชีวิตแบบของป้า ๆ อ่านหนังสือธรรมมะ เกี่ยวกับโลก นรก มนุษย์ และโลกเทวดา  เพื่อเป็นคติธรรมนำวิถีชีวิต ไปหาสิ่งที่ดี ๆ ใส่ตัวเอง  ไปวัดทำบุญ ไหว้พระ ฟังเทศน์   และมีเมตตา แผ่ส่วนกุศล  มันก็เป็นสิ่งที่ดี   สำหรับชีวิตเช่นกัน   แต่  การดำเนินชีวิตแบบตันตระ  มันยกระดับชีวิตขึ้นขั้นหนึ่ง เป็นทางลัด  เพื่อให้พ้นทุกข์  มีแต่สุข  HAVE FUN   ใช่ไม๊จ้ะ

ส่วนการพบกับท่านอสินะตันตระ  สงสัย>>>>>เราก็คงจะเคยเจอกัน แบบลมเพ ลมพัด เป็นแน่แท้  ไม่ได้พูดจาทักทายกัน  แต่ท่านก็เป็นผู้ที่น่ายกย่อง  เหมือนปิดทองหลังพระ แบบชาวพุทธเค้าพูดกัน ที่เดียวเชียว   บุพเพสันนิวาส  เกิดมาตั้งนาน เพิ่ง มาพบครอบครัว  หมายถึงครอบครัวตันตระหรือตันตริกนะคะ

ยังไงก็ต้องเจอกันค่ะ

ขอบคุณครับคุณป้าแมว . . . ชมผมซะ ลมพองลอยเลยครับ . .

เมื่อวานวันหยุด เลยไปดูหนังกับ วศินะตันตระ  เรื่อง Silent Hill มันสนุกมัก ๆ เลยอยากเอามาแนะนำสำหรับคนที่ชอบดูหนังสยองขวัญ ที่มีผีมีซาตาน อะไรประมาณนั้น ตอนแรกที่เห็นใบปิดหนังเรื่องนี้และตามที่มีคนบอกกันมา นึกว่าจะเกี่ยวกับ เด็กที่เป็นโรคประหลาดอยู่ในหุบเขาอะไรประมาณนั้น แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลยอะครับ  ขณะที่ดูอยู่ยังนึกไปว่าคนเขียนเนื้อเรื่องเคยอ่านการ์ตูนเรื่อง เบอร์เสิกร์หรือป่าวน่าเพราะผีในเรื่องมันโหดผิดธรรมชาติผีมากเหมือนในการ์ตูนเรื่องนั้น . . .

หลังจากนั้นก็ไปเดินซื้อของใน้นนี้กันจนกระเป๋าแบน ก้อกลับมาหม่ำข้าวที่เทวาลัยแถมได้ชิมค็อกเทลรสชาติ เจ้มจ่น(ภาษานู๋แน๊ต) ไปอีกสองแก้ว เฮ้ออออ อาหย่อย กลับบ้านไปนอนผุงกาง น้ำลายยืดจนถึงเช้า - -

เช้าตื่นมาแจ่มใส ปิ้ง ๆ พร้อมซ่าเป็นโซดาหยดเดียวต่อ แต่ดูท่าผมและวศินะตันตระคงต้องกินเกลือไปจนถึงสิ้นเดือน หุ หุ หรือไม่ก็อีกหนทางคือ เกาะเจ้าบ้านต่อไป แหะ แหะ

วันนี้ผมอยากมาบ่นเรื่อง  รัก   แต่มันแค่เป็นวิถีคิดแบบผมนะ. . .

