ReadyPlanet.com


สาระพันทุกข์ สุข ของอสินะตันตระ
avatar
asinatantra


เนื่องจากกระทู้สาระพันทุกข์สุข เดิมถึงวาระที่ต้องจากไป  . . จึงได้โอกาสตั้งกระทู้บ่นใหม่ คราวนี้ใส่ชื่อตัวเองไว้เลย จะได้ไม่ต้องละอายใจที่รู้สึกว่า มีทุกข์สุข อยู่กะเค้าคนเดียว  หุ หุ ใครที่แวะมาอ่านก้อเตรียมใจ ถัดจากนี้ไป ผมก้อจะบ่นของผมไปเรื่อย ^_^ - -   eternity complain > > >


ผู้ตั้งกระทู้ asinatantra โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2006-05-30 09:49:21


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 [11] 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 501 (2781645)
avatar
asinatantra
image

นี่ อย่าเขียนให้ผมรู้สึกถึงความรับผิดชอบขนาดนั้นจิ ..

บุคคลที่ต้องขอบคุณจริงๆ แล้วต้องเป็นเจ้าบ้านและ 4 Kings Co.,Ltd ซึ่งเป็นผู้ พลัก ดัน ดึง ลาก ด่า สอน ปลอบ ฯลฯ ทุกอย่างมาตั้งแต่ผมอายุ 16 จนผมเป็นคนดีมีเหตุผลและเจิรญเวช อย่างถึงที่่สุดแล้วในชาติภพนี้ ผ่านความจริงแท้ รัก โลภ โกธร หลง โง่ งม งาย ของตนเองมาหลายอย่างจนอันที่พึ่งเรียนนี้คือ เกือบ แห้งตาย5555 ทำให้เห็นตนเองว่า การจะแห้งตายมันเป็นไง และอะไรที่เราควรจะทำต่อไปให้เป็นประโยชน์ต่อคนตันตระในขณะที่ยังพอมีเวลา   ตัวผมเองเป็นคนเอาแต่ใจตนเองเกินกว่าจะเป็นอาจารย์(คือแบกคนอื่น)ได้  งี่เง่าเอาแต่ใจ หากไม่มีเจ้าบ้านและ ท่านเหนือชีวิตทั้งหลาย ผมคงหนีไม่ลองรอบใหม่หลายรอบแล้วววว

ที่เขียนถึงการกลับบ้าน เพราะผมเบื่อที่นี้เหลือเกิน หากครั้งนี้เดินจนจบเกมส์ได้ตามข้อแม้ที่มี   ผมจะไม่กลับมาเหยีบที่นี้อีกแล้ว  จึงอยากบอกให้ทุกตันตริกรู้กันว่าให้ เมตตา ไว้หากเจอเพื่อนก็ให้พยายามพากลับบ้านให้ได้ เอาใจเค้าใส่ใจเรา หากเราถูกทิ้งอยู่ที่นี้ในโลกใบนี้(ที่เจ้าของเค้าเอาความสุขคืนไปหลายปีแล้ว)เพราะเราเกิดมาชาตินี้ไม่ฉลาดนัก เราจะรู้สึกอย่างไร?  เพราะเมื่อเวลามาถึงคนวางแล้วเกือบทุกอย่างแบบผมจะไม่หันกลับมาดูเลยนะว่าใครมาทันมาไม่ทัน...จะ เพ่นแน๊บกลับบ้าน แบบ ไปแล้วโว้ยยยยยยย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-20 13:37:33


ความคิดเห็นที่ 502 (2782207)
avatar
asinatantra
image

เงินสองร้อยกับเวลายี่สิบนาที..

เมื่อวันเสาร์ไปเดินเล่นมาก็เดินผ่านร้านขายของเด็กเล่นเห็นพ่อแม่พี่น้อง มุงกันมากมาย เอามั่ง โหร้านเค้ามีสาระพัดอย่าง..เอ ไรดี นะ อะ! นึกถึงสมุนที่นอนขึ้นอืดอยู่บ้านจนเป็นเต่าเพราะเบื่อที่ผมไม่เล่นด้วย  ปรี๊ดดด เกิดอารมณ์อยากเป็นคนดี พุ่งปรี๊ดขึ้นสมอง บอกคนขายว่าขอตัวอะไรก็ได้ที่ใส่ถ่านแล้วมันส่งเสียงและเดินได้ ..

