ReadyPlanet.com


สาระพันทุกข์ สุข ของอสินะตันตระ
avatar
asinatantra


เนื่องจากกระทู้สาระพันทุกข์สุข เดิมถึงวาระที่ต้องจากไป  . . จึงได้โอกาสตั้งกระทู้บ่นใหม่ คราวนี้ใส่ชื่อตัวเองไว้เลย จะได้ไม่ต้องละอายใจที่รู้สึกว่า มีทุกข์สุข อยู่กะเค้าคนเดียว  หุ หุ ใครที่แวะมาอ่านก้อเตรียมใจ ถัดจากนี้ไป ผมก้อจะบ่นของผมไปเรื่อย ^_^ - -   eternity complain > > >


ผู้ตั้งกระทู้ asinatantra โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2006-05-30 09:49:21


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 [19] 20 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 901 (3282750)
avatar
อาศิรวาทเทวาบารมี

สวัสดีปีใหม่ครับ  สุขภาพแข็งแรงครับท่าน

ผู้แสดงความคิดเห็น อาศิรวาทเทวาบารมี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-01 14:43:31


ความคิดเห็นที่ 902 (3289702)
avatar
nupopeng

สวัสดีปีใหม่ค่ะ น้อมรับคำสอนค่ะ ^_^

ผู้แสดงความคิดเห็น nupopeng ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-08 18:09:35


ความคิดเห็นที่ 903 (3289724)
avatar
ขอ เชื่อ รับ

เปนน้องใหม่ของเวบ แต่ไปตันตระได้ประมาน 7 เดือนแร้วค่ะ ขอฝากตัวฝากใจด้วยความศรัทธาค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ขอ เชื่อ รับ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-08 20:57:32


ความคิดเห็นที่ 904 (3289726)
avatar
ขอ เชื่อ รับ

ตอนนี้ทุกข์ใจเรื่องความรักอยู่ค่ะ หนูเชื่อว่า ความศรัทธา ความตั่งมั่น จะทำให้หนูได้สมหวังค่ะ ตอนนี้หนูมีแอบคิดถึงเค้าบ้าง แต่ความคิดถึงนั้น มันไม่เท่าการคิดถึงตัวเองค่ะ หนูน้อมรับฟังคำสอน คำแนะนำจากอาจารย์ และหมั่นทำสมาธิตลอดค่ะ 

ศรัทธาจากใจจริงค่ะ

โอม นมัช ศิวาย

ผู้แสดงความคิดเห็น ขอ เชื่อ รับ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-08 21:09:44


ความคิดเห็นที่ 905 (3295215)
avatar
w-h-y

สวัสดีคะ อาจารย์ ทุกท่าน

สมัครสมาชิกเว็บ(รอนานมั๊กมาก)แต่ระหว่างรอ ก็อุตส่าห์ดั้นด้น นั่งรถตู้จากพระพุทธบาท เพื่อเข้าเทวาลัย บ่อยมั๊กมาก (จนอาจาย์ท่านเบื่อหน้าหรือยังไม่ทราบ) แต่ทุกครั้งที่ได้เข้าเทวาลัย ก็รู้สึกเกรงใจเช่นกัน เพราะอาจารย์และองค์เทพท่านเมตตาแก่ครอบครัวของข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก ความทุกข์ที่มี คือ ความอ่อนแอในจิตใจ ความสงสารผู้อื่นจนลืมรักตัวเอง แต่ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นค่อยๆหายไปจากจิตใจ

ปัจจุบัน สามี ก็ได้ติดตาม ภรรยา เข้าเทวาลัยแล้ว (ไม่จำเป็นต้องหว่านล้อมเค้าคงเห็นเรามีความสุขและเข้มแข็งขึ้น) เค้าก็มีความปราถนาที่จะพ้นทุกข์ ข้าพเจ้าเลยบอกให้ลางาน(โดนไล่ออกช่างเถอะ) แต่ถ้าโดนไล่จริง ต้องร้องไห้น้ำท่วมแน่เลย (อิ)

สุดท้ายก็ได้นำลูกสาวคนโต สี่ขวบ มาสัมผัส กับบรรยากาศในเทวาลัย และบอกให้ลูกรับรู้ว่า ถ้าไม่มี่อาจาย์และองค์เทพ ครอบครัวเราต้องลำบากและอาจจะไม่มีข้าวกินก็ได้ หรือแตกแยก จากกันไป

เหลือแต่ลูกชายคนเล็กสามขวบนิดๆ กำลังจะพาไปเทวาลัยในเร็วๆวันนี้คะ กลัวแต่ว่าจะไปป่วนให้อาจารย์ปวดหัว เพราะเค้าช่างซนเหลือเกิน

โดยเฉพาะเห็นคนสวยๆไม่ได้เลย

ผู้แสดงความคิดเห็น w-h-y (w-h-y-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-15 23:25:34


ความคิดเห็นที่ 906 (3295251)
avatar
asinatantra

กว่ามันจะดี 5 5 5

เป็นประโยคน่ารักๆ ที่ได้ยินจากเทวราจารย์คนหนึ่ง .. ด้วยมีอาสาสมัครในหน่วยสวดที่ปรัมเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน  หลังจากเริ่มหน้าที่อันแสนทรหดเพราะเหนื่อยยากเอาเรื่องจากการต้องยืนและสวดเป็นวัน ๆ ซึ่งผมละอึ้งและศรัทรากับความเพียรของเด็ก ๆ ด้วยใจจริง เอาละกลับมาก่อนที่จะเลยไปไกล  ผมเดินผ่านเจออาจารย์น้อยคนนี้พอดีตอนช่วงเดินกลับมาเติมน้ำเปล่าใส่ขวด  ผมก็เลยเอ่ยทักว่า " เป็นไงบ้างเหนื่อยมั้ย ไหวมั้ย " อาจารย์ตอบกลับมาว่า " ไหวคะ "  " แต่รองเท้ามันไม่ค่อยยอมดีด้วยเลย "  ผมก็ว่า " อืม จริงสินะ ถ้าต้องยืนนานขนาดนั้น ไม่ได้รองเท้าสบายๆ ดี ๆ ใส่ละก็ ลำบากเชียว " อาจารย์น้อยตอบกลับมาว่า " แม่ไปหาซื้อมาให้แล้วคู่นี้ แม่บอกว่าเป็นรองเท้าดี " ผมก็ก้มลงมองร้องเท้าคู่นั้นแล้วก็เงยหน้ากลับมาถามอาจารย์น้อยว่า " แล้วเป็นไง มันดีมั้ย "  อาจาย์น้อยตอบกลับมาว่า " ดีคะ ก็ดีคะ แต่กว่าจะดี เล่นเอาแย่ "  5 5 5 เออ จริงนะ กว่าจะดี เล่นเอาแย่ ผมก็ขำ ออกมาดังๆ ชอบใจกับคำตอบที่ไผ่ก่อใหญ่อย่างผมชักนำในหัวไปเปรียบเทียบแล้วกับชีวิต  หลังจากนั้นผมก็อวยพรให้อาจารย์น้อยให้เข้มแข็ง แข็งแรงกับภาระกิจทรหดกับปรัมต่อไป  และความสุขเล็ก ๆ กับคำตอบน่ารัก ๆ ก็เข้ามาในความรู้สึกผม นะ

ก็จริงนะ " กว่าจะดี เล่นเอาแย่ "   หลาย ๆ อย่างมันเป็นแบบนั้นเอาจริงๆ ซะด้วยสิ   มันเป็นหนทางที่จะดีนั้นแหละ แต่แหมม กว่าจะได้ผลลัพท์ออกมาเป็นผลส้มให้กินชื่นใจก็เล่นเอาหน้าซีดเหงือกแห้งไปเหมือนกัน หรือ หลาย ๆ คนอาจจะถอดใจไม่พยายามดีไปซะตั้งแต่ยังไม่ครึ่งทาง   ดั่งเช่นทุกข์ ของหลาย ๆ ท่านที่กำลังเผชิญอยู่  หากตั้งสติ และ ตามมาด้วยปัญญา เพื่อนำมาถึง ทางออกที่ถูกต้อง(ไม่ใช่ถูกใจ) แล้วก็ยังมีเงื่อนไขอีกอันหนึ่งซึ่งมักจะเป็นทางตันของมนุษย์ที่ทำให้ประสบความล้มเหลวในการก่อสุขอย่างถาวรก็คือคำสั้นๆ ว่า  " เวลา "    ด้วยกรรมที่เป็นผลของการกระทำของเราเองนั้นที่สะสมกระทำมาเป็นเวลา เดือน ๆ ปี ๆ ที่เราอยากจะแก้ไขมันก็ย่อมต้องอาศัยเวลาในการแก้ปมนั้นออกเช่นเดียวกัน  ยาถูก หนทางถูก ก็เหลือเจ้าเวลานิหละที่เป็นด่านยากอีกด่าน  อย่างกรณีคนที่ทุกข์ในรัก อย่างไรซะบั้นปลายของความเพียรก็จะแก้ปมออกและคลายทุกข์ออกได้แน่นอน  แต่หนทางของการรอที่เราเองก็ต้องชดใช้สิ่งที่เรากระทำไปนิสิ มักจะก่อให้ทุกข์ทรมานใจยิ่งนัก จะยอมแพ้ หรือไม่ก็อยู่ที่ตรงนี้ซะส่วนใหญ่   ผมเลยขอยกประโยคเด็ดที่ผมได้เรียนมาและนำมาใช้จนทุกวันนี้ว่า

"เสียใจทุกข์ใจ อกหัก เสียของรัก แน่นอนทุกข์ทรมานใจ ... แล้ว อีกอาทิตย์จะหายมั้ย หากไม่หาย  แล้วอีกเดือนหละจะหายมั้ย แล้วอีกปีหละจะหายมั้ย งั้นอีกสามปีห้าปีละจะหายมั้ย  ห้าปีหายแน่นอน หรืออาจจะมีแฟนใหม่ไปแล้ว แล้วจะมานั่งทุกข์ใจทำไมอีกหละในเมื่ออย่างไรมันก็จะหาย หายซะเลยได้มั้ยเล่า? "  ......  เออ จริง แฮะ!  ผมได้เรียนดั่งว่า ก็เลยถึงบางอ้อ แล้วตูจะนั่งบ้าขาดทุนไปทำไมเพราะอย่างไรก็จะหาย  ก็หายซะเลยละกัน   ชีวิตและหนทางเป็นของเรา เราไม่เลือกสุขเข้ามาแทนทุกข์ ใครหละจะใส่เข้ามาให้เราได้

เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ ที่ยกมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพ  ว่า " กว่าจะดี เล่นเอาแย่ "  นั้นก็คงจะจริงเอาจริงแท้ แต่กลับรูปธรรมอย่างเช่นรองเท้า  มันจำเป็นต้องอาศัยเวลาเข้ามาเป็นปัจจัยหลักเอาจริงเอาจัง  แต่กับความทุกข์ซึ่งเป็นนามธรรมนั้น เอาคำ ๆ เดียวกันว่า เวลา  มาเป็นเทคนิคในการข้ามไปซะเลยได้ จริงมั้ย ?