ผมเคยสอนเด็กคนหนึ่งไป วันที่เค้าร้องไห้และทุกข์เพราะรัก  - รักหมดหรือหมดรัก -  ผมว่า . . ความรักนั้นมันมีทั้งด้านดีและไม่ดีเหมือนทุกสิ่งนั้นแหละ  แต่คนเราตั้งหวังกับมันมากเกินพอดี ผมเปรียบความรักเหมือนการกินส้มตำปูใส่ปลาร้า  อร่อยใช่ไหมใคร ๆ ก้อรู้ว่ามันแซ๊บ เผ็ดร้อน รสชาติสุดยอด แต่ข้อเสี่ยงที่เกิดขึ้นเกือบจะทุกครั้งที่กิน ก้อคือกระเพาะคุณจะโครกครากหรือตามมาด้วยการถ่ายท้องเพราะท้องเสีย  แถมกินนาน ๆ ก็กระเพาะพังอีกเพราะความเผ็ด  แต่เราๆ ท่าน ๆ ก้อยังกินกันอยู่ เพราะอะไรหละ ทั้งทั้งที่รู้ว่ากินแล้วจะท้องเสียจะทรมานจะปวดท้อง  เรารู้และเรารับได้ จริงไหม - - - ความรักก็เหมือนกัน  เรารู้ว่ารักแล้วก็ต้องเจ็บ มันมีข้อเสี่ยงมากแต่เราก็ยังเลือกที่จะรัก  แต่พอถึงเวลาที่ต้องเจ็บทำไมไม่ตั้งรับและเข้าใจว่ามันเป็นแบบนี้ . . . การตั้งหวังที่มากเกินไปว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องเหมือนเดิม เหมือนวันที่เริ่มรัก  อันนั้นคงจะมีแต่ในเทพนิยาย มันแย่แต่ความเป็นจริงมันเป็นแบบนั้น เราจะทำให้หน้าตาผิวพันธ์เราคงเดิมเหมือนวันแรกรักได้ไหมหละ  เราจะพูดด้วยว่าจาน่ารักแบบเดิม ๆ เหมือนวันที่พึ่งแรกรักได้ไหมหละ เราจะเกรงใจซึ่งกันและกันเหมือนวันที่แรกรักได้ไหมหละ และอื่น ๆ อีกมากมาย - - - แน่นอนที่สุด มันเป็นไปไม่ได้ แล้วคำว่ารักมันจะเหมือนเดิมได้อย่างไร . .จริงไหม.  . ผมเห็นคนเจ็บเพราะรักมาเยอะ. แค่อยากจะชี้ให้เห็น . . การเจ็บเพราะรักนั้นเป็นเรื่องปกติที่ต้องเกิด  เพียงแต่เราเห็นแก่ตัวมากเกินไปจนไม่เหลือ  สติ และเหตุผล  ในการเข้าใจ - - อีกข้อหนึ่งก้อคือการทึกทักว่า  ของ ๆ ฉัน  เค้าเป็นของฉันและฉันเป็นของเค้า  มันไม่ใช้แน่นอนอีกนั้นแหละในข้อนี้แม้แต่ตัวเรายังควบคุมตัวเราเองไม่ได้เลย  จริง ๆ แล้วตัวเรานั้นเป็นของๆใคร??  ถ้าตัวเราป็นของตัวเราจริงอยู่ดี ๆ มะเร็งมันมาจากไหนหละ!! ทั้งที่เราไม่ได้กินมันเข้าไปหรือจับใส่มันเข้าไปในตัว   มันไม่มีอะไรเป็นเจ้าของอะไรอย่างแท้จริงหรอก  แล้วจะนับอะไรกับมนุษย์ผู้อื่น ผู้ซึ่งมีปัจจัย สมอง หัวใจ ร่างกาย แยกจากเราจนสิ้นเชิงขนาดนั้น . . . เอาหละ วิถีคิดแบบนี้ ฟังแล้วบางคนด่าและไม่เห็นด้วยสุด ๆ แต่ถามใจตัวเองก่อนว่า รักที่มีอยู่มันก่อให้เกิดสุข หรือทุกข์มากกว่ากัน  ถ้ามีสุขก้อเก็บไว้และเสพไปโดยทำความเข้าใจว่าวันหนึ่งเค้าจะไป หากมันทุกข์อยู่ก็เปลี่ยนซะ จะถูลู่ถูกังเก็บทุกข์ไว้ทำไม . . . เฮ้อ อะนะ. . .  แล้วยังมีอีกหนทางหนึ่งนะ ที่อยากจะชี้  คือเลือกเก็บแต่ข้อดีของความรัก โดยเข้าใจข้อเสียของรักแต่เลือกจะไม่รับข้อเสียเลย .. แต่ทำไงนั้น ยังไม่บ่นต่อละกัน หากใครอ่านแนวทางที่บ่นไว้ข้างต้นเข้าใจและทำได้และอยากรู้ต่อ ลองถามมา . .

วันก่อนที่ไปดูหนัง ในหนังเรื่องที่ไปดูมีฉากหนึ่งที่เห็นป้ายปิดอะไรซักอย่าง  แต่เป็นอักษรที่เขียนว่า

" ผู้ที่เป็นปรปักษ์กับความดีจะถูกลงทัณฑ์ "

เห็นปุ๊บนึกถึงสีขาวปั๊บ.....^0^

หุ หุ มีข่าวประชาสัมพันธ์ ครับผม

น้องปุ๊ก ประชาสัมพันธุ์คนสวยของตันตระเทวาลัย  โดนคณะเพื่อนพ้องและอาจารย์ที่เทวาลัยเปลี่ยนชื่อให้เป็น  น้องปิ่น  อะคร๊าบบบบบ 

ส่วนทำไมถึงปิ่น แล้วปิ่นบวกกับอะไร  ??  เจอตัวจริงลองถามดูนะคร๊าบบบบบ  เพราะ  เหตุผลน่าสนใจ มั่ก มั่ก ^_^ มะเชื่อลองถามดู

ฮั่นแน่ มีคนมาต่อด้วยดีจัยจัง . . คุณสรุป ใ ( ชื่อแบบนี้ป่าวครับ )  ครับแนวที่ผมพูดมันเป็นของการทำความเข้าใจทั้งด้านดีและไม่ดีของรัก  ยอมรับและศึกษามัน จำสถิติไว้  และ เราจะเอาแต่ข้อดีของมันโดยเอาข้อเสียมาให้น้อยที่สุด  แต่มันขึ้นอยู่ที่ความแข็มแข็งและการยอมรับในความจริงของตัวคุณด้วย . . . ยกตัวอย่างเช่น

เคยสังเกตุไหมครับ เวลาเราเริ่มมีความรัก คือพบรักและกำลังสานรัก โดยที่ยังไม่ตกลงรักกัน  หน้าตา ผิวพัน  แรง  และการมองโลกเป็นสีชมพู  มันมาจากไหน เคยไหมครับตอนที่พบรักใหม่ ๆ  ขนาดทำงานทั้งวันเหนื่อยมาก ๆ แต่ก็ยังมีแรงที่จะนัดกันกินข้าวหรือพบกันตอนเย็น ๆ   ยอมฝ่ารถติด ยอมนอนดึกกว่าที่เคย เพื่อพบกันและแถมเช้ามายังมีแรง รู้สึกสดใส  ไปทำงานสดชื่นได้อีก  นั้นแหละครับข้อดีข้อหนึ่งของความรัก     แต่พอชินกันแล้วมีกันและกันแล้ว จะฝ่ารถติดมาเจอกัน หรือออกไปเที่ยวนอนดึก โอโหมันช่างเหนื่อยจัง พลัดไปก่อนละกัน พรุ่งนี้ต้องตื้นเช้า อะไรประมาณนั้น  นั้นคือข้อเสียของรักประการง่าย ๆ ของความรัก  . . .ยังไม่ต้องพูดถึง  เมื่อรักหมดหรือหมดรัก เชียวหละครับ