อะ ฮ้า ได้จระเข้สีเขียวตัวเขือง ๆ มาหนึ่งตัวราคา 200 พาลเริ่มนึกในใจว่าคงจะสนุกปลุกสมุนหมูกับสมุนเบบี๋ให้หายเป็นเต่าได้แน่นอน ลั่น ลั่น ล่า  กลับบ้านมาก็วิ่งหาถ่านสี่ก้อนอีกเกือบร้อยใส่จระเข้น้อยแล้วเอาลงวางกับพื้น โอ๊ะ โห ได้ผลแหะ สมุนเบบี๋แตกกระจายกระโดดจากพื้น บัก บัก บัก สมุนเบบี๋เห่าบ้านแตกแบบไม่ใช่เสียงในลำคออีกต่อไปหมุนรอบจะเข้เขียว กระโดด ดึง ๆ  โอ้ยยย ผมสนุกมากขำน้ำตายืดเลย ..บัก บัก บัก สมุนเบบี๋เห่าไส้แตกกับจระเข้ที่เดินไปมาตรงที่จอดรถ แล้วตามด้วยเสียง ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ  สมุนหมูผู้เดินตามมาอย่างสุขุมจากในห้องนอนหันมาเอาหัวชนสมุนเบบี๋แย่งของเล่น ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก สมุนทั้งสองฟัดกันหัวหูแดง น้ำลายกระจายเต็มพื้น สรุปสมุนหมูชนะเพราะเป็นพี่ สมุนเบบี๋ยอมถอย..แล้วสมุนหมูก็หันกลับมาเอาขาหน้าเหยียบหางจระเข้เขียวไว้กับพื้่น หมดทางจระเข้เดินไม่ได้แล้ว แล้วสมุนหมูหัวใจชมพูของผมก็เอาปากงับหัวจระเข้เขียวดึงทีเดียวเอง หัวจระเขียวหลุดออกมาเลย หมดดดด จบ หมดสภาพ จระเข้เขียวตาย มีแต่เสียงเพลงแต่เดินไม่ได้อีกต่อไป เหลือแต่เศษจระเข้เขียวไม่มีหัว เดินไม่ได้ ให้น้องเบบี๋แทะเล่นต่อไป...เวร ของ กรรม!!! ทั้งหมดนั้นไม่เกินยี่สิบนาที

ความสนุกของผมแลกกับเงินสองร้อย ซื้อมาได้ไม่ถึงยี่สิบนาที โถถถถถ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-20 14:04:12


ความคิดเห็นที่ 503 (2782879)
avatar
จักราสิทธิ์ตันตระ
เรียนถามหน่อยคร้าบ การที่คน 2 คนอยู่ด้วนกันมีเหตุทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องเนี่ย ผมลองหยิบทุกข์มาทำความเข้าใจถึงสิ่งต่างๆดู และพอจะเข้าใจแล้วตามประสาเด็กโง่ ถ้าเป็นตันตริกก้อควรจะวางให้ได้ ผมเข้าใจถูกรึเปล่าครับ แล้วกลับมาเข้าเรื่อง แล้วการประณีประนอมกับการเลิกคบกัน การเลิกคบกัน มันคือการวางใช่มั้ยอะคับ
ผู้แสดงความคิดเห็น จักราสิทธิ์ตันตระ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-20 14:36:57


ความคิดเห็นที่ 504 (2784056)
avatar
จักราสิทธิ์ตันตระ
หนักมาก... ทุกข์ในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ทำ... แล้วโดนกล่าวหาจนถึงกับจะต้องเลิกกัน...
ผู้แสดงความคิดเห็น จักราสิทธิ์ตันตระ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-20 16:22:35


ความคิดเห็นที่ 505 (2784073)
avatar
asinatantra

การเลิกกัน ถือเป็นการเลือกในการแก้ปัญหาของคุณครับ  การวางคือการวางทุกข์ลงหากมีแฟนแล้วมีทุกข์ก็วางแฟนลงส่วนการวางแฟนลงจะวางทั้งยังคบกันอยู่  หมายถึงไม่ว่าแฟนจะทำอะไร หรือทะเลาะกันขนาดไหนก็ไม่ทำให้คุณรู้สึกทุกข์ใจอีก หรือวางแบบตัดสินใจเลิกเลยก็อยู่ที่ความถนัดของแต่ละคน  แต่การวางลงนั้นๆ ต้องไม่ทำให้เกิดทุกข์กับคุณครับถึงจะเรียกว่าดี   หากเลิกแล้วเสียใจแทบตายชักดิ้นอยู่ไม่ได้กินไม่ได้ป่วย เศร้า เป็นระยะเวลานาน ๆ โดยไม่ดีขึ้นเลยหมายถึงคุณยังวางไม่ได้ ส่วนหากเลิกแล้วโดนแฟนด่า โดนญาติแฟนด่า โดนสังคมประณาม รายได้หายไปครึ่งนึงแต่คุณไม่ทุกข์กับมันก็หมายถึงคุณวางลงได้ ..