 

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-16 10:36:49


ความคิดเห็นที่ 907 (3295260)
avatar
~Than
image

"อยาก" ดีแล้ว..ดีเลย .. เป็นนิรันดร์  ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายในทุกข์อีก .. ทำฉันใดดี

ถ้ายัง "อยาก" มันก็ "ยาก"  .. แล้วจะทำฉันใด

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ~Than ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-16 11:32:17


ความคิดเห็นที่ 908 (3295355)
avatar
w-h-y

*เวลาเราสร้างกรรม เราใช้เวลาไม่นาน แต่เวลาแก้กรรมที่เราก่อขึ้นมา มันช่างเป็นช่วงระยะเวลาที่ยาวนานมาก แต่ก็ยินดีที่จะชดใช้ และแก้ไข สิ่งที่เราได้กระทำผิดพลาดไป ทั้งที่ตั้งใจก่อและไม่ตั้งใจก่อมันขึ้นมา*

การเดินทางจากพระพุทธบาท เข้าเทวาลัยแต่ละครั้ง จะต้องฟันฝ่าอุปสรรค นานับประการ ไหนจะค่ารถ(บางครั้งมีตังค์แต่สามร้อยบาท)ก็อุตส่าห์ดั้นด้นมา แต่แล้วไม่มีเจตนาจะรบกวนทางเทวาลัย ในการประกอบพิธีที่ปรัม พิธีบางอย่างต้องบูชาของเพื่อมาประกอบพิธี อาจารย์ที่ดูแลครอบครัวของเรา ท่านเมตตาอนุเคราะห์ปัจจัยในการทำพิธี โดยเรามาทราบตอนหลังว่าท่านอนุเคราะห์ ทำให้เรารู้สึกละอาย ที่หาปัญหามาให้ท่านแก้และยังสร้างภาระให้กับทางเทวาลัยอีก

ทำให้เราเดินทางมาเทวาลัยไม่บ่อยเหมือนในตอนแรกๆ ไม่ใช่เพราะเวลาคะ แต่เป็นเพราะปัจจัย และก็ความเกรงใจ

อยากจะบอกทุกคนที่กำลังมีความทุกข์และต้องการที่พักพิงทางใจ ที่กำลังลังเลใจ ว่าที่แห่งนี้ปลอดภัยหรือไม่

**ขอยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจ จากการที่ได้เข้ามาสัมผัสด้วยหัวใจและเชื่อมั่นในตัวองค์เทพและอาจารย์ทุกท่าน ตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวข้ามประตูรั้วเทวาลัย รู้สึกปลอดภัย สบายใจ และหมดข้อกังขา กับสิ่งที่ได้ยินมา ที่นี้คือ บ้านหลังที่สองที่ให้ความอบอุ่น**

ที่แน่ๆ วันอังคารนี้(18/01/54)จะเข้าไปนั่งสมาธิตั้งแต่บ่ายจนเที่ยงคืนเลย แล้วเจอกันนะคะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และอาจารย์ที่เคารพทุกท่าน

**อาจารย์ทุกท่านไมว่าจะท่านไหน ดิฉันเชื่อว่าทุกท่านปราถนาดีต่อเราด้วยกันหมดทุกท่าน และท่านก็เป็นศิษย์จากคุรุท่านเดียวกัน เพราะฉะนั้น อย่ากังวลใจไปเลยคะ มีอยู่หนึ่งวันหนีออกจากบ้านมาเพราะมีปัญหากับที่บ้าน หนีออกจากสระบุรีมา มีเงินติดตัวมา พันกว่าบาท นึกในใจคืนนี้จะนั่งสมาธิถึงเที่ยงคืน แล้วไปเปิดโรงแรมนอน พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน  แล้วก็มาที่เทวาลัย ก่อนจะมาพบอาจารย์ คิดจะทำบางสิ่งที่ไม่ดี ผิดต่อครอบครัว แต่เมื่อพบอาจารย์ที่เราปรึกษาอยู่ประจำ และถ้าไม่ได้คำพูดหนึ่งของอาจารย์เราคงไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้างในคืนนั้น อาจารย์ท่านบอกว่า "หากมีทุกข์หรือปัญหาอะไรก็ให้เข้ามาที่นี้ดีกว่าไปที่อื่น หรือหาทางออกวิธีอื่น อาจจะเกิดอันตรายได้ แต่ถ้ามาที่นี่มานั่งร้องไห้ขี้มูกโป่ง ก็ไม่มีใครว่า พร้อมเมื่อไรก็มาเล่าให้ฟัง" และอาจารย์ก็สอนเรา โดยใช้คำพูดเป็น "นัย" ให้เราคิดได้ด้วยตัวเราเองเกี่ยวกับปัญหาที่เกิด ให้เราใช้ สติ สมาธิ แล้วปัญญาก็จะตามมา ที่สำคัญทีสุด คืนนั้นเราปลอดภัยจากอันตราย และเราเลือกวิถีทางในการแก้ปัญหาได้ ก็เพราะที่เทวาลัยแห่งนี้ ทำให้ครอบครัวของเราเข้าใจกันและรักกันมากขึ้น

ผู้แสดงความคิดเห็น w-h-y (w-h-y-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-16 23:04:31


ความคิดเห็นที่ 909 (3295528)
avatar
ธีรนายะตันตระ

สาธุ...

โมทนากับคุณ w-h-y ที่ได้ค้นพบหนทางของตน

เหมือนกับที่พวกเราค้นพบ และมอบดวงใจให้กับให้กับครูบาอาจารย์

ที่นี่เป็นทั้งบ้าน เป็นทั้งที่หลบภัย

เท่าที่ผมอยู่ในบ้านหลังนี้มากว่าสามปี

บ้านหลังนี้ก็ใหญ่ขึ้นทุกทีๆ ครับ ^___^

ผู้แสดงความคิดเห็น ธีรนายะตันตระ (oatsclub-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-17 10:56:40


ความคิดเห็นที่ 910 (3295591)
avatar
อาศิรวาทเทวาบารมี

กว่าจะดีเล่นเอาแย่++  เห็นภาพเก่าๆๆชัดแจ้งเลย  ทั้งน้ำตา ทั้งท้อถอย แต่เชื่อว่าจะดี เลยสู้ไม่เคยถอย ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาศิรวาทเทวาบารมี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-17 15:02:57


ความคิดเห็นที่ 911 (3295679)
avatar
w-h-y

สวัสดีคะ อาจาย์ทุกท่าน และเพื่อน พี่ น้อง ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพทุกท่าน

ในแต่ละวันของชีวิตที่มีปัญหามากมาย หนูจะใช้หลักตามที่อาจาย์สอน พร้อมกับใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ช้าๆ หาสาเหตุของปัญหาที่เกิด และถามตัวเองว่า ถ้าเราไม่ทำสิ่งนี้ ปัญหานั้นมี่เปอร์เซนต์ที่จะไม่เกิดขึ้นเท่าไร และสรุปผลออกมา ส่วนปัญหาที่เกิดแล้ว ถ้ามันฉุกเฉินมาก หนูจะขอพรจากองค์เทพให้ท่านเมตตาช่วยเหลือ เพราะหนูช่วยเหลือตัวเองแล้วแต่ไม่รอด คงต้องพึ่งบารมีท่าน แต่ก่อนอื่นเราก็ต้องช่วยตัวเองก่อน ตาที่อาจารย์ท่านแนะนำ

เรื่องที่จะเล่าวันนี้--วันนี้มีเรื่องอัศจรรย์ใจเกิดขึ้นกับตัวเองอีกแล้ว ซึ่งเกิดขึ้นได้ทุกวันตั้งแต่เข้าเทวาลัย มีเงินโอนเข้าบัญชีทุกสัปดาห์ ตอนนี้เปลี่ยนสมุดบัญชีเล่มใหม่แล้ว ทำไมถึงเห็นผลได้เร็วแบบทันตาเห็น หนูยังงงอยู่บ้าง นับวันจะมีคนที่เมตตา คอยสนับสนุน ช่วยเหลือ ในความทุกข์ของเรา โดยไม่หวั้งสิ่งใดตอบแทน และไม่น่าเชื่อที่เราได้รับสิ่งเหล่านั้นจากคนที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน และทุกครั้งที่ได้รับการช่วยเหลือในการแก้ปั้ญหา (จะขอพรจากองค์เทพที่บ้านทุกครั้งในตอนเช้า และก่อนนอนก็จะนั่งสมาธิร้อยลมหายใจ พร้อมกับจุดน้ำหอมบาสัค ระหว่างทำสมาธิ เพราะหลังจากที่ปัญหาแก้ได้เราอยากจะเข้าไปนมัสการองค์เทพและอยากจะขอบคุณอาจารย์ทุกครั้ง แต่ด้วยภาระกิจความเป็นแม่ ต้องรีบกลับบ้าน เพราะเทวาลั้ยเปิด14.00น และรถโรงเรียนมาส่งลูกที่บ้าน(พระพุทธบาท)16.00น ทำให้ในบางครั้งพลาดโอกาสที่จะเข้าไปทำสมาธิและมีบางครั้งที่เข้าไปทำสมาธิได้ไม่นานก็ต้องลากลับ เพราะเหตุผลดังกล่าว

(ขอบ่น)อยากจะเข้าเทวาลัยทุกวัน ถ้าบริษัทรถตู้ลดราคาค่ารถให้ (อยากจะขอพระองค์เทพให้เมตตาดลใจบริษัทรถตู้ให้ลดราคาให้หนูหน่อย) หนูจะได้เข้าทำสมาธิทุกวัน (จะผิดไหมถ้าหนูจะขอพระเรื่องนี้ จะทำให้บริษัทรถตู้เจ๋งไหมคะ)

ถึงแม้ปัจจุบันจะเข้าเทวาลัยได้หนึ่งเดือนโดยประมาณ(ความจำเริ่มสั้นตามอายุ) ชีวิตดีขึ้นทุกวัน ปัญหาลดลง สติมีมากขึ้น ก็ยังคงรู้สึกอยากจะเข้าเทวาลัยทุกวัน ไม่ทราบด้วยเหตุผลอันใดที่มีอยู่ภายในใจ แต่ขอเข้าไปนั่งในห้องสมาธิก็เพียงพอ

ทุกวันนี้หมั่นทำตามที่อาจาย์สอน ทำที่บ้านเป็นประจำ

- หลีกเลี่ยงความโกรธ

-แต่งกายสุภาพ มีกลิ่นหอมติดตัวตลอด

-ช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อเค้าร้องขอ แต่ช่วยได้เท่าที่จะทำได้

-ทำบุญเมื่อมีโอกาส และทำตามอัตภาพของตนเอง โดยมิให้ตนเองเดือดร้อน

-และหันมารักตัวเองให้มาก ด้วยการหยุดช่วยชาวบ้าน(โดยที่เค้าไม่ด้ร้องขอ)หยุดเป็นมูลนิธิ

-แต่ทำความดีผ่านการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการให้ช่วย หรือถ่ายทอดความรู้ หรือสิ่งอื่นที่ทำให้ผู้อื่นมีความสุขตามสมควร

-และกำลังฝึกทานมังสวิรัติเดือนละสี่ครั้ง

-ฝึกหลีกเลี่ยงการปะทะ การถกเถียง การแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น ให้เป็นนิสัย (มีแต่นิสัยชอบเถียงที่เป็นอยู่)

-ที่สำคัญถีงแม้จะไม่มี่ปัญหาเกิดขึ้น ก็จะนมัสการองค์เทพอยู่ตลอดเวลา และคิดถึงอาจาย์ทุกท่านอยู่เสมอ แม้ว่าเราสบายดี

==เรื่องเล่าของวันนี้จบแบบมีความสุขผ่านไปอีกหนึ่งวันกับปัญหาที่เราต้องค่อยๆใช้สติและปัญญา พร้อมกับการทำความดี และทำสมาธิ===

สิ่งที่ปราถนามากที่สุด คือ การมีปัญญาที่ดี สามารถ คิด แก้ปัญหา อย่างมีกระบวนการ และใช้หลักอหิงสาในการแก้ปัญหา และ ใจเย็น

แต่ยังไม่อยากนิพพาน เพราะยังอยากมีเงินให้ลูกได้เรียน และมีข้าวกิน และไม่มีหนี้ ที่ไม่ได้ก่อ

ผู้แสดงความคิดเห็น w-h-y (w-h-y-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-18 02:32:39


ความคิดเห็นที่ 912 (3296041)
avatar
w-h-y

วันนี้ ขอ "สารภาพบาป" ไม่แน่ใจ ว่าใช่หรือไม่คะ

อาจารย์ เคยสอนเราว่า ให้ "รักตัวเอง และดูแลตัวเองให้ดีก่อน แล้วสิ่งอื่นๆ ก็จะดีตามมา"

เราแอบนอกคำสั่งสอนของอาจารย์คะ โดยการที่อาสาเพื่อน(สนิทกันประมาณ60%) เค้าตั้งครรภ์ได้สองเดือน เค้าบอกเราว่าจะไป

ทำพิธีแก้ชงประมาณต้นเดือนกุมภา ซึ่งมันเข้าปีใหม่จีนแล้ว แล้วพระทางวัดก็บอกว่าถ้าแก้ชงต้องทำก่อนวันตรุษจีนจึงจะดี

เราก็เป็นห่วงเพื่อนมากมาย ห่วง แบบ เหมือนเพื่อนรัก แต่ไม่รุ้เค้ารุ้สึกอย่างนั้นกับเราหรือป่าว แต่เราไม่เคยคาดหวังอะไรจากเค้า

และปีนี้เค้าเป็นปีชง(ความเชื่อชาวจีน) เราก็บอกว่า เดียวไปทำพิธีแก้ชงให้ (ทางวัดบอกทำแทนได้) เราก็เดินทางจากสระบุรีมาวัดแถวเยาวราช คนแน่นมากวันนั้น และเราก็นอนดึกมาแล้วสองคืน นั่งรถเข้ากรุงเทพเพื่อมาทำงานกลับถึงสระบุรีเที่ยงคืน สองวันแล้ว

ด้วยความรักเพื่อน (ไม่รู้ว่าเค้ารักเราไหม)แต่เรารักเค้าในฐานะเพื่อนมนุษย์และเพื่อน(รุ่นน้องที่ทำงานสามี) เค้ามีน้ำใจมาเยี่ยมลูกเราตอนลูกเราคลอด เราก็เลยอยากช่วยเหลือเค้า และไม่อยากให้คนท้องเดินทาง กลัวจะแท้ง

สรุปว่า...วันนั้น เราทำพิธีแก้ชงแทนเพื่อนและสามีเค้า และเดินทางจากที่วัดเยาวราชไปซื้อชุดคลุมท้องให้เค้าต่อ(อันนี้เค้าถามเราว่าไปแถวนั้นไหม จริงๆเราก็ไม่มีธุระที่นั้นแต่ไม่ปฏิเสธ)ไปถึงเกือบเย็นคะ ร้านกำลังจะปิดกันฝั่งแพลตตินั่ม เรารีบวิ่งหาร้านชุดคลุมท้องจาละหวั่น

แทบเป็นลมด้วยความอดนอนสองคืนและเป็นไทยรอยด์เป็นพิษด้วย วิ่งลงบีทีเอสและเอ็มอาร์ที และมอไซด์รับจ้าง แถมแบกของหนักสองถุง

งานเข้า(ปวดบ่า ปวดแขน) แต่ก็ดีใจและมีความสุข ที่เห็นคนอื่นมีความสุข กลับถึงบ้านน็อค สลบ ให้สามีลางานครึ่งวัน ไข้ขึ้น

คำถาม ?