อย่างเจ้าบ้านว่า " ความรักก็เหมือนการไต่สามเหลี่ยม ไต่ขึ้นไปถึงจุดแหลมสุดแล้วอย่างไรก็ต้องตกลงมา " 

ทฤษี นี้จริงแท้แน่นอน  แต่ผมฝึกปฎิบัติดูแล้วพบว่า  การตกสามเหลี่ยมนั้นขณะที่อยู่ระยะตก  เราสามารถดึงกลับขึ้นไปได้บ้าง ถึงมากแน่นอน เพื่อไม่ให้ตกลงมาที่จุดต่ำสุด . . .คือรักหมดและหมดรัก

ลองดูครับผมชี้ให้เห็นตัวอย่างแล้วนิดหน่อย  ลองเอาไปสังเกตุดูจะเห็นรายละเอียดของทั้งสองด้านอีกมากมาย  แล้วหากคุณเลือกเก็บแต่ด้านดี มาใช้ โดยปฎิเสธที่จะรับหรือรับเอาด้านเสียมาให้น้อยที่สุด .  . ชีวิตคุณจะไม่ทุกข์ในความรักอีกต่อไป . . หุหุ

 มีเรื่องเล่ามาอีกแล้ว   ไปเป็นเพื่อนเค้าดูหมอมา  หมอดูคนนี้เค้าบอกว่า  อยู่ดี ๆ เค้ามีญาณ รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าแค่ 2 ปีมานี่เอง  ไม่มีองค์ อะไรทั้งสิ้น  แต่เค้าจะเห็นภาพต่างๆ เป็นนิมิตในฝัน    อย่างเช่น คราวน้ำท่วนสินามิ   เค้าเห็นภาพคนตายริมน้ำ ริมทะเลเต็มไปหมด รวมทั้ง เชื้อพระวงศ์ ด้วย  พูดให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อ จนเรื่องเกิดขึ้นมา เป็นต้น   รวมทั้งในปีนี้ 49 ชงกับรัชกาลที่ 9  สีเหลืองเป็นสีประจำวันของพระองค์ท่าน  แต่ในปีนี้เป็นสีที่จะทำให้ท่านเสียพระทัย  ร่างกายจะไม่แข็งแรง  ถ้าขืนประชาชนยังพร้อมใจกันใส่สีเหลือง  จะทำให้พระวรกายท่านไม่ดีขึ้นและดังที่เป็นข่าวอยู่   ฟังดูแล้วก็ใจหาย จริงละเปล่าก็ไม่รู้   ทำให้ไม่อยากใส่สีเหลืองเลย   เขียนไป เขียนมา  จะโดน .......ละเปล่าเนี่ย ^-^ ^+^  ไม่ได้ดูหมิ่นใครทั้งสิ้นนะ

ข้อสอง  เค้าบอกว่าใครที่มีบ้านอยู่ริมน้ำ  น้ำจะท่วมใหญ่  ใครอยู่ตามหุบเขา ดินก็จะทลาย  เนื่องจาก พญานาค กับ ชาละวันกำลังต่อสู้กันใต้บาดาล ให้สังเกตดูน้ำในแม่น้ำจะขุ่น ไม่ใสเหมือนแต่ก่อน  และน้ำก็จะสูงกว่าพื้นดินขึ้นมาอีกถึง 3-4เมตร ข้อนี้สิ  ทำให้คิด ๆ  ๆ เขียนไปโดนแน่  เกี่ยวรึเปล่าอ่ะ พญานาค  วุ้ยยยยยยยยยยย   กราบขอโทษด้วยค่ะ

ข้อสาม  ไม่เขียนดีกว่า แย่แน่

ข้อสี่ ในปี 51 จะมีการสูญเสีย  จบ

เขียนให้อ่าน  ลองคิดเล่น ๆ  จริงคือจริง  จริงคือไม่จริง  แอ้....

วันก่อนได้มีโอกาสเรียนประโยคใหม่ มุมมองใหม่ของ...  นามธรรม และ รูปธรรม > > >

เรารักและจัดทุกอย่างให้เป็นนามธรรมมากไป  จึ๋ย อะ จริงดิ ?? ไม่เคยมองด้านนี้ > เลยลองมานั่งนึกจัดให้หลาย ๆ อย่างของตัวผมเองให้เป็นรูปธรรมซะ ชีวิตจะได้สบายยยยยยยยย

นามธรรม  และรูปธรรม  หมายความว่า อย่างไรคะ

จัดทุกอย่างให้เป็นนามธรรม    ไม่ get  เลย   โอ้หนอเรา!

และชีวิตต่อไป เราจะเป็นยังไง  โธ่..........แป่วววว

สะหวัดดีวันจันทร์ นะครับ . . เมื่อวานไปเดิน JJ มาร้อนดีจังครับ . . แต่ก็หลังจากฝ่าความร้อนผมก็ได้เสื้อราคามาตรฐานมา 3 ตัว  สวยด้วย หุหุ ^_^

หวัดดีครับป้าแมว  . . . เอางี้ดีไหมครับ ถ้าอยากให้ขยายความ เรื่องจัดนามธรรม กับ รูปธรรม ไว้แวะมาเทวาลัยเมื่อไหร่ มาหาผมเดี๋ยวผมอธิบายให้ฟังตัวเป็น ๆ หรือหากว่ามาดึกก็ถามจากเจ้าบ้านก็ได้ครับ เผิอญมันเป็นเรื่องของตันตริกแบบ ดีฟ ดีฟ  เลยไม่สามารถเอามาเปิดเผยในเว๊ปได้เดี๋ยว จะ จึ๋ย กันไปใหญ่.... อ้ายหลุดพ้นถูกแนวทางก็ดีไป แต่ กลัวจะหลุดพ้นจากความถูกต้องของตัวเองละสิ จาไปการใหญ่ . .. 