เพิ่มว่า ระหว่างเลิกหรือไม่เลิก ขอให้นึกอีกสมการหนึ่งด้วยว่าคุณมีลูกหรือเปล่า ลูก คือความถูกต้องซึ่งไม่มีส่วนในการอยู่หรือเลิกรักกันระหว่างคุณกับแฟน ฉะนั้นในกรณีหากมีลูก อย่าทำอะไรที่กระเทือนต่อผู้ไม่ผิดและคนนั้นคือความถูกต้องของคุณ  การเลิกกันของพ่อแม่ ก็สามารถทำให้เกิดได้โดยไม่กระทบกระเทือนฝ่ายลูกได้..

คนอยู่ด้วยกันสองคนแบบมนุษย์ อย่างไรก็ต้องทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติมาก เพราะมนุษย์รู้จักเสพแต่ข้อดี แล้วนานเข้าก็นำความชินมาใช้และก็นำมาซึ่งช่วงเวลาไม่ถนอมใจกัน...ทำให้ทุกข์กันมากมาย เช่น ของเธอ ของฉัน ของเรา ทำไม เพราะอะไร วุ่นวายตลอดเวลา..จริงมั้ย

แต่ตันตระก็สอนว่า หากวางเป็นต้องหยิบให้เป็นด้วยแต่อย่างไรก็ต้องหัดวางก่อน..

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-20 16:33:34


ความคิดเห็นที่ 506 (2784100)
avatar
จักราสิทธิ์ตันตระ
โดนบอกเลิกซะแล้ว เร็วจังเลย ว่าจะปรึกษาท่านซักหน่อย แต่ไม่ทัน แหะๆ วางก้อได้...
ผู้แสดงความคิดเห็น จักราสิทธิ์ตันตระ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-20 17:01:02


ความคิดเห็นที่ 507 (2784105)
avatar
จักราสิทธิ์ตันตระ
ผมทำอะไรไม่ได้เลย... โชคดีที่ยังไม่มีลูก... ขอบคุณท่านสำหรับคำแนะนำดีๆนะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น จักราสิทธิ์ตันตระ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-20 17:05:47


ความคิดเห็นที่ 508 (2784882)
avatar
คนแปลก แปลกคน

เศร้าใจจังมีบุญที่ได้พอเจอกับตันตระเทวาลัยและท่านอาจารย์ทุกคน แต่ไม่มีวาสนาที่จะได้ศึกษาตันตระ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแปลก แปลกคน ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-21 09:43:16


ความคิดเห็นที่ 509 (2785603)
avatar
asinatantra
ทำไมละครับคุณ คนแปลก แปลกคน..อยู่ต่างจังหวัดหรือครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-21 15:13:57


ความคิดเห็นที่ 510 (2787454)
avatar
คนแปลก แปลกคน

ถูกต้องแล้วขอรับ เกิดเป็นคนต่างจังหวัดช่างน่าสงสารจังเลย อิจฉาคนกรุงเทพจัง อือ อือ อือ......

ผู้แสดงความคิดเห็น คนแปลก แปลกคน ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-22 10:53:35


ความคิดเห็นที่ 511 (2787630)
avatar
asinatantra
image

มองแง่ดีงว่า กรุงเทพก็เป็นต่างจังหวัดของจังหวัดที่คุณอยู่ก็ได้ครับ..

เราแค่อยู่กันคนละที่เท่านั้นเอง พวกเรายังอยู่ที่นี้อีกหลายปีไว้วันหยุดยาว ๆ ก็แวะมาเจอได้ครับ  ในอนาคตจะพยายาทำให้เทวาลัยเป็นป่าให้ได้มากเท่าที่ทำได้ซึ่งตอนนี้เจ้าบ้านก็ได้ปลูกต้นไม้ใหญ่ๆ ไว้หลายต้นมากแล้วคงรอเวลาให้พวกเค้าแข็งแรงเท่านั้นเอง  อย่างตรงที่เป็นสนามรถบังคับในปัจจุบันต่อไปในอนาคตอันใกล้ ๆ นี้ก็คงเป็นต้นไม้หมด  การอยู่กับธรรมชาติพบปะญาติพี่น้องเพื่อนฟูง จะทำให้จิตสงบลง  จนบางทีคุณ ๆ ที่ผ่านมา หรือ ที่มากันทุกวัน จะได้มีรอยยิ้มขึ้นบ้างและเผล่อๆ อาจจะเห็นใบไม้รอบๆตัวไหวอยู่ได้ครับ...