1. หนูกำลังละเมิดกรรมของคนอื่นหรือไหมคะ

2.หนูเข้าไปยุ่งกับชะตากรรมเค้าหรือป่าว แต่ทางวัดจีนดังกล่าวเค้าให้คนอื่นทำพิธีแก้ชงให้กันได้  หนุก็เลยคิดว่าไม่เป็นไร

รบกวนอาจารย์ชี้ทางให้ด้วยคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น w-h-y (w-h-y-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-19 21:48:16


ความคิดเห็นที่ 913 (3296084)
avatar
เจ้าบ้าน

จิตที่คิดดี ย่อมเป็นกุศล จิตคิดรักเมตตา ย่อมใสสะอาดบริสุทธิ์ แต่ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิดว่ากันไปตาม กรรม ตามที่ถามมา ในข้อ แรกว่า ละเมิดกรรม หรือไม่ คงต้องถามว่า เขาได้ร้องขอให้ไปกระทำการแทนหรือไม่ในเรื่องการประกอบพิธีแก้ชง หน้าองค์เทพไท้ส่วย ที่วัดเล่งเน่ยยี่ ถ้าเขาร้องขอ และ ตัวเรา เองทำโดยไม่หวังสิ่งใดเลยแม้สักน้อย ก็ไม่ละเมิดกรรม ครับ แต่ถ้าเขาไม่ได้ร้องขอ อันนี้คำตอบก็ชัดเจนครับ ส่วนข้อ 2 ถือว่าเข้าไปก้าวก่ายครับ แต่ถ้าทั้งสองข้อทำไปด้วยจิตเมตตา อันบริสุทธิ์ จริงๆแล้วก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากนัก ถึงมีข้อเสียอยู่บ้างแต่ก็มีข้อดี อยู่ด้วยซึ่งเป็นธรรมดาครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าบ้าน (59-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-20 10:30:10


ความคิดเห็นที่ 914 (3296161)
avatar
why???

ตอบอาจารย์เจ้าบ้านคะ

1.เค้าไม่ได้ร้องขอ ในครั้งแรกหนูเล่าให้เค้าฟัง ว่าสถานที่ที่หนูไปปฏิบัติสมาธิและเป็นที่พึ่งทางใจคือ ตันตระเทวาลัย และพอดีปีนี้ปีชงของหนุคือปีมะเมีย (ปีชงเป็นความเชื่อทางจีน)หนุก็เลยไปที่วัดเล่งเน่ยยี่ ไปทำพิธีแก้ชง ทั้งที่ไม่เคยทำ ก็มีงงๆอยุ่แต่ก็ เชื่อและศรัทธาเฉกเช่นเดียวกับที่ตันตระเทวาลัย เพราะทางบ้านหนุมีเชื้อสายจีนด้วยคะ พอเล่าให้เพื่อนฟังจบ เพื่อนเกิดปีเดียวกับหนู เค้าก็ตอบว่าเดียวจะไปทำอีกสองอาทิตย์ สรุปคำตอบของข้อ 1. เค้าไม่ได้ขอร้องให้หนูไปทำให้ แต่หนูเอ่ยปากว่าหนุจะไปทำให้คุณพ่อกับน้องชาย (พ่อกับน้องก็ไม่ได้ร้องขอเช่นกัน เพราะเค้าอยุ่ต่างจังหวัด) กลายเป็นว่า ทั้งสามคนเค้าไม่ได้ร้องขอ หนุเอ่ยปากก่อน เค้าจึงบอกว่าแล้วแต่เราสะดวก เราก็ไม่สะดวกหรอกคะแต่ด้วยความรัก เรายินดีที่จะไปทำให้ ไม่ได้หวังอะไรจากเค้า คิดแค่ ไม่อยากให้เค้าต้องเหนื่อยคนกำลังท้องและอันตราย และอยากให้พ่อกับน้องสบายใจด้วย

2.ยอมรับคะว่าเข้าไปก้าวก่าย และพอเข้าไปก้าวก่าย มันไม่จบ วันนี้งานเลยเข้า เพื่อนบอกว่าชุดคลุมท้อง 9ชุด ถูกใจ 5 ชุด (งานเข้าเลยต้องไปประตูน้ำไปเปลี่ยนให้) นั่งรถจากสระบุรีมาประตูน้ำ แต่เค้าไม่ให้เปลี่ยน เราต้องเสียตังค์ให้เพื่อนไปคะแต่ค่อยเอาไปขายต่อ และหาซื้อชุดใหม่ให้เค้าคะ แต่ก็ยินดี ไหนๆช่วยเค้า ก็ช่วยให้จบ ส่วนพ่อก็โทรมาถามเชิงอ้อมว่า ทำหรือยังเนอะ เราบอกทำแล้วคะ และเดียวส่งองค์พระไปทางไปรษณีย์

**ที่สำคัญช่วงนี้หนุอยู่ในช่วงพิธีกรรม ที่ถือสัจจะเป็นสำคัญ** เครียดเลย ยังหาเวลาไปไปรษณีย์ไม่ได้

วันนี้ก็เลยต้องเข้าวัดเล่งเน่ยยี่อีก เพราะเมื่อวาน เฮ้อ...หนูใจอ่อนอดสงสารไม่ได้อีกแล้วให้องค์พระองค์ไท้ส่วย ที่บูชามาให้กับเค้า เพราะเค้ากำลังอยู่ในช่วงทานยาเร่งการตกไข่ (เค้าอยากมีลูกมาก) นี้ไงกรรมของหนุ หนุเลยยกให้เค้าบูชาไป แล้วตัวเองต้องมาบูชาใหม่

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น why??? (w-h-y-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-20 14:33:32


ความคิดเห็นที่ 915 (3296745)
avatar
คนแปลก แปลกคน

มีเรื่องเรียนปรึกษาค่ะ คือว่าวันนี้เริ่มเข้าองค์พระวรุณทราทิตย์ติยาปฏิ
ซึ่งมีข้อนึงบอกว่า ไม่ยุ่งเรื่องของผู้อื่นเด็ดขาด ถ้าไม่มีการร้องขอ
เรื่องมีอยู่ว่าตอนนี้เรียนอยู่ แร้วมีการแบ่งกลุ่มทำรายงาน
เพื่อนไม่มา 2 คน และยังไม่มีกลุ่ม แต่เรามีกลุ่มแร้ว
เพื่อนให้ห้องกำลังรวมกลุ่มอยู่ เราเลยพลั้งปากบอกว่า
ถ้ากลุ่มใครขาดฝากเพื่อนด้วย 2 คน โดยที่เข้าไม่ได้ร้องขอ
พอพูดเสร็จก้อนึกได้ว่าเป็นข้อห้าม
อย่างนี้เราต้องเริ่มนับวันเข้าปฏิใหม่เลยมั๊ย

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแปลก แปลกคน (circle_080-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-23 15:22:42


ความคิดเห็นที่ 916 (3297071)
avatar
why???

เคสเดียวกันเลย

แต่ตอนนี้ตัวเองต้องนับหนึ่งใหม่ เริ่มปฏิบัติใหม่ แต่ไม่รุ้ว่าจะถูกต้องหรือใหม่

ผู้แสดงความคิดเห็น why??? (w-h-y-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-24 13:15:14


ความคิดเห็นที่ 917 (3297210)
avatar
เจ้าบ้าน

ไม่ต้องคิดมากไปครับ ผิดก็เริ่มใหม่ ถึงเริ่มใหม่แล้วผิด ก็ เริ่มใหม่อีกได้ครับ ขอแค่เริ่มรอบสองให้ได้ดีกว่ารอบแรก และเริ่มรอบสาม ให้ดีกว่ารอบสองก็นับว่าก้าวหน้าไปอีกขั้นแลัวครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าบ้าน (59-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-25 08:14:15


ความคิดเห็นที่ 918 (3298329)
avatar
why???

สวัสดีคะ อาจารย์(เจ้าบ้าน)

คือ ดิฉันเกิดข้อสงสัยอีกแล้ว(ขี้สงสัยจัง) แต่ไม่อยากให้ค้างคาใจ

1.ทำไมเวลาหนูนั่งสมาธิ ได้ไม่ถึงนาที รู้สึกตัวเบาๆและเบาขึ้นเรื่อยๆเหมือนจะล้มลงเลย จึงต้องลืมตา และไม่อยากจะนั่งอีก

เวลานั่งสมาธิตามวิถีทางพุทธ(คนไทยทั่วไป)ไม่เป็นแบบนี้นะคะ แต่เมื่อได้นั่งตามวิถีทางตันตระ มันเกิดขึ้น และได้บอกสามี

ว่าพ่อรู้สึกแบบแม่ไหม สามี่ตอบกลับมาว่า ไม่เป็นนะ แต่รู้สึกว่านั่งได้ไม่นานมันอึดอัด สามีกับหนูรู้สึกต่างกันเวลานั่งสมาธิ

- ของหนูเวลานั่งจะรู้สึกตัวเบามากๆๆๆๆ เหมือนจะล้มลงทั้งนั่ง ทั้งที่ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นปล่อยใจให้ว่าง อยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนูหรือป่าว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น why??? (w-h-y-at-windowslive-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-29 22:39:54


ความคิดเห็นที่ 919 (3298353)
avatar
เจ้าบ้าน

เคสนี้ สะดวกคุย กัน ในเทวาลัยดีกว่าครับในกระดานสาธารณะ ไม่ค่อยเหมาะครับ ถ้าสะดวกเข้าพบอาจารย์ปุ๊ก นะครับ อย่าลืมเข้ามาจองคิวเร็วหน่อยนะครับ อาจารย์ปุ๊กรับแค่วันละ 10 คิวนะครับ สวัสดี

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าบ้าน (59-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-30 02:44:09


ความคิดเห็นที่ 920 (3298361)
avatar
asinatantra

ความแปลกใจที่ให้ความสุข ยิ่งนัก

เมื่อค่ำวานมีนัด dine&drink กับเพื่อนๆ กลุ่มตั้งแต่วัยประถม! + จนนานนมป่านนี้  เนื่องด้วยเพื่อนคนหนึ่งเพิ่งปรับยศเป็นด็อกเตอร์  และเพื่อนอีกคนหนึ่งกำลังจะเป็นพ่อคนในต้นเดือนหน้าด้วยรอเวลานี้มานานหลายปีนัก    เลยถือโอกาสฉลองรวมเล็ก ๆ ห้า หก เจ็ด คน ..... ผมพกของขวัญที่รบกวนไถ่เจ้าบ้าน(มาอีกตามเคย) คือจี้เงินพระคเณช นำติดตัวไปให้เพื่อนทั้งสองที่ประสบความสำเร็จก้าวหนึ่งที่ตั้งใจไว้ในชีวิต