อสัญญา คือจุดหมายของเรื่องที่เล่าไว้ครับเพื่อที่จะไม่ให้เรามีสัญญามากเกินพอดีไปในชีวิต . . แค่สัญญาที่โดนระบบมนุษย์หลอกมา ก็แย่แย้วคร๊าบบบบบบ  แต่มันลึกมากผมก็ไม่รู้ว่าฟังกันไปก็จะเข้าใจหรือป่าว  แต่เอาเป็นว่าสอนให้แน่นอนครับ

หากใครรับสภาพภายนอก  ที่ขัดกับภายในของผมแบบสุดโต้งงงงได้  ผมสอนให้ทุกคนแหละครับ ^U^

สวีดัด.......ค่ะ

ขอบพระคุณมากค่ะ  ที่ท่านอสินะตันตระยินดี ที่จะอธิบายขยายความเรื่องจัดนามธรรม กับรูปธรรม แนวของตันตริกแบบ ดีฟ ดีฟ ตัวต่อตัวเป็น ๆ

ป้านะ.....เสมือนนักเรียนชั้นต้น ๆ ยังโง่เขลา เบาปัญญา ยังไง....ก็อย่าเพิ่งรำคาญก่อนนะคะ ครั้งก่อน.....พบท่านมังคลาตันตระ ได้สละเวลาให้คำปรึกษา และอธิบายข้อสงสัยต่าง ๆ  หลายเรื่อง ให้ความกระจ่างตามความเหมาะสมหน่อยนึงไปบ้างแล้ว  วันนั้น ท่านอสินะตันตระคงไม่อยู่ เลยไม่ได้พบกัน

รับรองได้ว่า รับสภาพภายนอก  ภายในของท่านอสินะตันตระได้เสมอค่ะ  ท่านก็เป็นอาจารย์เหมือนกัน  ขืนไม่ได้สิ   อด....เลย เดี๋ยวก็ไม่ยอมสอน  

เมื่อวานใครดู  อุ้มรักตอนจบบ้างอะ  ฮือฮือ มันซึ้งมากอะครับ .ถ้าชีวิตจริงมันสวยหรูได้อย่างนั้นก็ดีอะสิครับ ฮือฮือ . .  น้ำหูร้ำตาไหล พอดี พอดี เข้านอน

อบ อบ อบ ++ อบ อบ อบ   สองสามวันนี้ได้ยินเสียงกบร้องดังทั้งเช้า-เย็น เลยทำให้นึกถึงเพลง >> กบเอยทำไมจึงร้อง กบเอยทำไมจึงร้อง - - กบมันร้องเพราะว่าฝนมันตก . . หุหุ  ใครเคยได้ยินเพลงนี้บ้าง ผมอะร้องมาแต่เด็ก แต่พอโตมามีหลังคาอยู่เป็นของตัวเอง ผมขอร้องอีกแบบว่า

กบเอยทำไมจึงร้อง กบเอยทำไมจึงร้อง - - กบมันร้องเพราะว่าไม่มีงู !! หุหุ เหตุของผลคือ  เพราะบ้านผมอยู่ติดดงพฤษชาติของคุณย่าเอนก  บรรยากาศดงงู เห็น ๆ จึงอาศัยเสียงกบ กะ คางคกวัดเอาความปลอดภัยของชีวิต ยามกลับบ้านตอนมืด  วันไหนฝนตกแล้วไม่มีกบร้องซักกะตี๊ดดด  ละก้อ ระวังไว้ มีงูหาเสียงอยู่ในพื้นที่ ชัวร์  เพราะพวกแขกมิได้รับเชิญพวกนี้ชอบเหลือเกินที่จะมาพันรั่วประตูรอกินกบที่มารอกินแมลงอีกทีอยู่หลังบ้านผม .. เฮ้อ  ชีวิตผูกพันอยู่กะ งูในลัทธิก็แย่แล้ว งูเป็น ๆ มะอ้าววววววว มันสะยึ่มกึ๋ยผมจนถึงกระดูกสันหลังเชียว

ทำม้าย ทำมาย สองอาทิตย์นี้ผมถึงได้เอ๋อ ได้ขนาดนี้นะ นอนก้อเยอะแต่ก็ง่วงปางตายอยู่ดี เจ้าอาการ ไปไม่ไกลับ หลับไม่ตื่น แต่ดันฟื้นของผมนี้ นับวันจะแก้ยากจริง ๆ ขนาดตัวเรายังไม่อยากอยู่กับตัวเราเลยแล้วครายจะมาอยู่กับผม !!!  หุหุ  อย่างงกันนะครับมันเป็นอาการบ่นของผมที่เป็นปัญหาส่วนตัว มั่ก มั่ก ที่มักจะโมโหตัวเองที่ไม่ไหนมาไหนแล้วไม่ค่อยจะกลับมา เหลือไว้ในวิญญาณบาง ๆ กับสมองนิดหน่อย ... เฮ้อ ผมละเซ็งตัวเองจริง ๆ อยากจะตัดหางปล่อยวัดนักเชียว.. แต่ เอ หรือว่าจะไปติดอาการเจ้าดำมา  เห็นสองสามอาทิตย์นี้มาสำนักงานแต่หัวบ่าย  เลยกลายเป็นผมที่ง่วงแทน!!  . . .เอ ใครมี ปรัชญา เครียด ๆ มาทกกับผมบ้าง เผื่อตัวผมเองจะกลับมา แหะ แหะ