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-22 12:32:12


ความคิดเห็นที่ 512 (2787666)
avatar
wasinatantra
image

เคยมีคนบอกดิชั้นว่าคนที่คิดว่า"น่าเบื่อจังไม่มีอะไรทำเลย"คือคนที่ขี้เกียจเพราะจริงๆๆเเร้วชีวิตคนเรามีอะรัยให้ทำตั้งมากมายเเต่กลับไม่ทำ....อาจเป็นกิจวัตประจำวันง่ายๆรอบๆๆตัวอย่างเช่นถ้าเบื่อก็หางานทำสิหรือถ้าเบื่อลองมองรอบๆๆห้องตัวเองสิว่ารกมั้ย??ลองเก็บกวาดทำความสะอาดสิจะได้มีอะรัยทำ...จะได้ไม่เบื่อ.....เเละเเร้วคำสอนนี้ก็ย้อนมาโดนดิชั้นอย่างจัง!!!!เพราะตอนช่วงระหว่างปิดเทอมใหญ่ครั้งนี้ดิชั้นได้มีเวลาว่างมากมายถึง3เดือนกว่าๆๆๆที่จะได้พักผ่อนอย่างงงมากกกก(เพราะจบม.6เข้ามหาลัย)ในหลายๆๆครั้งดิชั้นก็จะชอบมี.....ความคิดนี้เเว๊บเข้ามาในหัวว่า"น่าเบื่อจัง"ไม่เห็นมีอะรัยทัมเรยวันๆๆก็ได้เเต่นอนๆกินๆไปวันๆเเละมันก็ทำหั้ยดิชั้นนึกถึงคำสอนคำนี้ขึ้นมาว่า...คนที่บอกว่าไม่มีอะรัยทัมคือคนขี้เกียจ!!!!เเทบจะทันทีทันใดนั้นดิชั้นก็ลองคิดดูว่าเเร้วเราจะทำอย่างไรให้ไม่คิดว่าไม่มีอะไรทำเลยไปช่วยเเม่ทำงานดีมั้ยหรือทำความสะอาดห้องหรือเราจะอ่านหนังสือ!!!!...เเละก็เเทบจะในทันทีที่ดิชั้นคิดว่าจะทำอะไรดิชั้นก็กลับเลือกที่จะล้มตัวลงนอนเเละบอกกับตัวเองว่า"ก็ชั้นขี้เกียดหนิ"อย่างน้อยชั้นเบื่อก็ดีกว่าเหนื่อยหละน่าๆๆๆ5 5 5 5 เเง้มๆๆPS*นี่คือคำกล่าวของคนที่มีความสุขอยู่บนความขี้เกียดของตนก๊ากๆๆๆ*

ผู้แสดงความคิดเห็น wasinatantra ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-22 12:51:37


ความคิดเห็นที่ 513 (2787706)
avatar
จักราสิทธิ์ตันตระ
ไม่มีอะไรทำ แล้วมีความสุข ก้อดีจะตายไปแร้ว
ผู้แสดงความคิดเห็น จักราสิทธิ์ตันตระ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-22 13:26:32


ความคิดเห็นที่ 514 (2787818)
avatar
asinatantra
image

อย่างนี้ก็ต้องถือเป็น เวง เป็น กรรม ต่อไป ของคุงพ่อ คุงแม่ ของนู๋วศินะตันตระ ก็ละกานนน เพราะนู๋เกิดมาขี้เกียจได้ใจจริง ๆ ..โอ้พรเจ้าช่วย กล้วยทอดดด

ตราบใดที่นู๋ยังไม่ผิดต่อความถูกต้องของตนเอง รับรองได้ว่านู๋จะอยู่ขี้เกียจของนู๋แบบชิว ๆ แบบนี้ไปนาน ๆๆๆๆๆๆ

จริงปะ 5555555555

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-22 14:31:15


ความคิดเห็นที่ 515 (2791833)
avatar
asinatantra

สิ่งที่จากไปและสิ่งที่กำลังมา..

หลายปีมากแล้วผมได้ยินเจ้าของความสุขได้เอาความสุขคืนไปจากโลกใบนี้แล้ว ตอนนั้นยังคงไม่โตเท่าวันนี้และยังไม่เข้าใจในวิมุติเท่าวันนี้ ตอนนั้นก็ได้ฟังแต่มองไม่เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภายหน้า...แค่ไม่กี่ปีผ่านมาก็พอจะมองภาพออกว่า ความสุขมันจากไปแล้วจริง ๆ หลงเหลือแต่ความวุ่นวายและทุกข์ใจ  ผมเคยนึกว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับมนุษย์โลกนี้ อุกาบากต์ตกมาชนเหมือนหลายล้านปีก่อนหรือไงนะ หมดเผ่าพันธุ์หรือไงนะ แต่ก็พาลนึกไปถึงหนังอมากาด่อนอันโด่งดังถึงการส่งยานอวกาศออกไปช่วยโลก..จริงๆแล้วการทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์หายไปมันยากน้อยกว่าการทำให้มนุษย์ไม่มีความสุขซะอีก   มนุษย์พัฒนาไปมากจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ จนสามารถทะลุออกไปนอกบรรยากาศโลกซะด้วยซ้ำ  แต่เมื่อมองกลับเข้าไปมนุษย์แต่ละคนกลับว่างเปล่าและหาไม่เจอจุดหมาย  ทุกวันนี้พูดกันมากมายเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก มองเห็นการช่วยกันประหยัดโน้นนี้สาระพัด  ไหนจะพลังงานที่กำลังจะหมดแบบนับถ้อยหลังส่งผลให้ราคาอาหารเพิ่มมากขึ้น โดยที่รายได้ไม่เพิ่มขึ้นเลย  ต่อไปจะอยู่กันอย่างไรให้มีความสุข ... มนุษย์ไม่รู้จักพอ