แน่นอนกลุ่มเพื่อนรู้จักผมแบบที่เป็นผม ไม่ใช่อสินะตันตระไผ่ก่อใหญ่ไฟไหม้เกรียม!  ซึ่งผมที่เป็นผมจะมีแต่ภาพนักใช้ชีวิตแบบมนุษย์ตัวยงคนหนึ่ง แค่นั้น! ผมยอมรับว่าตอนแรกแอบกลัวว่าเพื่อนจะ อะ! เอาอะไรมาให้ อะ? เพราะผมรักท่านมากก็กลัวว่าผู้รับไปจะเอาไปทิ้งขว้างแต่ผมก็จำที่เจ้าบ้านสอนได้ว่า  "เจตนาดีที่เรามี เมื่อให้ไปแล้ว ก็แล้วแต่ผู้รับไปแล้ว " ..เอาหละ หลังจากลงนั่งที่โต๊ะ เซย์ฮัลโหลเสร็จ ผมก็หยิบจี้ท่านให้เพื่อน บอกไปว่า ท่านเป็นเจ้าของความสำเร็จทั้งมวล ขอมอบให้เพื่อนไปเริ่มต้นนะ ...การเปิดเริ่มต้นเล็ก ๆ นี้ ทำให้ผมได้เซอร์ไพร์ขนานใหญ่กลับมาด้วยว่าเพื่อนทั้งกลุ่ม รู้จัก รัก ในท่านมากมาย  ต่างฝ่ายต่างเล่าว่ารักอย่างไร ทำไม ถือศีล ถือธรรมอย่างไรให้สู่กันฟัง ผมนั่งทำตาโต ตื้นตัน มองกว้างออกไปในชื่อเสียงอันเกรียงไกรขององค์มหาคเณช ทำให้รู้สึกว่าพรมแดนนั้นไม่มีในความศรัทรา แม้ในกลุ่มเพื่อนหัวทันสมัยนั่งชิว จิบไวน์ หัวเราะเฮฮาสังสรรค์ร่วมกัน ที่แม้มองภายนอกอาจจะไม่มีทีท่าแห่งศรัทราในอะไร  แต่จุดเล็กๆ ของเม็ดพันธุ์แห่งศรัทราและความดีก็ฝังรากลงไปแล้ว

เพื่อนทั้งสองถามผมว่า " บูชาด้วยอะไร อย่างไร " ผมตอบไปว่า " ไม่มีอะไรมาก เริ่มต้นที่รักท่าน แล้วจะเห็นหนทางและวิธีเอง "

ความรู้สึกดี ๆ ที่ไหลกลับมาจากเพียง จุดเวลาหนึ่งของชีวิตเล็ก ๆ นี้

โอม ศรี มหา คเณช นมัส สาธุ โอม

 

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-30 10:13:42


ความคิดเห็นที่ 921 (3298608)
avatar
ขอ เชื่อ รับ

สอบถามผู้รู้ทุกท่านค่ะ คือปกติแล้วจะไปตันตระบ่อยมาก เมื่อเลิกงานก็จะพยายามไปให้ได้เกือบทุกวัน แต่ช่วงนี้งานหนักมากค่ะ ออกข้างนอกตลอด บางอาทิตมีออกบู๊ทเสาร์อาทิตย์ด้วย ไม่ค่อยมีเวลาไปตันตระเทวาลัยเลยค่ะ แต่ละพยายามนั่งสมาธิ ถวายลมหายใจค่ะ หากกลับมาบ้านแล้วไม่น๊อก หลับไปสะก่อน

อยากทราบค่ะ 1. ตอนนี้ทำพิธีอยู่ด้วย เรื่องความรักอ่ะค่ะ แล้วไปไม่บ่อยเหมือนเดิม จะประสบความสำเร็จที่ขอ ช้ามั๊ยค่ะ

                        2. นั่งสมาธิ ถวายลมหายใจ แบบนี้เหมือนเราได้เข้าไปกราบ ขอบารมีท่านเหมือนที่ตันตระเทวาลัยหรือไม่ค่ะ

                        3. ตอนนี้ก็มีความทุกข์เรื่องรัก อยู่ค่ะ ผ่านไปเดือนกว่าแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววของเค้าเลยค่ะ ไม่ทราบว่าเกี่ยวกะที่เราเคยไปเป็นประจำ แล้วไม่บ่อยเหมือนเดิมรึป่าวค่ะ (คืองานหนักมากจริงๆค่ะ)

 

รบกวนท่านผู้รู็้้้ ทุกท่านช่วยตอบคำถามนี้ด้วยนะค่ะ

 

คิดถึงตันตระเทวาลัยมากค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ขอ เชื่อ รับ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-01-31 20:51:29


ความคิดเห็นที่ 922 (3298775)
avatar
คนแปลก แปลกคน

เรียนถามท่านเจ้าบ้าน หรือท่านอสินะตันตระ
เมื่อก่อนตอนที่เข้าเทวาลัยแรกๆ เรารักและศรัทธาในองค์พระพิฆเณศวร
เวลานั่งสมาธิจะสวด โอม ศรี มหา คเฌชะ นมัช ตลอดทั้งที่เทวาลัยและที่บ้าน
และจะขอพรจากพระองค์เพียงองค์เดียว แต่มาระยะหลังที่เทวาลัยเวลานั่งสมาธิ
ให้สวด โอม นมัช ศิวาย และขอพรจากองค์พระสดามหาศิวะเจ้า
เลยมีข้อสงสัยว่าควรทำอย่างไรบ้าง

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแปลก แปลกคน (circle_080-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-02-01 12:55:10


ความคิดเห็นที่ 923 (3298897)
avatar
เจ้าบ้าน

กรณี ของ ความเห็น 922  นั้น หากรักและศรัทธา ในองค์พระ คเณศวรเจ้า และเคย สวด โอม ศรี มหา ค เณชะ นมัช ก็ สามารถ ใช้เหมือนเดิมได้ครับ ไม่มีปัญหาใดๆ หรือ อยาก จะสวดมนตร์ 5 พยางค์ บ้างในบางครั้งก็ไม่ผิดแต่อย่างใด ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าบ้าน (59-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-02-01 22:29:44


ความคิดเห็นที่ 924 (3298909)
avatar
believe
image

สวัสดีปีใหม่ค่ะ.......มาเลทไปประมาณเดือนนึงเต็มๆ ^^

จริงๆแล้วอยากจะเขียนถามคุณ Asinatantra มานานมากๆแล้วค่ะ ในเรื่องของความผูกพันระหว่างความเป็นพี่ เป็นน้อง กับ การโดนตัดสินจากอาจารย์บางท่านว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นเพราะตัวผู้เขียนเอง

อยากจะเรียนถามคุณเจ้าบ้านกับคุณ Asinatantra  ค่ะ คือ เมื่อประมาณเกือบๆปีมาแล้ว ที่ได้มีโอกาสได้รู้จักกับตันตระเทวาลัย ด้วยการชักชวนของเพื่อนที่รู้จักกัน ....... ในตอนนั้นทางครอบครัวของผู้เขียนเองมีปัญหาที่ทำให้หนักใจมาก เพื่อเลยแนะนำให้มาลองคุยกับอาจารย์ที่เทวาลัย อาจจะมีคำแนะนำเพื่อหาทางแก้ไขทุกข์ที่มีได้ ..... ความจริงแล้วเป็นปัญหาที่เกิดกับพี่ชายของผู้เขียน และด้วยความที่พี่ชายเดินทางตลอดเวลาจึงไม่สามารถเข้ามาทำพิธีในเทวาลัยได้อย่างสม่ำเสมอ ผู้เขียนและมารดาจึงมาแทน ด้วยความคิดไปเองว่า ความผูกพันธ์ทางสายเลือดอาจจะพอมีส่วนช่วยได้บ้าง ( คงเป็นความคิดที่ผิดค่ะ ) ครั้งแรกได้คุยกับอาจารย์ท่านนึง เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น หลังจากที่เล่าให้อาจารย์ท่านนั้นฟังจบ คำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้ตัวผู้เขียนเองรู้สึกเสียใจผสมกับความสงสัยอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากสิ่งที่ได้รับกลับมาเป็นคำตอบคือ " ความเป็นพี่น้อง เมื่อโตขึ้นถึงวัยที่ต่างคนต่างจะมีครอบครัวใหม่แล้ว พี่น้องก็จะกลายเป็นคนอื่นไป " ........ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ทำให้ตัวผู้เขียนสงสัยมาตลอด แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้ถามใครเลย ว่าทำไมสายเลือดเดียวกัน พอถึงช่วงนึงของชีวิตจึงกลายเป็นคนอื่นไป ????? ในทางกลับกัน พ่อกับแม่ สอนลูกๆ เสมอว่า พี่น้องกัน มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน ไม่ทิ้งกัน เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ

และอีกประเด็นที่ฟังแล้วยิ่งรู้สึกเสียใจและรู้สึกว่าตัวเองผิดมากๆคือ อาจารย์ท่านนั้นได้บอกกับตัวผู้เขียนเองว่า " การที่คุณกลับมาทำงานที่เมืองไทย ทำให้เหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้น มันเกิดมาจากตัวคุณ.......ถ้าคุณไม่ได้กลับมาที่นี่  เรื่องก็คงไม่บานปลายขนาดนี้ " สรุปแล้วการที่ตัวผู้เขียนพยายามค้นหาความจริงให้กับพี่ชายว่า สิ่งที่เค้ากำลังเจอคืออะไร มันกลายเป็นความผิดพลาดเหรอ? สิ่งนี้มันเป็นเหมือนตราบาปที่ติดตัวและดังก้องอยู่ในสำนึกตลอดเวลา เพราะตั้งแต่เป็นเด็ก สิ่งที่ผู้เขียนคิดเสมอมาคือ อยากจะเห็นพี่ชายมีชีวิตที่ดี มีคู่ครองที่เหมาะสม แต่ในความเป็นจริง คนที่ทำให้ชีวิตพี่ชายต้องเปลี่ยนไป กลับกลายเป็นตัวผู้เขียนเอง

ความรู้สึกนั้นผ่านมาแล้วเกือบปี แต่ก็ยังเป็นคำพูดที่วนเวียนอยู่ตลอดเวลา รู้สึกแย่กับคำปรึกษาที่ได้รับ และมีความไม่เข้าใจว่า อาจารย์ท่านนั้นทำไมถึงตัดสินว่าตัวผู้เขียนเป็นชนวนทำให้เรื่องมันบานปลาย ........ หลังจากได้คำตอบนี้มา ทำให้เกิดความรู้สึกทางลบกับเทวาลัยพอสมควร แต่ด้วยความที่โดยส่วนตัวแล้วมีความนับถือองค์เทพอยู่แล้ว จึงกลับมาคุกเข่าขอพรต่อหน้าองค์เทพ และต่อหน้ารูปปั้นที่ไม่ใช่องค์เทพ จากวันนั้นจนมาถึงวันนี้ ถ้ามีโอกาสว่างเมื่อไหร่ ก็จะมานั่งสมาธิที่เทวาลัยเสมอ แต่คำถามที่วนเวียนอยู่ก็ยังคงอยู่ต่อไป

 

จึงอยากจะเรียนถามคุณเจ้าบ้านและคุณ Asinatantra แค่  2 ข้อเท่านั้นค่ะ

1. ความเป็นพี่น้องที่มีสายเลือดเดียวกัน วันนึงมันจะหายไปแล้วเหลือไว้แค่ความเป็นคนอื่นจริงๆเหรอคะ

2. อาจารย์ที่ให้คำปรึกษามีสิทธิ์ที่จะตัดสินใครต่อใครที่มาขอคำปรึกษาว่าผิดหรือถูกได้ด้วยเหรอคะ? ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่คำพูดของคนๆนึง แต่เนื่องด้วยเป็นอาจารย์ในตันตระเทวาลัย จึงทำให้ผู้เขียนค่อนข้างที่จะมีอิทธิพลกับผู้เขียนมากๆ

 

ขอบคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น believe ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-02-02 04:53:22