นายครับ ผมขอถามหน่อยนะครับแบบไม่เข้าใจเรื่องเก้าอี้อะครับ แบบไม่สามารถที่จะทำเก้าอี้ของตนเองได้ครับ เนื่องจากชีวิตมีการเปลี่ยนตลอดเวลาเลยมันไม่แน่นอน แล้วเราจะทำเก็อี้ได้อย่างไรครับ ขอนายโปรดเมตตาสอนวิธีทำเก้าอี้ให้ด้วยครับ

ด้วยความภัคดียิ่ง

เก้าอี้   คำนี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรรอบข้างเป็นหลักหรอกลูกหมาดำตาบอดเอ๋ย  เพราะเก้าอี้ในที่นี้หมายถึงปรัชญาและปัจเจกของตน วิถีแก้ทุกข์ของตน

แม้ร่างกายจะต้องเป็นคนงานก่อสร้าง หรือ คนทำนาทำสวน  ทำงานทั้งวันด้วยร่างกายไม่มีเวลาทำอะไรอย่างอื่นเลย  ก็มิใช่ว่าเค้าเหล่านั้นจะไม่มีเวลาต่อเก้าอี้ที่นั่งสบายแก่ตน   เก้าอี้ที่หมายถึงอยู่ในสมองและจิต  มิสามารถหยุดหรือล่ามมันได้หรอก จริงไหม?  เพียงแต่หยุดคิดสักนิดว่า  เราทำอะไรอยู่และอะไรคือสิ่งที่ต้องทำขณะนี้ - - เจ้าบ้านว่า " สมองไม่เสียตังค์เวลาคิด และไม่ได้ยืมใครมา "จริงไหม? แม้สถานะการณ์เปลี่ยนแปลง ชีวิตเปลี่ยนแปลง แต่สมองเป็นของเราตลอด ฉะนั้นวิธีสร้างเก้าอี้ ยังคงอยู่และไม่มีใครเอาไปจากนู๋ได้หรอก . ..

ขอบคุณมากครับนาย พอจะเข้าใจได้บ้างละครับ ผมจะลองหาเก้าอี้ดู  แล้วเรื่องที่นายบอกว่าเปิด อยัยตะนะ เพื่อเอาชีวิตรอด ผมไม่เข้าใจมากๆๆๆๆเลยงับ การรับรู้ของเราได้อย่างไร ถ้าตอบในนี้ไม่ได้ ขอความกรุณานายตอบมาทางเมล์ด้วยนะงับ

ด้วยความภัคดียิ่ง

เป็นความกรุณาอย่างยิ่งครับที่นายสอนเรื่องนี้ ผมเข้าใจแล้วครับ (คงยากน่าดู) งั้นผมขอความกรุนาอีกเรื่องงับนายคือ เรื่องกสินไฟอะงับ อยากให้นายกรุณาแนะนำด้วยงับ  (เวลาเจอนายทั้งสองแล้วรู้สึกไม่กล้าถามอะงับ  สงสัยจะติดมาจากตอนเรียนหนังสือ แหะ แหะ )

ด้วยความภัคดียิ่ง

เดี๋ยววันต้น ๆ อาทิตย์จะมาตอบ โอเช่ วันนี้ขอไปเอิ๊ก ๆ เป็นโซดาหยดเดียวก่อน  หุหุ  ส่วนพรุ่งนี้เป็นวันหมดแรง และวันปวดหัว เหอะ เหอะ

^0^

กสินไฟ  เท่าที่รู้นั้นเป็นการฝึกฝนการใช่สมาธิเพื่อควบคุมพลัง โดยใช้ไฟเป็นตัวฝึก ประมาณว่า นั่งสมาธิหรือตั้งสมาธิต่อหน้ากองไฟ  แล้วจดจำไฟไว้แล้วฝึกกำหนดให้ภาพกองไฟเล็กหรือใหญ่ เพื่อเป็นการกำหนดการใช้พลัง สามารถเป็นกสินน้ำ ก้อมีประมาณนั้น ขอไม่โพสละเอียดละกันเพราะกลัวใครมาอ่านแล้วไปทำตามแล้วจะเกิดอันตราย  และอีกอย่างมันไม่ใช่แนวทางการฝึกแนวตันตระด้วย  ซึ่งจะไม่ค่อยได้ประโยชน์ต่อลูกหมาดำตาบอด   ดังจะเห็นได้ว่าการนั่งสมาธิที่ตันตระเทวาลัย นั้นจะมีเสียงต่าง ๆ เพื่อกวนสมาธิเยอะมาก เราตันตระฝึกหาความนิ่งในความวุ่นวาย ดั่งคำคุรุสอนไว้ว่า

" ทำไมใบไม้ถึงไหว "  

ในสังคมชีวิตของมนุษย์ในความเป็นจริงนั้น  มิสามารถจัดตั้งปรัมพิธีใดเพื่อหาสมาธิได้  ชีวิตจริงมิมีใครให้โอกาสแบบนั้น  เช่นโดนเจ้านายด่าเรื่องงานที่ทำผิดพลาดไว้อยู่ที่ออฟฟิศ เราไม่สามารถบอกเจ้านายว่า   " เดี๋ยวครับเจ้านายผมไม่มีสมาธิฟังขอจุดไฟตั้งปรัมพิธี จุดกองไฟเพื่อหาสมาธิก่อน "  เห็นภาพไหมว่าถ้ายึดติดการหาสมาธิในแบบ นิ่งสงบสยบเคลื่อนไหวละก้อชีวิตจริงจะลำบากมาก   ฮ่า ๆๆๆๆๆ