การพัฒนาภายนอกอย่างเดียว ครอบครองไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการพัฒนาด้านใน แน่นอนมันก็เหมือนลูกโป่งพองตัวซักวันมันก็แตกเพราะภายในไม่มีคุณภาพ อาจจะเป็นมุมมองแปลกแต่ผมคิดว่าพวกเราผลิตมนุษย์ขึ้นมามากเกินไป ผลิตด้วยจำนวนมากกว่าคุณภาพ แน่นอนอยู่แล้วว่า เมื่อมีมนุษย์มากขึ้นซึ่งตอนนี้ก็หกพันล้านเห็นจะได้ก็ย่อมมีความอยากครอบครองมากขึ้นๆ ไปด้วย แต่ภายในที่ว่างเปล่าไร้ซึ่งการอบรมสั่งสอนที่ดี ย่อมส่งผลให้มนุษย์ไร้คุณภาพมีอยู่มากขึ้น และ มากขึ้น และก็ไม่ใช่ใครที่ไหนที่สามารถฆ่าเผ่าพันธุ์มนุษย์นี้ได้นอกจากมนุษย์ด้วยกันเอง ...

ยามว่างผมนั่งมองสัตว์ต่างๆ ที่มีบนโลกนี้ มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่สามารถทำให้สัตว์ประเภทอื่นมาเป็นทาสรับใช้โดยการอ้างถึงความชอบธรรมต่างๆ ได้  มดไม่สามารถจ้างหรือบังคับขื่นใจแมลงให้กลายเป็นเครื่องบินขนส่งสิ่นค้าให้พวกมดได้  ช้างไม่สามารถจ้างหรือบังคับขื่นใจให้มดแคะเล็มเท้าที่มีเศษดินติดอยู่ให้ได้แต่มนุษย์ทำได้  มนุษย์สามารถบังคับขื่นใจช้างให้มาลากซุก หรือ แสดงตลกตามงานได้ เป็นต้น  คิดดูสิว่ามนุษย์เป็นสัตว์ที่ฉลาดกว่าขนาดไหนแต่ ความฉลาดนี้แหละคือระเบิดเวลาของการฆ่าเผ่าพันธุ์นี้ นี่เอง

ผมเคยได้ยินเรื่องนี้กับหูว่า การฆ่าเผ่าพันธุ์นี้ไม่ยากเลยแค่เอาความสุขไปจากมัน ๆ ก็จะเริ่มฆ่ากันเองเพราะแย่งชิงเพราะมนุษย์รู้มากกว่าเผ่าพันธุ์อื่น รู้ที่จะแย่งชิง รู้ที่จะกอบโกย โลภ ละโมบ ต่าง ๆ นาๆ เกินกว่าธรรมชาติกำหนด ...อืมมม วันนี้นึกถึงเรื่องนี้ก็เลยเขียนเอาไว้ว่า  วันแห่งความสุขมันจากไปแล้ว แล้วใครหละจะเป็นผู้มีความสุข  มีครับมีแน่นอนแต่คงจะน้อยมากที่รู้จักในความสุขของตนเองแบบแท้จริง พอดีให้ดีและดีให้พอเมื่อพอแล้วจึงดี  อะไรคือความจริงที่พอดีสำหรับมนุษย์  มันเหมือนจะถูกคัดเลือกมากกว่าชนชั้นในสมัยเก่าก่อนซะอีก..

ต่อไปจะอยู่อย่างไรในสถานะการณ์ที่ยากขึ้นๆ และยากขึ้น หากไม่เริ่มหัดมองให้เห็น และพัฒนาคุณภาพของตนเองมากขึ้นเปิดกว้างเห็นถึงชีวิตตนเอง อย่าเพ้อฝันเกินพอดี  อย่าทำลายล้างเกินพอดี เวลามันเริ่มติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก เข้ามาทุกที...

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-05-24 10:04:57


ความคิดเห็นที่ 516 (2828745)
avatar
asinatantra
image

โครงการปลูกป่า...