ความคิดเห็นที่ 925 (3298916)
avatar
เจ้าบ้าน

ในข้อที่ว่าความเป็นพี่น้อง นั้น วันนึงจะหายไป เหลือไว้แต่ความเป็นคนอื่นจริงหรือไม่ข้อนี้ เห็นได้ค่อนข้างชัดเจน อย่าว่าแต่เป็นคนอื่นเลย กลายเป็นศัตรูมุ่งเอาชีวิตกันก็เห็นได้เยอะครับ ที่รักกันห่วงใยกันก็มีให้เห็นเช่นกัน เพียงแต่ว่า ไม่ว่าจะรักกันสนิทกันแค่ไหน ก็ควรเว้นระยะห่าง กันไว้พอสมควร อย่าคิดว่า เมื่อเป็นพี่น้องกันเรื่องของเธอ ก็คือ เรื่องของฉัน เรื่องของฉันก็คือเรื่องของเธอ เพราะกรรม เป็น  ของใครของมัน ใครทำสิ่งใดไว้ ย่อมต้องได้รับสิ่งนั้น ดังนั้น พี่น้องก็ แค่ คำเรียกหา เพื่อนสนิท เพื่อนรัก คนรัก แฟน สามี ภรรยา ก็แค่คำเรียกหา การจะเป็นคนใกล้ชิด สนิทกันต้องประกอบด้วยกรรม เป็นที่ตั้ง เมื่อมีกรรมเป็นตัวโยงผูก จะอยู่ด้วยกันนาน ทุกข์ สุข ก็จะร่วมกันนาน มากกว่าแค่คำว่า พี่น้อง ครับ คำว่าเลือดข้นกว่าน้ำ หรือพี่น้องมีสายเลือดเดียวกัน นั้นย่อมเป็นความ หวังของบิดามารดา ที่ย่อมต้องการให้พี่น้องรักใคร่ สามัคคี กัน ถือเป็นคำสอนและคำอบรม เป็น โอวาท ที่หากทำได้ก็ดี แต่ ก็อย่างที่ว่า ในความเห็นของผม ยังไงก็ควร เว้นระยะห่างกันบ้าง นะครับแต่อย่างไรก็ตาม พี่น้องที่ รักและดูแลกันได้ดี ก็มีให้เห็นมากมายเช่นกัน คำตอบข้อนี้ คือ โดยหลัก ความคิดเห็นส่วนตัวของผม คือ แค่คำว่าพี่น้องไม่พอครับต้องดูให้ลึกถึงภาวะแห่งกรรมที่กระทำร่วมผูกสร้างกันมาด้วย ครับจึงจะสามารถบอกได้ว่า พี่น้อง จะสนิทชิด หรือห่างกันไกลใกล้เีพียงใด  ส่วนเรื่อง อาจารย์ที่ให้คำปรึกษา นั้น เรื่องทั้งหมดเป็นมาอย่างไร หรือรายละเอียดเป็นอย่างไร มีต้นสายปลายเหตุอย่างไร ทั้งผมและ ท่าน อสินะตันตระ ย่อมไม่ทราบ ดังนั้น หากจะให้ ผมหรือท่านอสินะตันตระชี้วัดตัดสินว่าคำใดถูกหรือผิด ย่อมทำไม่ได้ครับ แต่ หาก ท่านผู้เขียน มีความรู้สึกไม่สบายใจ ก็อย่านำมาใส่ใจเลยครับ เพราะว่าทั้งผม และท่านอสินะตันตระ ตลอดจน อาจารย์ทุกท่านในตันตระเทวาลัยก็เป็นเพียงคนธรรมดา เป็นเพียงบุคคลที่เสนอตนเองเป็นผู้รับใช้ เป็นข้ารองพระบาท องค์เทพ เท่านั้น เพียงแต่ คำพูดหรือคำวิจารย์ใดๆ ของอาจารย์ที่ปรึกษา ที่ พูดไป สิ่งที่จะวัดได้ คือ การพูด ด้วยเจตนาใด ประกอบด้วย ความคิด อตคิ หรือความเกลียดชัง ไม่พอใจ หรือไม่ ถ้ามี ก็ต้องตัดสินว่าอาจารย์ที่ปรึกษา ผิดครับ ในการพูดคุยกันนั้น แม้เหตุที่ เราเห็นจะเป็นเหตุที่เห็นได้ แต่ ในเหตุที่ผู้อื่นเห็นอาจลึกซึ้งมากกว่า ชาติมีจริงภพ มีจริง สุดแต่ใครจะเห็นได้แค่ไหน หาก ร้อยคำพันคำที่ได้ยิน สร้างความไม่สบายใจ อย่านำมาใส่ใจเลยครับ สวัสดี

กรรมชาตินี้ชาติใดชาติไหนเล่า

ที่คอยเฝ้าเกิดบ่วงห่วงใยหา

เคยผูกผิดผูกกรรมร่วมทำมา

เคยเรียกหา ร่วมกรรม ทำวนเวียน

แม้นห่างกันห่างไกล ไว้เพียงคิด

กรรม เพียงติด คิดการไม่เป็นผล

หากพบกันเคียงชิดสนิทสองคน

กรรมมีผลเร่งหามารับทัณฑ์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าบ้าน (59-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-02-02 08:29:41


ความคิดเห็นที่ 926 (3298943)
avatar
อาศิรวาทเทวาบารมี

** เคยทำกรรมร่วมกันมา เมื่อปัจจัยองค์ประกอบครบ ก็คงถึงเวลาที่ต้องชดใช้ !!

ขอให้ท่านเมตตา สาธุครับ

แล้วก็ ซิน เจีย ยู่ อี่ ซิน นี่ ฮวด ไช้  เฮงๆๆ กันทุกท่านครับ

เมื่อวาน มีโอกาสได้ไปนั่ง คาเฟ่ ที่หลายๆคนเรียกกัน แต่ผมคงจะใช้คำว่า "สวน" แทน

เพราะบรรยากาศมันน่าหลงไหลยิ่งนัก สนามหญ้าสีเขียวสด ดอกลีลาวดีสีนวลขาว และความสงบเบาสบาย

แสงสีจากโคมไฟหลายหลากสี กาแฟ โกโก้ที่หอมหวาน อร่อย และเสียงพูดคุยกันเบาๆๆ จากโต๊ะข้างเคียง

เป็นบรรยากาศที่ลงตัวอย่างมากเลยที่เดียวครับ สรุปเป็นว่าผมชอบที่นั่นมาก ขอกด Like ให้ซัก 1000 รอบ!!!!!!!!!!!

ไว้วันไหนว่างๆ จะขอไปนั่งรับบรรยากาศอีกครับ

 

สมาชิกท่านใด ยังไม่เคยไปแวะชม ก็ตามกันไปได้นะครับ ประตูทางเข้า อยู่สุดทางถนน ผ่านองค์ยมราชาเข้าไปครับ ก่อนเข้าก้ต้องยกมือไหว้ท่านอย่างนอบน้อมซัก 1 ที **

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาศิรวาทเทวาบารมี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-02-02 10:47:35


ความคิดเห็นที่ 927 (3298986)
avatar
believe
ขอบคุณท่านเจ้าบ้านค่ะที่ตอบข้อสงสัย อันที่จริงแล้วสิ่งที่ท่านได้ให้สติมา ขอน้อมรับด้วยความเคารพจากใจจริงๆค่ะ โดยพื้นนิสัยของผู้เขียนเองแล้วไม่ค่อยสนใจว่าใครจะทำอะไร อย่างไร แต่ด้วยความผูกพันธ์ที่มีกันแค่สองคนพี่น้อง ช่วยเหลือกันมาตั้งแต่เด็กๆจนถึงปัจจุบัน หากไม่ใช่พี่คนนี้ที่คอยออกรับและช่วยมารดาเลี้ยงดูน้องคนนี้มาตั้งแต่บิดาเสียชีวิตไปตั้งแต่แปดขวบ ตามหลักการแล้วคำสอนที่ครอบครัวสอนมาเพื่อให้พี่น้องรักกัน สำหรับตัวผู้เขียนเองแล้วมันได้ผลจริงๆค่ะ รักด้วยรักที่บริสุทธิ์ใจจริงๆ เลยทำให้เสียใจค่ะ ว่าตนเองเป็นต้นเหตุให้คนที่ไม่เคยคิดร้ายใครต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ สิ่งที่เป็นไปโดยรวมแล้วย่อมเกิดจากกรรม ของคนๆนั้น เพียงแค่ไม่อยากเป็นคนที่เร่งกรรมให้กับคนที่ตนรักเท่านั้นค่ะ นับจากนี้สุดแท้แต่องค์เทพจะเมตตาค่ะ วันใดที่หยิบได้ ปล่อยวางได้ วันใดที่ปล่อยวางไปแล้ว แล้วหยิบขึ้นมาอีกครั้งได้ วันใดที่องค์เทพต้องการข้ารองพระบาท หากผู้เขียนมีโอกาสเป็นตันตริก เพราะจิตอีกส่วนหนึ่งเป็นตันตริกจริงๆ มิใช่แค่ความอยากจะเป็น เมื่อวันนั้นมาถึง คงมีโอกาสได้กลับไปกราบองค์เทพอีกครั้ง ศรัทธาที่มี ยังคงอยู่เสมอไป ไม่เคยจางหาย สุดแท้แต่องค์เทพจะเมตตา โอม นมัช ศิวาย
ผู้แสดงความคิดเห็น believe ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-02-02 14:40:08


ความคิดเห็นที่ 928 (3299002)
avatar
asinatantra

ผมเองก็ได้ยินประโยคนี้บ่อย ๆ  " เกิดเป็นมนุษย์ ชอบทุกใจ " ตอนเด็ก ๆ ฟังแล้วก็ไม่เข้าใจ พอเวลาผ่านเอาจำนวนปีของอายุมาเพิ่มพูนทับถมให้จนหนาเตอะขนาดนี้ ก็จำนนด้วยหลักฐานว่า  เกิดเป็นมนุษย์ชอบทุกข์ใจจริง ๆ   ชอบเอาทุกข์มาใส่ไว้ในใจให้มันทุกข์ ..ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าใครจะทำจะยัดให้เราอย่างไร หากเราไม่ใส่เข้าไปข้างในด้วยตนเอง ไม่มีทุกข์

กรรมเป็นผลของการกระทำ  กรรมของเราก็ของๆ เรา กรรมของอีกคนก็ของอีกคน  แบ่งแยกชัดเจน แม้เราจะยุ่งเข้าไปในกรรมคนอื่น ก็แค่ผูกเพิ่มเราเข้าไปด้วยอีกปม มิสามารถแก้ปมเดิมของผู้กระทำกรรมเดิมได้   ฉะนั้น หากผู้กระทำกรรมมิแก้ หรือ หากพอใจในกรรมของตน  ผมว่าเราก็ควรที่จะเคารพในสิ่งนั้นนะครับ  เพราะเค้าเป็นเจ้าของกรรมนั้น ๆ เอง  

เรื่องกรรมซับซ้อนวุ่นวาย + เข้ากับว่าเจ้าของกรรมไม่อยากเข้าใจอีกต่างหาก เพราะขัดใจ .... แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น วัดกันได้ง่าย ๆ และเป็นมาตรฐานจริงเชียวว่า  หากบุคคลหนึ่งพอใจในชีวิตตน ก็ย่อมพิสูจน์แล้วครับว่า  ถูก  กรรมที่ทำมาในถูกในแง่ของเค้าแล้วครับ    แต่หากไม่(และโดยส่วนมากคือ ยังคงทุกข์อยู่) ก็แปลว่าผลลัพท์ของการกระทำของเราเองยังคงไม่ถูก

แม้แต่ตัวผมเองผมก็เอาหลักการนี้วัด ครับ หากผมทุกข์ใจ หรือชีวิตมีปัญหา แน่นอนมีสิ่งผิดในตัวผมกับการกระทำของผมแน่นอน  หากผมกระทำไม่ดี หรือแม้แค่เลือกหนทางไม่ถูก แน่นอนกรรมจากที่ผมกระทำจะส่งผมกลับหาผมแน่นอน  มันวัดง่าย ๆ แบบนี้เองครับ เพราะเราท่านส่วนมากเป็นคนพุทธและหรือมีรากฐานมาจากศาสนาพุทธ ซึ่งแปลว่าเชื่อเรื่องกรรมทั้งสิ้น  แล้วไม่ลองปรับแก้ให้ตนเองเหลือแต่สบายใจ ให้เป็นกำไรชีวิตก่อนไปตกถึงช่วงเวลาหลังหมดอายุไขหละ ครับเพราะหลังจากนั้นเป็นเวลาของการชดใช้อย่างเดียวแล้วละครับ     ฉะนั้นผมเชื่อสุดหัวใจของผมเสมอว่าหากเทวราจารย์ท่านใดประพฤติไม่ถูกด้วยเจตนาไม่ถูกในเขตแดนนี้ ไม่รอดครับ  ไม่ต้องเอาเรื่องนี้ไม่คิดให้ไม่สบายใจเพิ่มไปอีก 

กรรมของบุคคลอื่น แก้ยังไงก็แก้ให้เค้าไม่ได้ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นใคร  ไม่ว่าจะเป็นเลือด หรือ เป็นน้ำ เราท่านอาจจะขอพรให้องค์เทพเมตตาผ่อนหนักเป็นเบาขอโอกาสให้เจ้าของกรรมได้กลับตัว แต่ เจ้าของกรรมจะกลับหรือไม่ หรือ อย่างไร  ผู้อื่นก้าวละเมิดไม่ได้ครับรังแต่จะผูกเพิ่มให้ปมใหญ่ขึ้น ๆ เปล่า ๆ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-02-02 14:56:30


ความคิดเห็นที่ 929 (3299013)
avatar
asinatantra

สวนนี้ผมปลูกและดูแลมาเองกว่า 16 ปี ...พอย้ายบ้านไปจะเก็บเงียบไว้ก็เสียดาย   ....  ได้คำชมมา ก็ดีใจครับ

ผมเองก็ชอบ  นั่งฟัง นั่งคุย กับต้นไม้ ทักทายสายลม  สูดกลิ่นดินหญ้า .... ทำให้อารมณ์ดี เสมอ ๆ

สวนคาเฟ่ที่ปุ๊กปิ่นดูแลอยู่  เจ้าบ้านตั้งชื่อให้ว่า  " กลังเบลอร์ "     ครับ... ส่วนความหมายคืออะไรคงต้องถามจากตัวปุ๊กปิ่นเอง  ผมขอรับรองว่ามีฮา! แน่นอน

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-02-02 15:14:10


ความคิดเห็นที่ 930 (3299082)
avatar
นิคกี้

เมื่อคืนเข้าไปยืนชม ยืนดม กลิ่นหอมอวลๆในสวน "กลังเบลอร์" มาแล้วครับ...