ก่อนอื่นผมขอขอบคุณนายมากงับที่เมตตาผมเรื่องที่นายประทานให้ในวันนี้ผม ลูกหมาดำตาบอดขอน้อมรับด้วยความยินดียิ่งงับ แหะ แหะ แล้วก็ขอบคุณนายเรื่องที่สอนด้วยงับแบบเฮียท่านบอกผมให้ลองฝึกกสินไฟอะงับ ฝึกยากมากๆเลยต้องขอคำแนะนำจากนายอะงับ แหะ แหะ  ขอบคุณนายมากงับหมดเรื่องที่จะถามแล้วงับแต่จะรอคำสอนของนายอีกนะงับ

ครับเป็นขั้นตอนหนึ่ง ที่ฝึกการบังคับพลังครับ หากยังหาจุดนั้นยังไม่เจอในการฝึกสมาธิแบบตันตระ ก็เริ่มฝึกจากกสินไฟได้ พอเจอแล้วกลับมาฝึกแบบตันตระอาจจะเห็นช่องทางได้ชัดขึ้น . .

นายงับ แล้วการฝึกบังคับพลังในการฝึกสมาธิแบบตันตระทำไงอะครับ ไม่แน่ใจว่าที่ผมฝึกมาถูกต้องหรือเปล่างับ ขอให้กรุณานี้แนะอีกครั้งนะงับ

ขอบคุณมากงับนายที่เคารพ

กสินไฟ  - - หาอุปกรณ์ตั้งกองไฟ เล็กใหญ่ตามใจชอบ  อาจจะเป็นแค่ตะเกียงก็ได้ในความหมายว่าเล็ก หรือจะเอาเตาอัคนีก็ได้ถ้าอยากได้ใหญ่  ( จะได้ไม่อันตรายต่อบ้านที่อยู่ )  นั่งสมาธิเพ่งมองที่กองไฟ จนจดจำภาพกองไฟไว้ หลับตาลงตั้งสมาธินึกถึงภาพกองไว้ที่เห็นมา จนกว่าภาพจะปรากฎในจิต   และฝึกสมาธิและจิตให้สามารถ ลดขนาดและ เพิ่มขนาด   กองไฟในภาพที่เราเห็นในจิตได้

ไม่ง่ายแต่ไม่ยากเกินความสามารถมนุษย์   แต่ฝึกแบบตันตระง่ายกว่านะสำหรับผม

วันนี้น้องปิ่น(ปุ๊ก)  ไม่สบายเลยเหลือผมอยู่คนเดียวที่สำนักงาน  แย่เลย เลยไม่มีคนให้ผมขโมยกับข้าว ตอนข้าวเที่ยงแล้ววันนี้ !!!

เมื่อวานเจอ  อ.จ.ต้น  คุณรักมั่น คุณยุ่ง กำลังพูดคุยเรื่อง 8 เดือน 8 ผมว่าน่ารักดีได้เห็นการร่วมแรงของผู้หญิง แล้วก็รู้สึกหวาน ๆ ไปอีกแบบ . .

พักนี้ผมก็มัวไปป่วนอยู่เว๊ปสมุนหมู  เฮฮากันไปตามประสาคนเลี้ยงหมู . . เลยไม่ค่อยได้มาโพสสาระพันทุกข์สุขของตนเองให้ฟัง  และบวกกับอาการไปไม่ค่อยกลับของตนเอง  ที่ไปจนเหลือแต่ร่างกายและวิณญาณเท่าเนี๊ยะ  เฮ้ออ  นั้นแหละทุกข์ของผม 

ตัวผมยังไม่ค่อยอยากจะอยู่กับตัวผมเลย . . .

แล้วแบบตันตระฝึกแบบไหนอะงับนาย  ต้องขออภัยด้วยงับผมปัญญาน้อยจึงต้องขอคำชี้แนะจากท่านบ่อยๆ ขอบคุณนายที่เมตตาตาลูกหมาตาดำๆหน้าตาดีๆมาตลอดนะงับ

ด้วยความภัคดียิ่ง

หลายเดือนมานี้ผมก็ชอบมาคุยโชว์พาว  กับน้องปุ๊กซึ่งคือน้องปิ่นสำหรับหลาย ๆ คน  เกี่ยวกับเรื่องที่ผมสอนให้สมุนหมูสามารถทำ จุ๊บจุ๊บบบบ  ได้คือหมายถึงพอผมพูดคำว่า จุ๊บจุ๊บบบบ สมุนหมูก็จะยื่นหน้าบานๆ กับริมฝีปากอวบๆที่มีน้ำลายเยิ้ม ๆ มาจุ๊บปากผม  . . อะ อะ ขอโทษผม อะ นะ ฉายานักเลี้ยงเต่า( อันนี้ต้องสืบดูว่าทำไม) สามารถสอนสมุนทำได้ขนาดนี้ผมก็ดีใจสูดดดดดดด   แต่มาวันนี้ผมอึ้งทึ้ง กิมกี่ เลยเพราะ เมื่อเช้าน้องปุ๊กบอกว่าคุณแม่(มนุษย์)ของผมสอนให้นกแก้วตัวใหญ่ที่บ้านทำจุ๊บจุ๊บบบ  ได้  คือพอสั่งมันก็ยื่นปากโค้ง ๆ สีแดงออกมากจูบไงครับ    โอ้วววววววว   คุณ ๆ ครับ นั้นนะนก นะ มันทำได้ไงอะ???  แต่อย่างว่า ณ ดงดิบพฤษชาติของคุณแม่ผม มีสัตว์เลี้ยงที่มันไม่ควรเลี้ยงหลายอย่างมาก คือคุณเธอและคุณท่านเลี้ยงทุกอย่างที่อยู่รอบตัว  เช่น