วันจันทร์ตอนเย็น ฝนครึ้มฟ้าหนาตาเชียว ลมเย็นๆ พัด ผ่านทำให้ชื่นใจ เลยเดินไปดูต้นไม้แถวปรัมอัคนีด้านนอกด้วยมีต้นไม้ถูกใจอยู่หลายต้น ดูโน้น เด็ดนี้ แล้วก็สุขใจกับความสงบของต้นไม้ต่างถิ่นที่มาลงหลักปรักฐานที่นี้  ตั้งแต่ท่าน 1.5 เมตตาเอาใสมาให้ใช้ยืดชีวิตต่อไปอีกครานี้ มาถึงตอนนี้ถึงจะใช้ใสระบบใหม่ยังไม่ได้ดีเท่าไหร่แต่ก็ทำให้กลับมาเห็นต้นไม้ใบหญ้าคุยกันอีกครา ซึ่งสำหรับผมมันสำคัญมากกกก  เดินดูอาจารย์สวดกันก็นึกขำในความน่ารักว่า หันมามองผมเดินมาแล้วก็ขยับขานั่งให้เรียบร้อย ผมก็แอบนึกขำในใจว่านี้ผมดูดุขนาดนั้นเลยเหรอ ตรองไป ตรองมา ก็เห็นท่าจะจริงแหะ ผมก็ดุจริงๆ นั้นแหละ!!!  พอเดินวนกลับมาถึงลานจอดรถก็หันหน้าแหงนมองตึกคอนโดที่แลเห็นได้จากเทวาลัยเพราะความสูง เห็นไฟสีเหลืองเปิดอยู่ตามหน้าต่างห้องต่างๆเหมือนโคมไฟประดับฟ้าสีดำ ก็นึกถึงว่าผู้คนเหล่านั้นที่ต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมละฟ้าจะมีโอกาสเห็นใบไม้ไหวมั้ยนะ เค้ามีความสงบกันอยู่มั้ยนะ ..ชีวิตปัจจุบันและต่อไปช่างโหดร้ายนัก...ยืนมองทอดอารมณ์อยู่ซักพักก็เจอเจ้าบ้านกลับเข้ามาพอดีท่านว่าทำอะไรอยู่ ผมก็ตอบเดินดูต้นไม้ย้ายบ้านมาอยู่กับเรากำลังมีความสุข...เจ้าบ้านบอกว่าวันพุธจะมีต้นไม้มาส่งอีก อยากได้ต้นไม้อะไรอีกบ้าง ...เย้ยยยย ผมร้องในใจอย่างดัง รอคอยอย่างตื้นเต้น..

วันพุธมาถึงเจ้าบ้านเข้าเทวาลัยตามนัดแต่บ่าย มาบัญชาการรอรับต้นไม้ทั้งต้นใหญ่มากที่สุดดดดด ใหญ่มาก และรองลงมาไล่กันไปจนถึงต้นละหนึ่งนิ้ว น่ารักสุดๆ บ้านผมได้ต้นไม้เพิ่มไปอีกสามต้นสวยถูกใจมาก บ้านแม่มนุษย์ได้ไปหนึ่งต้น บ้านป้าอ้วนได้ไปหนึ่งต้นของน้องปุ๊ก(ปิ่น)ยังไม่ได้เพราะยังอยู่ในระยะยืมดูอยู่ คริคริ..  ผมล่ากลับบ้านไปตอนเกือบๆ สองทุ่มด้วยยืนดูเค้าปลูกกันแต่บ่ายแก่ๆ จนขาแข้งเหนื่อยแทบแปลงร่าง คนสวน และ นายยศ และอีกหลายคนคงจะอยู่อีกกันจนดึกมากเชียว คร่อก คร่อก คร่อกกกก  พอเช้าตื่นมารีบเปิดหน้าต่างดู โอ้ววว เขียวบึ้มจริงๆ ด้วย รีบเลี้ยงหมูอาบน้ำปะแป้งมาเทวาลัยเลยเชียว และแล้วก็จริงอย่างคาด โอ้วพระเจ้าจอร์จมันยอดมากกกก  เชียวไปหมดเพื่อนใหม่น่ารัก ๆ เต็มไปหมดเลย  ....

ผมอาจจะเป็นพวกบ้าธรรมชาติเกินคนอื่นเค้าแต่ก็คิดมาเสมอว่าเวลาเดินดูโน้นดูนี้อยู่ในเทวาลัย บางทีเจอคนทุกข์ใจนั่งร้องไห้อยู่ หรือ นั่งน่าเศร้าที่เมื่อเห็นแล้วก็ปวดใจ ก็อยากจะทำให้คนที่มีวาสนามาเจอกันในชาตินี้ได้นั่งในที่สงบ ที่ๆ มีพลังของธรรมชาติไหลเวียนอยู่มากๆ อยากให้เงยหน้ามาเห็นใบไม้ อยากให้ได้กลิ่นดอกไม้หอมเย็นๆ ที่เลือกมาให้ เมื่อเห็นพวกเค้าพวกเค้าก็เห็นเรา จิตอาจจะได้มีโอกาสเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ที่จะชี้ถึงทางออกของชีวิตได้บ้าง พวกเค้าเหล่าต้นไม้ใบหญ้าเค้าสงบสุขขนาดนี้มานานกว่าเรามากมายนัก  แล้วพวกเราหละเผ่าพันธุ์มนุษย์ แข็งแรงกว่าเค้าตั้งเยอะ ฉลาดกว่าตั้งเยอะ มีโอกาสกว่าตั้งเยอะ  ฉะนั้นพวกเราก็ต้องหาความสุขสงบให้ได้กว่าพวกเค้าสิ จริงมั้ย...