นั่งอยู่นาน น๊าน นาน จนรู้สึกเกรงใจ..ตายละหวา นั่งเสียเพลิน ลืมเวลาไปเลยอ่ะครับ...

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นิคกี้ (kanoungnit1noung-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-02-02 18:02:10


ความคิดเห็นที่ 931 (3299099)
avatar
คนแปลก แปลกคน

เรียนถามขอรับ ว่า
1. การที่เราทำคุณไสยหรือไสยศาสตร์กับผู้อื่นจะมีคนรู้หรือไม่
2. ผลของการทำคุณไสยจะทำให้วิถีชีวิตของผู้ถูกกระทำเปลี่ยนไปหรือไม่ เช่น เราทำคุณไสยเพื่อให้คนที่เรารักกับมาหาเรา จะมีผลกับเส้นทางชีวิตของคนที่เรารักหรือไม่ ซึ่งเค้าอาจจะไม่เจอคนอื่นแต่เราผูกเค้าไว้กับเรา
3. ชะตาชีวิตเราจะเปลี่ยนได้หรือไม่ เช่น ถ้าคบกับแฟนคนนี้จะทำให้ปวดหัวไปถึงปีหน้า พอทะเลาะกันและเลิกกัน ไม่กลับไปคบกันอีก มันจะชีวิตเราเปลี่ยนได้ใช่มั๋ยขอรับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแปลก แปลกคน (circle_080-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-02-02 18:38:10


ความคิดเห็นที่ 932 (3300901)
avatar
the jeab

 

 

ศรัทธา ปาฎิหารย์ จะเกิด

ผู้แสดงความคิดเห็น the jeab (panyakarn-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-02-12 02:28:22


ความคิดเห็นที่ 933 (3304409)
avatar
asinatantra

สาม เดือน สาม

เวียนมาอีกครั้งหนึ่ง กับ การฉลองผ่านความเป็นมนุษย์เล็ก ๆ นี้

ขอพ่อท่านมีความสุข แข็งแรง ...

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-03-03 10:48:50


ความคิดเห็นที่ 934 (3304559)
avatar
เจ้าบ้าน

การกระทำคุณไสย หรือไสยศาสตร์สามารถมีคนรู้ได้ครับ และแน่นอนก็สามารถทำให้ไม่มีใครรู้ได้เช่นกัน ส่วนผลต่างๆ ย่อมเปลี่ยนแปลงหาก เป็นการฝืนชะตา แต่หาก ถูกลิขิตมา แล้วแต่มีอุปสรรค ก็จำเป็นต้องฝ่าฟันเพื่อให้ได้มาครับ ในแนวทางตันตระเทวาลัย เราทำทุกวิธีครับเพื่อให้สำเร็จ แต่จะพยายามไม่ก้าวล่วงกรรมในอดีต กรรมใหญ่ กรรมหนัก ครับเนื่องจากผลที่ได้รับ มักไม่คุ้มค่า ซึ่งหากมีการ กระทำพิธีกรรมใดๆที่ก้าวข้ามขีดขั้นชั้นสูงแห่งกรรมแล้ว เทวราจารย์จะต้องประชุมเพื่อปรึกษากันก่อนและขอความเห็นจากผู้ที่ต้องการประกอบพิธีทุกครั้งไปครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าบ้าน (59-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-03-04 09:52:00


ความคิดเห็นที่ 935 (3305071)
avatar
อาศิรวาทเทวาบารมี

มนุษย์เรา สามารถสร้างความรู้สึกหลอกหรือโกหกความรู้สึกตัวเองได้ใช่มั้ยครับ? งง กันมั้ย ความรู้สึกหลอกกับความรู้สึก

ผมเองก็ งง เหมือนกัน ชักไม่แน่ใจว่าบางทีเรากำลังสร้างความรู้สึกเพื่อหลอกความรู้สึกจริงๆ อีกทอดอยู่รึป่าว

หรือ ความเคยชินเลยทำให้เราเป็นไปแบบนั้นไม่รู้ตัว ยอมรับสภาพที่เป็นอยู่เหล่านั้น ทำตัวเมินเฉย อยู่ อย่างเรียบง่ายและอยู่กับมันทุกๆวันไป

หรือ อาจจะเป็นว่าเราพยายามจะวางมันลง แต่ก็ยังรู้สึกบ้างเพียงเล็กน้อย ความรู้สึกพวกนี้ทำให้เราวางมันไม่ลงเสียที

 

ผมก็ งง มึนกับตัวเองเหมือนกัน ว่าควรจะคิดยังไง บางทีอารมณ์ ก็มาเหนือเหตุผล  และบางครั้งเหตุผลก็อยู่เหนืออารมณ์สะจนมากมาย แต่ที่สำคัญสิ่งที่รู้สึก มักเป็นผลสุดท้ายที่คงค้างอยู่ในชีวิตนี้ ให้คิดแม้หลากหลายเหตุการณ์จะจบลงไปแล้ว.....................

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาศิรวาทเทวาบารมี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-03-07 15:05:53


ความคิดเห็นที่ 936 (3305720)
avatar
asinatantra

ทำไมวงกลมเดิม มันถึงกลับมาเกิดขึ้นอีกอยู่เรื่อย ๆ หละค่ะ?

เป็นคำถามที่เด็กตันตริกตัวกลม  ถามผมขึ้นมาเช้าวันหนึ่ง  ผมก็เลยถามกลับไปว่า " อ้าว! แล้วอยากทุกข์เรื่องใหม่ ๆ หรอกหรือ ? "

เด็กตัวกลม ทำตาเหรอหลา ยิ้มถาม เหรอคะ เหรอคะ ทุกข์เรื่้องใหม่ ๆ ไม่ดีใช่มั้ยค่ะ

ผมก็ว่า แล้วแต่คนชอบนะ โดยส่วนตัวผมผมก็ว่าทุกข์เรื่องเดิม ๆ มันก็ดิวง่ายดี เข้าใจแล้วว่าคิดแบบนี้ ทุกข์แบบนั้น แล้วเดี๋ยวก็วกมาจบประมาณนี้  ก็ดูแลง่ายดี อืมนะ มันก็ถูกที่คิดว่า เอ! แล้วตูโง่หรือไงฟะ ทำผิดมันเรื่องเดิม ๆ อยู่ได้ ...ซึ่งเด็กตัวกลมก็ถามผมในหัวข้อนี้เหมือนกัน

โง่แต่ไม่ทุกข์มากมาย  มันก็ดูจะจัดการง่ายออกนะ  หากว่าปัญหาหรือทุกข์นั้นๆ เราแอบใช่เวลาตรองซักหน่อยว่ามันกระทบกระเทือนรากฐานชีวิตรุนแรงไปหรือเปล่า  หากใช่ก็บิดมันซักหน่อยเพราะชีวิตมีรากฐานที่ต้องรักษาไว้คือศีลของแต่ละคน  เช่น เหลือขาข้างเดียวอันนี้รากฐานไม่ดีและปัญหาจะตามมาอีกเยอะ เป็นต้น  หรือหากไม่ใช่กระทบรากฐานสำคัญโดยเป็นทุกข์หรือปัญหาของนามธรรม รัก โลภ โกธร หลง ล้วน ๆ เก็บทุกข์ประเภทนี้เอาไว้คนๆ ให้ชีวิตกระเพื้อม ๆ บ้างก็ออกจะมีประโยชน์  เพราะประโยคว่า  " เกิดเป็นคนอย่างไรก็ทุกข์ใจ " มันเผิอญว่าไม่ได้เป็นประโยคประชดสังคมโก้เก๋อะไรแบบนั้นเฉย ๆ เอาซะเลยนะสิ   มันเป็นไปตามเนื้อหาที่ประโยคตีความได้เชียวหละและจริงแท้และแน่นอน เกิดเป็นมนุษย์อย่างไรก็ทุกข์ใจ   ไม่เรื่องนั้นก็เรื่องนี้ ไม่เรื่องนี็้้ก็เรื่องโน้น โป้น ปู้น กันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะสิ้นสภาพสังขารกันไป   แล้วทำไมเล่ามุมมองกับทุกข์เดิม ปัญหาเดิม ๆ จะไม่น่านำมาถูกใช้ให้เป็นประโยชน์   

เด็กตัวกลมเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น นี่ ๆ ๆ นั้น ๆ ๆ ผมฟังและทำความเข้าใจและก็ถามกลับไปว่า ..." เอ้าก็ดูเหมือนจะรู้ขั้นตอนดีแล้วนิหน่านะ ตรองจากรายละเอียดแล้วก็ดูเป็นทุกข์ที่รับมือได้  หรือ จะเปลี่ยนเป็นทุกข์ใหม่ ๆ เช่น เป็นโรคตับหละ " เด็กตัวกลม ก็ถึงบางอ้อ

ก็จริงมั้ยหละ หากทุกข์ที่เกิดเป็นนามธรรม  คิดแบบนี้เพราะมีคนมาทำแบบนั้นพูดแบบนั้น แล้วทุกข์ใจ ถึงมันจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ แต่ก็ดีกว่าเป็นโรคตับนะ  ทุกข์ทรมานผิดกันเลย  ปัญหาก็แก้ยากผิดกันเลย

......................

แน่นอน  ต้องไม่ลืมว่า ทุกข์เหมือนเดิมแต่ขอให้ฝึกให้ตอนจบดีขึ้น ๆ ทุก ๆ ครั้งที่วนมาถึงตอนจบซะ ....  ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว

จริงมั้ยเจ้าตัวกลม

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-03-10 16:10:11


ความคิดเห็นที่ 937 (3306503)
avatar
มัจจทีระตันตระ

 ชะแว้บบบบบบบบบบบ !!! ย่องเข้ามากวาดๆเก็บๆความรู้เข้ากระเป๋าไปดองไว้ เผื่อได้ใช้ในเร็ววันนี้ หุหุ ... ขอบพระคุณมากมายเพคะ(ครับ) ^^

ผู้แสดงความคิดเห็น มัจจทีระตันตระ (b_blue_little_white-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-03-15 16:17:46


ความคิดเห็นที่ 938 (3307324)
avatar
คนแปลก แปลกคน
ผู้แสดงความคิดเห็น คนแปลก แปลกคน (circle_080-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-03-20 20:40:12


ความคิดเห็นที่ 939 (3314192)
avatar
ปลาทองคร๊าฟ
5เดือน5
ผู้แสดงความคิดเห็น ปลาทองคร๊าฟ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-02 14:08:07


ความคิดเห็นที่ 940 (3314413)
avatar
มัญชตาตันตระ
ขอบคุณนายท่านที่เมตตาประทานนาม มัญชตา ครับผม
ผู้แสดงความคิดเห็น มัญชตาตันตระ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-04 02:04:56


ความคิดเห็นที่ 941 (3315842)
avatar
เจ้าหนู๋จำไม

เรียนท่านเจ้าบ้าน.. อาจารย์ ....มีบางคำถามที่สงสัยและยัง งงอยู่... มีผู้รู้บางท่านได้บอกกล่าว  ว่า..  การถูกกระทำโดยการทำคูณไสยใส่อีกคนหนึ่ง และหากคนที่โดนกระทำนั้นมีความคิดระลึกถึงเราทำให้เราทำให้เราโดนคูณไสยนั้นไปด้วย โดนตอนนี้ดิฉันมีอาการ ร้อนไปทั้งตัวและความร้อนจะค่อย ๆ เบา บาง แต่ใช้เวลาในการเป็นแต่ละครั้งไม่เท่ากัน และความร้อนจะแล่นมาทางร่างกายและผ่านฝ่ามือและค่อย ๆ หายไปเอง แต่ในช่วงแรกที่ได้รับอาการนี้ครั้งแรกคือได้นอนหลับอยู่กับเพื่อน 3 คน  แล้วอยู่ ๆ ร่างกายของดิฉันมีที่นอนที่ร้อนเหมือนใครเอาอะไรมาเผาที่นอน และก้อค่อย ๆ หายไปเอง โดยการปลุ๊กเพื่อน และสลับที่กัน แต่ปัจจุบันอาการร้อนตามตัวยังไม่หายแต่ไม่เกิดขึ้นบ่อย แต่อาการนี้มีผู้รู้บางคนได้บอกว่าเพื่อนที่อยู่ด้วยกันโดนของและของที่เค้าโดนวิ่งผ่านมาที่ดินฉัน ทำให้เกิดอาการทางร่างกายที่ไม่เคยเป็นมาก่อนไม่ปกติและขอคำแนะนำเจ้าบ้านควรทำอย่างไร และดิฉันได้เป็นลูกศิษย์ที่ตันตระ ไปทำทำสมาธิ หลายครั้ง 

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าหนู๋จำไม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-05-13 10:57:22


ความคิดเห็นที่ 942 (3319892)
avatar
อาศิรวาทเทวาบารมี

ชินเพราะทุกข์ กับ ทุกข์ เพราะชินเหมือนกันมั้ยนะ ???