จิ้งจก - คุณเคยเห็นจิ้งจกปีนผนังมารวมกันคอยเมื่อถึงเวลากินข้าวไหมครับ จึ๋ย ..มันขะแยง สุด ๆ

ลูกออด(คางคก) - ที่รวมตัวกันกินข้าวปั้น จนดำปืดดดดดด

ลูกปลาช้อน - ที่ว่ายตามคนได้เป็นฝูง ๆ ในคราวเดียวกันเพื่อขอข้าวกิน

ปลาช้อนตัวใหญ่ - ที่ว่ายตามอยู่ในบ่อเพื่อขอข้าวกิน

และรวมถึง นก เต่า ตระพาบน้ำ กบ คางคก และอื่น ๆ ที่พอจะนึกได้ คุณเธอ ทำได้ไง ????

ตึบ ตึบ ตึบ คือเสียงมึนหัวของผม  ไม่ใช่ตีมึนตามเจ้าดำว่านะครับแต่ผมท่าจะติดหวัดจากน้องปุ๊ก(ปิ่น)มาอะดิครับ . . . ด้วยหึกเหิมว่ากินยาขับไซนัสอยู่ไม่มีทางเป็นหวัด แต่ลืมไปว่ามีเลือดเดียวกัน   มันจะติดกันง่าย  เฮ้อออออ วันศุกร์ที่ควรจะสุขของผม โดนหวัดตืบบบ อะคร๊าบบบบบบ

การนั่งสมาธิแบบตันตระนั้น  จะเห็น ๆ อยู่แล้วว่า วุ่นวายมา วุ่นวายนั้นหมายถึงจะมีเสียงต่าง ๆ และสภาพแวดล้อมเหมือนปกติที่ดำรงค์ชีวิตอยู่นั้นแหละ  แต่การนั่งนั้นเป็นการฝึกสมาธิแบบชีวิตจริง  แน่นอนมันต้องมีจุดการหาสติและสมาธิในนั้น  เอาเป็นว่าผู้ที่ถาม ลองตอบดูก่อนว่านั่งแล้วเจออะไรในนั้น หรือยังไม่เคยเจออะไรเลย  แล้วผมจะมาขยายความให้ปวดหัวเพิ่ม

ตอนนี้ขอไปตีมึน  ตามประสาคนใกล้เป็นหวัดก่อน . . เออ นะ เชื่อไหมถ้าเล่าให้เจ้าบ้านฟังว่าผมเป็นหวัด  รับรองเจ้าบ้านจะต้องบอกผมว่า   " ก็บรรจงซะสิ "   

สมาธิของผมอยู่ที่ร่างกายเพราะจะรู้สึกว่าเหมือนมีพลัง หรืออะไรซักอย่างมาทำให้มือขยับจึงตั้งสมาธิที่ร่างกายงับ  เพื่อจะได้รับรู้ถึงพลังให้ชัดขึ้น  อย่างนี้ถูกไหมงับนาย

มะช่าย   จุด มันอยู่ที่ว่าร่างกายนั้นขยับได้อย่างไรในเมื่อสมองไม่ได้สั่ง   จริงไหม อะไรที่ว่านั้นมาจากไหน และ การนั่งสมาธิแบบเป็นตันตริกนั้นจะต่างและยากกว่าการนั่งแบบเทวาลัยขึ้นมาอีกนิด คือ เราต้องควบคุมมันได้และสั่งมันได้ มิใช่ให้อะไรนั้นๆควบคุมเรา  ผมจะชี้ช่องให้เป็นตัวอย่างแล้วนึกเปรียบเทียบกันเอานะ

เช่น  เคยสั่งเกตุไหมว่า  ทำไมเวลาเราสระผมตอนเช้าร่างกายเราถึงสามารถสระผมจนเสร็จได้ทั้งที่ขั้นตอนเพียบ เทแชมพูใส่มือ เอาแชมพูใส่หัว ขยี้ไปมา ซักพักแล้วล้างออก ทั้งๆที่ขณะทำทั้งหมดนั้นสมองเราคิดอย่างอื่นอยู่ ถูกไหมเวลาเราอาบน้ำตอนเช้าเราจะคิดว่าต้องทำอะไรบ้างในวันนี้ หรือคิดถึงเรื่องราวที่ไปเคยพบเจอมา ..... อีกตัวอย่างหนึ่ง  เวลาทำงานอยู่เคยคุยกับใครไปด้วยไหม ทำไมมือเราถึงเขียนหนังสือหรือกดเครื่องคิดเลขได้ แถมถูกด้วยทั้งที่หูเราฟังเพื่อนคุยอยู่ ปากก็คุยโต้ตอบอยู่ แถมสมองวิเคราะห์เรื่องที่คุยกับเพื่อนอีกต่างหาก    ... ทำไมถึงทำได้  ลองสังเกตุดู  

นี้หละ สมาธิแบบตันตระ  ทำไมใบไม้ถึงไหว?????