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-05 10:03:32


ความคิดเห็นที่ 517 (2835731)
avatar
asinatantra

fact is always hurt...

but things without fact it"ll never bring the real way to walk..

perhaps peoples prefer to be time to time unhappy than to get hurt by knowing the fact

what can I do ? ? ?

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-07 21:07:52


ความคิดเห็นที่ 518 (2847570)
avatar
asinatantra
image

ความคิดที่ห่างหาย

เมื่อวันพิธี 6 เดือน 6 นั่งคุยกับนู๋จู้ และ นู๋โอ๊ต ในเทวาลัยอยู่นู๋บุ๋มที่เดินผ่านมาทักทายและยืนคุยกันถามผมว่า "ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่เห็นผมเขียนอะไรเลยเข้ามาเช็คดูทุกวัน"  ผมก็ตอบไปว่าที่เขียน ๆ มายาวขนาดนี้ผมก็ว่าผมเข้าขั้นพล่ามแล้วนะ 555..แต่ก็มานั่งย้อนคิดถึงคำถามนี้แล้วก็บอกกับตัวเองว่าจริงแหะ ทำไมไม่เขียนหว่า?  ในระยะสองปีนี้ ผมค่อยข้างแก่ขึ้นเร็วมากอาจจะเกิดจากการเข้าอปิตะที่ 1 ครั้งสุดท้ายที่ผ่านมานี้ที่ทำให้เห็นรอบชีวิตครบวงจรของหลายๆ สิ่งที่มันหมุนเดินเป็นวงกลมทำให้พอเห็นอันนี้ก็รู้ว่าจะเห็นแบบนั้น พูดแบบนี้แล้วก็จะพูดแบบนั้น  มันเลยเกิดอาการปลงๆ อยู่เป็นนิจ ๆ และถามตนเองว่าทำอะไรไปเพื่ออะไร  คือหมายถึงว่าเมื่อเห็นว่าขยับแบบนี้มันก็จะมาจบลงที่แบบนี้ผมก็เลยเลิกขยับซะ เพราะเข้าใจวงจรมัน!และคงเหลือไว้เหมือนกิจกรรมประจำ ๆ โดยไม่ต้องใช้อยาตะนะมากในการขยับ  ซึ่งมานึกดูก็มักจะเป็นปัญหาของตันตริกผู้เรียนด้านนี้อยู่คือ วางซะมากเกิน  และไม่มีอะไรให้สนใจที่จะทำนอกจากสิ่งที่นำมาถึงความสุขถาวร   จริงๆ ก็ต้องขอบใจนู๋บุ๋มนะที่มาถามให้ได้เห็นว่าผมไม่ค่อยได้เขียนอะไรเหมือนเดิม ซึ่งหมายถึงไม่มีอะไรทำให้ผมรู้สึกอยากเอามาเขียนไม่มีอะไร interesting ผม " เวรของกรรมและกรรมของเวร" คงไม่มีคำใดเหมาะกับเรื่องนี้เท่าประโยคดังกล่าวจริงๆ   รู้มากก็เป็นก้อนหินมาก รู้ในสิ่งที่ไม่มีใครเข้าใจก็เลยไม่มีใครถกด้วย  แถมมีโลกส่วนตัวสูงอีกก็เลย ไปกันใหญ่ วันๆ ได้แต่เดินดูต้นไม้ ฟังธรรมชาติคุยกันสนุกกว่า เพี้ยนจากการเป็นคนไปกันใหญ่...เอาเป็นว่าผมจะรับเอาข้อถามของนู๋บุ๋มมาทำคือจะเขียนอะไรให้มากขึ้น  เอาเป็นว่าจะkeep บ่นต่อไป และก็จะหาอะไรแกล้งคนอื่นต่อไป นะ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-12 10:09:08


ความคิดเห็นที่ 519 (2847638)
avatar
asinatantra

การวางตัวให้เจอสุขแบบพอดี

หลายอาทิตย์หรือเดือนก่อน ลูกหมาดำตาบอดเดินเข้ามาส่งการบ้านที่ผมใช้ให้หาข้อมูลให้ ก็เลยได้มีโอกาสคุยกันในเรื่องการใช้ชีวิต  พอดี  ผมบอกลูกหมาดำว่าสิ่งที่ลูกหมาดำกับลูกหมาดำขนแดง(ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนสีขนแล้ว) กระทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ข้ามเวลาและวงจรชีวิตของคนทั่วไป ไม่แปลกหรอกที่ในบางคราอาจจะทำให้รู้สึกพลาดอะไรบ้างอย่างไป แต่ผมก็บอกไปว่า  สิ่งที่ทั้งคู่เดินอยู่คือความสุขที่มนุษย์ค้นหาตลอดชีวิตแต่เพียงแค่มันมาก่อนเวลาเท่านั้นเอง  (เวลาคือสิ่งที่ตันตระถนัด55555)