งง จิงๆๆ ><""

ผู้แสดงความคิดเห็น อาศิรวาทเทวาบารมี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-08 11:18:04


ความคิดเห็นที่ 943 (3320045)
avatar
เจ้าบ้าน

การกระทำคุณไสยนั้น หากทำแล้ว ผู้ถุกกระทำสามารถรู้ตัวได้ ก็มีความหมายเดียวเลยครับว่าฝีมืออ่อนหัดมาก ในกรณีที่ ความเห็นที่ 941 ถามมานั้นมีความเป็นไปได้ครับ ถ้าสะดวกเข้ามา ที่ ตันตระเทวาลัย(วัดพระศิวะเจ้า) ดีกว่าครับ เพื่อตรวจสอบและแก้ไขให้เรียบร้อย การปล่อยให้มี คุณไสยคงไว้ในร่างกายนานๆทำให้ดวงตกครับ ยิ่งในกรณีที่คุณเป็นคนที่เคยมาสักการะที่ ตันตระเทวาลัย(วัดพระศิวะเจ้า)ด้วยแล้ว เราไม่สามารถยอมให้ใครมาทำคุณไสยใส่คุณได้ ครับ เรียนเชิญเพื่อตรวจสอบและแก้ไขครับ (แจ้งที่ประชาสัมพันธ์ว่าเคส941ครับ)

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าบ้าน (59-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-09 09:07:24


ความคิดเห็นที่ 944 (3320298)
avatar
เจ้าหนู๋จำไม

ขอบคุณท่านเจ้าบ้านมาก ๆ ค่ะ

              ดินฉันได้ไปทำพิธีกรรมต่าง ๆ และการขับคุณไสยเรียบร้อยค่ะ ที่ตันตระเทวาลัย (วัดพระศิวะเจ้า) แต่อาการร้อนยังไม่เบาบาง จะมีการการร้อนอยู่ แต่ในการเกิดอาการตัวร้อนแต่ละครั้งเหมือนควบคุมได้มากขึ้น  และพยายาม สวดมนต์หลาย ๆ รอบ ก้อจะค่อย ๆ คลายไป แต่คนที่ทำร้ายได้กระทำมานานมาก ๆ หลายปีโดยที่ดิฉันไม่รู้ตัว อยากจะรบกวนขอคำแนะนำจากท่านเจ้าบ้าน      และดิฉันอยากจะเรียนถามเจ้าบ้านดินฉันนำน้ำ บาสัค มาอาบเพื่อเป็นการทำพิธีกรรมเพิ่ม แต่ว่าสีของน้ำไม่เหมือนกันอยากทราบว่า แต่ละสีมีความหมายและมีเรื่องราวต่างกันอย่างไร

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าหนู๋จำไม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-10 14:45:36


ความคิดเห็นที่ 945 (3320509)
avatar
คนธรรมดา

อยากรู้เหมือนกับ944เคยเป็นเช่นเดียวกันนอนไม่หลับเลยสะดุ้งตื่นทีไรตี2ทุกทีแล้วก็นอนไม่หลับเลยทรมานมากนี่คืออย่างแรกมีอีกหลายอย่างที่เป็นไปหาหมอมาหลายที่ตรวจไม่พบไม่เจอโรคกลับมาบ้านเป็นอีกแล้วโดยเฉพาะวันโกนกับวันพระนี่อาการหนักมากกกกก

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนธรรมดา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-11 22:04:37


ความคิดเห็นที่ 946 (3320829)
avatar
มัญชตาตันตระ
ขอบคุณท่านที่เมตตาสาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น มัญชตาตันตระ (iatty_2-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-14 03:12:41


ความคิดเห็นที่ 947 (3321013)
avatar
คนธรรมดา
ผู้แสดงความคิดเห็น คนธรรมดา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-15 00:03:25


ความคิดเห็นที่ 948 (3321834)
avatar
Tatcha

 ตั้งแต่ได้มาที่ตันตระเทวาลัยนี้ ชีวิตเปลี่ยนไปมากความคิดก็เปลี่ยนไปครับ เมื่อรู้สึกโกรธหรือไม่พอใจก็จะละวางได้เร็วขึ้น หรือ ไม่โกรธเลย แต่ในบางครั้ง ถ้าขาดสติ หรือ รู้สึกหงุดหงิดร้อนรนแต่เช้า จะโกรธรุนแรงมาก แต่อย่างไรก็ยังเกิดความโกรธแบบนี้น้อยลงกว่าเมื่อก่อนมาก หลายๆครั้งก็แค่เหวี่ยงๆ สรุปว่าเย็นลงเยอะ และ ปล่อยวางไม่ยุ่งเกี่ยวกับชีวิตผู้อื่นได้มากขึ้น  แล้วก็เห็นทุกข์ของตัวเอง เล็กลงมากเมื่อเทียบกับความทุกข์ของผู้อื่น แต่ก็ยังมีข้อสงสัย ข้อกราบเรียนถามท่านเจ้าบ้านดังนี้ครับ

 

1. ทำไมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นคนไม่มีความรัก เพราะไม่รู้สึกทุกข์หรือกังวล หรือทุรนทุราย หรือถ้าจะมีแว๊บๆเข้ามาบ้างก็ผ่านไปเหมือนสายลม จนทำให้บางครั้งคุยกับใครเรื่อง ทุกข์ในรักของเขา เหมือนกับบางทีพลาดไปดูถูกความรักของเขา  หรือ บางครั้งก็แรงจนไปกระตุกความคิดของเขา ยิ่งเห็นเหล่าผู้คนที่มาเทวาลัยเพราะทุกข์ในรักแล้วยิ่งรู้สึกแปลกใจ ลืมบอกไปครับผมหมายถึงทุกข์ในรักแบบชู้สาวน่ะครับ แบบว่าอยากครอบครองใครสักคน  บางครั้งคิดแบบขำๆกับตัวเองว่า หรือเราถูกสาบให้ไม่มีความรัก หรือขอเกิดมาแบบไม่ให้ไปหลงรักใคร เลยรู้สึกว่าตัวเองโชคดีไม่ต้องทุกข์

2. การตั้งพานเพื่อเก็บวัตถุมงคลต่างๆที่ได้จากเทวาลัยเช่นของที่ระลึกในงานพิธีต่างๆ เหรียญองค์ เทพต่างๆ ไว้ที่หัวนอน นั้น ในการมีกิจกรรมทางเพศจะไม่เป็นการหลบหลู่องค์เทพต่างๆหรือครับ

3. การผูกของมงคลต่างของตันตระเทวาลัยไว้ที่ข้อมือขวาในกรณีของผู้ชาย ในการประกอบกิจกรรมหลายๆๆอย่างในชีวิตประจำวันนั้น รวมทั้งกิจกรรมทางเพศจะไม่เป็นการหลบลู่หรือทำให้พลังที่ประจุไว้ในวัตถุนั้นเสื่อมไป หรือไม่ครับ

4. ผมมีข้อเสนอว่าน่าจะมีการสอนหรืออธิบายวิชาตันตระให้กับลูกศิษย์ให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และปฏิบัติให้ถูกต้องไปในแนวทางเดียวกัน แต่ไม่ได้สอนเพื่อให้เป็นอาจารย์ หรือเพื่อประกอบพิธีกรรมให้ตนเอง เพราะเนื่องจากปัจจุบันลูกศิษย์เยอะมาก อาจารย์ก็เยอะ ซึ่งเป็นธรรมดาเมื่อคนมากการสื่อสารก็ทำให้ผิดเพี้ยนได้ทั้งโดยเจตนา และไม่เจตนา เพราะอาจารย์บางท่านก็เคร่ง บางท่านก็ไม่เคร่ง บางท่านก็อาจจะ แอพพลายไปบ้างตามความเหมาะสมตามความคิดของอาจารย์แต่ล่ะท่าน ซึ่งบางอย่างก็อาจส่งผลที่ทำให้ลูกศิษย์นำไปปฏิบัติต่อแบบผิดๆ เพราะบางเรื่องอาจจะอนุโลมสำหรับอาจารย์ แต่สำหรับลูกศิษยืไม่สามารถทำได้ ในเรื่องเดียวกันนั้น และลูกศิษย์กับลูกศิษย์ ก็สื่อสารกัน แล้วก็เกิดการถกเถียงกันเพราะฟังมาจากคนล่ะอาจารย์ หรือกรณีลูกศิษย์แนะนำหรือตอบคำถามเพื่อนๆลูกศิษย์ด้วยกัน แล้วอาจารย์บางท่านมาได้ยินก็ก่อให่เกิดปัญหาการตำหนิติเตียนจากอาจารย์ท่านนั้นๆ ดังนั้นถ้ามีชั้นเรียนหรือคู่มือสำหรับระดับลูกศิษย์หรือที่ท่านใช้คำว่าสมาชิกก็น่าจะดีน่ะครับ อย่างน้อยการสื่อสารออกไปนอกวัดก็จะไม่ผิดเพี้ยน

5. กรณี การปฏิบัติ ในการให้ของที่ระลึกต่างๆ การเจิมการปิดทอง การถวายอัคนี การถวายน้ำมัน ในวันพิธีสำคัญต่างๆ นั้น ผมเห็นว่าอาจารย์หลายๆท่านยังอาวุโสทางด้านวิชาน้อย ความตั้งใจ ความเคร่งครัด การสอน การอธิบาย ไม่ค่อยชัดเจนครับ เช่น ในวันงานท่านท้าวกสิโรธ ถ้าไม่ได้อาจารย์ปู่นิตย์ มาช่วยอธิบาย ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ก็คงไม่รู้และ ไม่ทราบว่า ต้องปิดทองอย่างไร เจิมอย่างไร จึงจะเหมาะสม จึงอยากจะขอร้องเหล่าอาจารย์ทั้งหลายช่วยเมตตาลูกศิษย์เยอะๆหน่อยน่ะครับ ผมเองก็ทราบว่าอาจารย์ก็ยังเป็นมนุษย์ปุถุชน แต่เมื่อท่านเลือกที่จะเสียสละแล้วก็คงต้องพยายามหน่อยครับ คนมาใหม่หลายคนก็ถามว่า ถวายอัคนีทำไม ถวายน้ำมันทำไม ไม่ถวายได้ไหม หลายๆคน ก็ทำตามๆเขาไปโดยไม่รู้ บางคนไม่รู้แม้กระทั่ง ว่าเป็นงานขององค์เทพ ท่านใด เห็นประกาศมีคำว่า โชคลาภ เงิน ทองก็เอาแล้ว

 

 สุดท้ายนี้ถ้าคำถาม ข้อสงสัย หรือข้อเสนอแนะใดๆของผมไปกระทบหรือทำให้เกิดทุกข์กับผู้ใด ผมก็กราบขออภัยมา ณ.ที่นี้ครับ เพราะผมคิดว่าปุจฉา วิสัชนา คือ บ่อเกิดแห่งปัญญา และ ความรู้แจ้งน่ะครับ ขอขอบพระคุณในความเมตตา ของท่านเจ้าบ้าน เหล่าครูอาจารย์ และ เพื่อนๆลูกศิษย์ทุก ๆ ท่านครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น Tatcha (tatchae-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-19 21:37:39


ความคิดเห็นที่ 949 (3322595)
avatar
ป้าอ้วน

สอบถามค่ะ

หากมีการนับถือสวดมนต์นั่งสมาธิในตันตระแล้ว สามารถสวดมนต์แบบทางพุทธไปด้วยจะดีหรือไม่คะ

ขอบคุณค่ะ

เบญ

ผู้แสดงความคิดเห็น ป้าอ้วน (mali1309-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-23 09:22:13