ในความวุ่นวายนั้น ในความเคลื่อนไหวนั้น ทำไมถึงเป็นไปได้  ร่างกายของเราเองลองศึกษาดู  หุหุ

มะช่าย   จุด มันอยู่ที่ว่าร่างกายนั้นขยับได้อย่างไรในเมื่อสมองไม่ได้สั่ง   จริงไหม อะไรที่ว่านั้นมาจากไหน และ การนั่งสมาธิแบบเป็นตันตริกนั้นจะต่างและยากกว่าการนั่งแบบเทวาลัยขึ้นมาอีกนิด คือ เราต้องควบคุมมันได้และสั่งมันได้ มิใช่ให้อะไรนั้นๆควบคุมเรา  ผมจะชี้ช่องให้เป็นตัวอย่างแล้วนึกเปรียบเทียบกันเอานะ

เช่น  เคยสั่งเกตุไหมว่า  ทำไมเวลาเราสระผมตอนเช้าร่างกายเราถึงสามารถสระผมจนเสร็จได้ทั้งที่ขั้นตอนเพียบ เทแชมพูใส่มือ เอาแชมพูใส่หัว ขยี้ไปมา ซักพักแล้วล้างออก ทั้งๆที่ขณะทำทั้งหมดนั้นสมองเราคิดอย่างอื่นอยู่ ถูกไหมเวลาเราอาบน้ำตอนเช้าเราจะคิดว่าต้องทำอะไรบ้างในวันนี้ หรือคิดถึงเรื่องราวที่ไปเคยพบเจอมา ..... อีกตัวอย่างหนึ่ง  เวลาทำงานอยู่เคยคุยกับใครไปด้วยไหม ทำไมมือเราถึงเขียนหนังสือหรือกดเครื่องคิดเลขได้ แถมถูกด้วยทั้งที่หูเราฟังเพื่อนคุยอยู่ ปากก็คุยโต้ตอบอยู่ แถมสมองวิเคราะห์เรื่องที่คุยกับเพื่อนอีกต่างหาก    ... ทำไมถึงทำได้  ลองสังเกตุดู  

นี้หละ สมาธิแบบตันตระ  ทำไมใบไม้ถึงไหว?????

ในความวุ่นวายนั้น ในความเคลื่อนไหวนั้น ทำไมถึงเป็นไปได้  ร่างกายของเราเองลองศึกษาดู  หุหุ

เมื่อคืนกลับถึงบ้านเลยเที่ยงคืนไปอะหน่อย   ก่อนเลี้ยวรถเข้าบ้านหันไปเห็น อ.จ.ฟ   อ.จ.น  และ ใครอีกคนหละ แหะแหะจำมะด่าย   นึกไว้ว่าจะปีนรั้วหลอกผี ซะหน่อย  รีบเอารถเก็บที่จอดแล้วเดินไปปล่อยสมุนหมูกับสมุนเบบี๋ ไปปลดทุกข์ แล้วรีบวิ่งมาปีนรั้วยืนมือออกไปพร้อมทำเสียง บรู๋รรรรรร

อะ เงียบกริบ ........  ผมเลยปีนขึ้นไปอีกหน่อยเอาหัวโผล่ไปดู  อะ ไปหมดแล้วอะคร๊าบบบบบบบบบ   จ๋อย ดิ ก้มไปมองสมุนทั้งสองที่นั่งมองผมห้อยอยู่ตรงรั้วแถมทำหน้า งงงง  ดูผมตะเกียกตะกายรั้ว ว่า

บ้า  หรือ เมา!!!

นินิ  อายที่ว่า  บรื่อ++ น่ากัว อะ  อารายเหรอ   . . . .  .

ผมรู้นะว่าคราย ที่อายุ สี่ ต้น ๆๆๆๆๆๆๆ รุ่นหนุ่ม ๆ แบบนี้ หนีผมขนาดนี้ มี มะ กี่ คน ???   เดี๋ยวเฮอะผมจาตัดต้นไม้ล้มทับท่าน หุหุ  . . . . .

โอ้ยๆๆๆทานอสินะตันตระคร้าบบบตอนนี้กราป้มกัมลังเรียนวิชาcomยุที่ รร มานช่างหน้าเบื่อเเละง่วงนอนมากมายช่ายๆๆๆเมื่อวานเสาด้ายมีโอกาสด้ายเจอปู่ๆฝากหั้ยข้าพเจ้าบอกเเกท่านอสินะตันตระว่า**อย่าปล่อยหั้ยคุนป๋า*กินมากเกินปายป่วยเเร้ว....เรยเรียนมาเพื่อทราบนะที่นี้ขอรับท่าน...

ps*ท่าพาสาที่ผมเขียนอ่านยากปายหน่อยก้อขออพัยมานะที่นี้เด้อคร่า..55

โอ้ยๆๆๆๆเครียดดดดด....ขอหั้ยปาหายเร้วๆๆๆๆๆ

เลิฟยูจุ๊บๆๆๆๆเเงๆๆๆๆเส้ามากเด้อคร่า

ดีใจด้วยแก่ผู้มีชื่อใหม่   . . . . จงรักชื่อของตนและทำให้ชื่อนี้มีคุณค่าแก่การได้มา   ต่อให้ชื่อหรูสุดฟ้าหรือชื่อแย่สุดดิน  แต่หากยังหาสุขในชีวิตและหาFun ไม่ได้ ก็จะยังสอบไม่ผ่านนะครับ . . ฉะนั้นขยันเข้า

" เกิดเป็นคน คนคนเข้าไว้ " เคยได้ยินคำสอนนี้ไหม . . การคนน้ำน้ำย่อมขุ่น ขุ่นแล้วตะกอนก็ตกมานอนก้นแล้วน้ำก็ใสอีก  ใสแล้วก็คนอีก ไปๆมาๆ   มันเจออะไรในนั้นนะ  อะไรคือนัยยะ แหะ แหะ

มาโพสให้ปวดหมองเล่น   . . .