ความคิดเห็นที่ 950 (3322606)
avatar
เจ้าบ้าน

ตั้งแต่ ได้มาที่ตันตระเทวาลัยนี้ ชีวิตเปลี่ยนไปมากความคิดก็เปลี่ยนไปครับ เมื่อรู้สึกโกรธหรือไม่พอใจก็จะละวางได้เร็วขึ้น หรือ ไม่โกรธเลย แต่ในบางครั้ง ถ้าขาดสติ หรือ รู้สึกหงุดหงิดร้อนรนแต่เช้า จะโกรธรุนแรงมาก แต่อย่างไรก็ยังเกิดความโกรธแบบนี้น้อยลงกว่าเมื่อก่อนมาก หลายๆครั้งก็แค่เหวี่ยงๆ สรุปว่าเย็นลงเยอะ และ ปล่อยวางไม่ยุ่งเกี่ยวกับชีวิตผู้อื่นได้มากขึ้น  แล้วก็เห็นทุกข์ของตัวเอง เล็กลงมากเมื่อเทียบกับความทุกข์ของผู้อื่น แต่ก็ยังมีข้อสงสัย ข้อกราบเรียนถามท่านเจ้าบ้านดังนี้ครับ

 

1.           ทำไมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นคนไม่มีความรัก เพราะไม่รู้สึกทุกข์หรือกังวล หรือทุรนทุราย หรือถ้าจะมีแว๊บๆเข้ามาบ้างก็ผ่านไปเหมือนสายลม จนทำให้บางครั้งคุยกับใครเรื่อง ทุกข์ในรักของเขา เหมือนกับบางทีพลาดไปดูถูกความรักของเขา  หรือ บางครั้งก็แรงจนไปกระตุกความคิดของเขา ยิ่งเห็นเหล่าผู้คนที่มาเทวาลัยเพราะทุกข์ในรักแล้วยิ่งรู้สึกแปลกใจ ลืมบอกไปครับผมหมายถึงทุกข์ในรักแบบชู้สาวน่ะครับ แบบว่าอยากครอบครองใครสักคน  บางครั้งคิดแบบขำๆกับตัวเองว่า หรือเราถูกสาบให้ไม่มีความรัก หรือขอเกิดมาแบบไม่ให้ไปหลงรักใคร เลยรู้สึกว่าตัวเองโชคดีไม่ต้องทุกข์

ในกรณีที่ จิตใจเข้มแข็งไม่ทุกข์ไปกับความรักนั้น ก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยครับ แต่ที่ต้องระวังคือ การ ดูถูกทุกข์ของผู้อื่นอย่างที่คุณเข้าใจนั่นแหละว่ามันไม่ควร เพราะทุกข์ของคนอาจคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน บางคนทุกข์ในเรื่องที่บางคน ไม่รู้สึกว่าทุกข์ นั่นแหละครับ เพราะพวกเราแปลก ถึงมารวมกัน ที่ ตันตระเทวาลัย ช่วยๆกันครับ คุยกันบ้างปลอบกันบ้างให้กำลังใจกันบ้าง ให้สังคมในตันตระเทวาลัย เอื้อเฟื้อกันครับ ถ้าคิดซะว่าคุณมีภูมิคุ้มกันในทุกข์แห่งรักแล้ว ก็เอาแง่คิดแนวคิด ช่วยคนอื่นครับ สาธุ สาธุ

2.           การตั้งพานเพื่อเก็บวัตถุมงคลต่างๆที่ได้จากเทวาลัยเช่นของที่ระลึกในงาน พิธีต่างๆ เหรียญองค์ เทพต่างๆ ไว้ที่หัวนอน นั้น ในการมีกิจกรรมทางเพศจะไม่เป็นการหลบหลู่องค์เทพต่างๆหรือครับ

การที่พวกเราเลือกบูชาเทพเจ้า ก็ ต้องเข้าใจเบื้องต้นก่อนครับ ว่า การบูชาเทพนั้น ยังอยู่ใน โลกีย์ภูมิ ยังคงสภาพ อยากมีอยากได้อยากเป็น ยังอยู่ ในรัก โลภ โกรธ หลง ครับ ดังนั้น เทพเจ้าผู้ อยู่ดูแลใกล้ชิดกับมนุษย์มานับร้อยนับพันปีถือว่า อารมณ์ ใคร่ หรือ กามารมณ์ เป็นเรื่อง ปกติวิสัย ครับ แต่กลับกันถ้า อยู่ในแนวทางแห่งพุทธ ถือ เป็น การฝึกฝน ในชั้นสูง อยู่เหนือ โลกีย์ อย่างนี้ ไม่สมควรครับ

3.           การผูกของมงคลต่างของตันตระเทวาลัยไว้ที่ข้อมือขวาในกรณีของผู้ชาย ในการประกอบกิจกรรมหลายๆๆอย่างในชีวิตประจำวันนั้น รวมทั้งกิจกรรมทางเพศจะไม่เป็นการหลบลู่หรือทำให้พลังที่ประจุไว้ในวัตถุ นั้นเสื่อมไป หรือไม่ครับ

ในข้อนี้ตอบได้เลยครับว่าไม่เสื่อมครับ บรมครู ที่ เรากราบไหว้เคารพ ครอบคลุมรวมถึงแม่ธาตุทั้ง4 ครับวางสูงวางต่ำ ทำกิจกรรมใดๆก็ไม่เสื่อม ครับ พื้นต่ำสุดก็เพียงธาตุ ร่างกายมนุษย์ส่วนใดก็เพียงธาตุครับ

4.           ผมมีข้อเสนอว่าน่าจะมีการสอนหรืออธิบายวิชาตันตระให้กับลูกศิษย์ให้เกิดความ เข้าใจที่ถูกต้อง และปฏิบัติให้ถูกต้องไปในแนวทางเดียวกัน แต่ไม่ได้สอนเพื่อให้เป็นอาจารย์ หรือเพื่อประกอบพิธีกรรมให้ตนเอง เพราะเนื่องจากปัจจุบันลูกศิษย์เยอะมาก อาจารย์ก็เยอะ ซึ่งเป็นธรรมดาเมื่อคนมากการสื่อสารก็ทำให้ผิดเพี้ยนได้ทั้งโดยเจตนา และไม่เจตนา เพราะอาจารย์บางท่านก็เคร่ง บางท่านก็ไม่เคร่ง บางท่านก็อาจจะ แอพพลายไปบ้างตามความเหมาะสมตามความคิดของอาจารย์แต่ล่ะท่าน ซึ่งบางอย่างก็อาจส่งผลที่ทำให้ลูกศิษย์นำไปปฏิบัติต่อแบบผิดๆ เพราะบางเรื่องอาจจะอนุโลมสำหรับอาจารย์ แต่สำหรับลูกศิษยืไม่สามารถทำได้ ในเรื่องเดียวกันนั้น และลูกศิษย์กับลูกศิษย์ ก็สื่อสารกัน แล้วก็เกิดการถกเถียงกันเพราะฟังมาจากคนล่ะอาจารย์ หรือกรณีลูกศิษย์แนะนำหรือตอบคำถามเพื่อนๆลูกศิษย์ด้วยกัน แล้วอาจารย์บางท่านมาได้ยินก็ก่อให่เกิดปัญหาการตำหนิติเตียนจากอาจารย์ท่าน นั้นๆ ดังนั้นถ้ามีชั้นเรียนหรือคู่มือสำหรับระดับลูกศิษย์หรือที่ท่านใช้คำว่า สมาชิกก็น่าจะดีน่ะครับ อย่างน้อยการสื่อสารออกไปนอกวัดก็จะไม่ผิดเพี้ยน

ข้อเสนอที่ดีอย่างนี้ ขอ รับไว้ พิจารณา ครับ(อาจารย์ ก็แค่มนุษย์ครับ มีดี มีด้อยบ้าง ขอบคุณครับที่เข้าใจ เพียงแต่ใจของคน ที่ อยากเข้ามาเพื่อ ช่วยเหลือผู้ที่ศรัทธา ในองค์เทพด้วยกัน หรือ ด้วยใจที่อยากจะเสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อเข้ามารับใช้องค์เทพที่ตนรัก หรือ แค่เพื่อได้ใกล้ชิดกับองค์เทพ ก็สามารถขอเป็นผู้ช่วยอาจารย์ได้แล้วครับ แต่ โดยภายในตันตระเทวาลัยแล้วการแต่งกลายของอาจารย์ที่ผ่านการสอบ หรือ ผู้ช่วยอาจารย์ เหมือนกันครับ จะดูออก จาก ประคำเท่านั้น จึงทำให้ สับสน เรื่องความเคร่งครัดไปบ้าง ขอบคุณครับที่เข้าใจ)

5.           กรณี การปฏิบัติ ในการให้ของที่ระลึกต่างๆ การเจิมการปิดทอง การถวายอัคนี การถวายน้ำมัน ในวันพิธีสำคัญต่างๆ นั้น ผมเห็นว่าอาจารย์หลายๆท่านยังอาวุโสทางด้านวิชาน้อย ความตั้งใจ ความเคร่งครัด การสอน การอธิบาย ไม่ค่อยชัดเจนครับ เช่น ในวันงานท่านท้าวกสิโรธ ถ้าไม่ได้อาจารย์ปู่นิตย์ มาช่วยอธิบาย ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ก็คงไม่รู้และ ไม่ทราบว่า ต้องปิดทองอย่างไร เจิมอย่างไร จึงจะเหมาะสม จึงอยากจะขอร้องเหล่าอาจารย์ทั้งหลายช่วยเมตตาลูกศิษย์เยอะๆหน่อยน่ะครับ ผมเองก็ทราบว่าอาจารย์ก็ยังเป็นมนุษย์ปุถุชน แต่เมื่อท่านเลือกที่จะเสียสละแล้วก็คงต้องพยายามหน่อยครับ คนมาใหม่หลายคนก็ถามว่า ถวายอัคนีทำไม ถวายน้ำมันทำไม ไม่ถวายได้ไหม หลายๆคน ก็ทำตามๆเขาไปโดยไม่รู้ บางคนไม่รู้แม้กระทั่ง ว่าเป็นงานขององค์เทพ ท่านใด เห็นประกาศมีคำว่า โชคลาภ เงิน ทองก็เอาแล้ว

ครับอย่างที่ได้อธิบายไป นะครับ ข้อนี้ ผม ต้องน้อมรับไว้ครับ จะพยายาม ให้ดีขึ้น เพราะ ตันตระเทวาลัย เน้น สำคัญที่ความสามารถเป็นหลัก ขอให้ฝึกฝนจนเก่งมีความสามารถ ช่วยเหลือ ผู้คนที่ศรัทธาในองค์เทพได้สำเร็จ ก็พอ ไม่ค่อยได้เน้น เรื่องคุณธรรม และจริยธรรม เท่าไหร่ เนื่องจาก คนจะฝึกวิชชาตันตระเทวาลัยได้ดีนั้นมีน้อยและมักเป็นคนแปลกๆที่เข้าสังคมไม่ค่อยเก่งเป็นพื้นฐานเดิม ส่วน เรื่องความเคร่งครัด นั้นยิ่งยากเพราะด้วย ศีล และ ปฏิ ในการฝึกฝนวิชา นั้นแตกต่างกันไปไม่เหมือนกัน ทำให้อาจารย์ดูแปลกๆไปบ้างไม่เหมือนกันในแต่ละคนและในแต่ละวัน เรื่องสำรวม นั้นยิ่งยากครับเพราะทุกคนถูกฝึกมา ให้มีสมาธิ จุดเล็กๆ ในความวุ่นวาย เพื่อ การใช้พลัง สามารถกระทำได้ แม้ในสถานการณ์ที่ วุ่นวาย เรื่องพิธีที่จัดเนื่องจากเทพเจ้าที่พวกเราศรัทธา กราบไหว้มีมากมาย จึงจัดงานกันค่อนข้างบ่อย และเมื่อบ่อย ก็เลยมีข้อผิดพลาดบ้าง ต้องขออภัยมา ณ.ที่นี้ ด้วยนะครับ

 

 สุดท้ายนี้ถ้าคำถาม ข้อสงสัย หรือข้อเสนอแนะใดๆของผมไปกระทบหรือทำให้เกิดทุกข์กับผู้ใด ผมก็กราบขออภัยมา ณ.ที่นี้ครับ เพราะผมคิดว่าปุจฉา วิสัชนา คือ บ่อเกิดแห่งปัญญา และ ความรู้แจ้งน่ะครับ ขอขอบพระคุณในความเมตตา ของท่านเจ้าบ้าน เหล่าครูอาจารย์ และ เพื่อนๆลูกศิษย์ทุก ๆ ท่านครับ

เห็นด้วยครับ คำถามคือ หนทางหนึ่งเพื่อความเข้าใจ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าบ้าน (59-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-06-23 10:09:47



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 [19] 20 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.