มนุษย์เราตั้งแต่เกิด เติบโต เรียนหนังสือเพื่อรู้และเอามาใช้ในเวลาทำงานหาเลี้ยงชีพ เรียนจบมาทำงานหาเงินเลี้ยงปากท้อง สุขบ้างทุกข์น้อยบ้างทุกข์สาหัสบ้าง  มาถึงวัยหาคู่เพื่อมีคนที่ไว้วางใจอยู่ข้างเคียง ซื้อที่อยู่อาศัย เป็นหนี้ สร้างครอบครัว ทะเลาะเบาแว้ง เก็บเงิน เข้าสังคม และอีกมากมายหลายสเต็ป พอแก่ลงก็มาทุกข์ใจเกี่ยวกับสุขภาพ ป่วยบ้างไม่ป่วยบ้างตามสภาพ  วันนี้ลูกหมาทั้งสองอาจจะยังมองไม่เห็นจุดนั้นว่าเมื่อแก่ลงอะไรคือสิ่งที่มนุษย์สรรหา  ผมก็ได้บอกว่าลองถามคนมีอายุดูสิหรือมองพวกเค้าดูแล้วจะรู้ว่า การมีที่อยู่ที่ดี มีเงินให้กินได้ใช้ได้ตามสภาพ มีเพื่อนฟูงที่สามารถไว้วางใจได้ ไม่เหงา และสามารถรับมือกับการป่วยของสังขารได้ตามสภาพ  นั้นแหละคือสิ่งที่ทุกคนอยากไปให้ถึง   หลาย ๆ คนใช้ชีวิตครบรอบมันแล้วแต่เดินมาไม่ถึงจุดนี้ ไม่มีที่อยู่อาศัยแบบอิสระไม่มีคนที่ไว้ใจได้ให้คบหา  มันทำให้ว่างเปล่าและเมื่อสังขารเสื่อมเรี่ยวแรงในการหาอีกก็ไม่มีอีกต่อไป   ....แต่สิ่งที่ลูกหมาทั้งสองมีและกระทำอยู่อาจจะถูกมนุษย์หลายๆ คนหัวเราะเอาว่าไม่มีสีสรรไม่มีอะไรแปลกใหม่  ร้านกาแฟไม่เคยไป หนังไม่ดู ไม่เที่ยวเทค ไม่ดื่มเหล้า และไม่อีกหลายๆ อย่าง แต่ผมได้บอกไว้ว่าสิ่งที่ทั้งสองกำลังใช้ชีวิตอยู่คือ ชีวิตของคนอายุ 55 หรือ 65 ปีที่อยากมีแบบนี้  เพียงแต่ทั้งสองเดินมาถึงเร็วมากตามคำสั่งของนายที่กำหนดให้ทำ  ... ฉะนั้นจงหาความพอดีในสิ่งที่อยากเป็นและสิ่งที่เป็นอยู่ให้ได้แล้วจะเห็นว่า ชีวิตยืนอยู่บนความสุขที่ถาวรแล้ว

ยกตัวอย่างนี้ให้อ่าน เพื่อจะชี้ว่าท่านมองไกลกว่าคนปกติมากมายนัก  มนุษย์ตามหาสิ่งที่สองมีโดยใช้เวลาห้าสิบหกสิบปี ได้มาบ้างไม่ได้มาบ้าง แต่ทั้งสองมาถึงแล้ว..ท่านเปิดเทวาลัย แบกลากตันตริกทั้งหมดขึ้นหลังเดินซึ่งผมทำแบบท่านไม่ได้ซักกะเสี้ยว แบกเดินไปให้ถึงวันตายให้ได้แบบ พอดี  ท่านสร้างบ้านหลังที่สอง สร้างครอบครัว สร้างเพื่อน สร้างกิจกรรม ที่จะทำให้ผู้รอกลับบ้านในหนทางเดียวกันเดินไปได้อย่าง Have Fun ผมมองเห็นอนาคตทุกคนที่อยู่ด้วยกันที่นี้ดีทีเดียว แต่พูดกันไปก็เหมือนโม้ โน้นนี้ ไร้ความหมาย แต่ดูต่อไปเทอญว่าวันที่โลกกำลังเปลี่ยนสู้ยุคทุกข์ยากเข็ญ .. ความสุข จะหายากจนเป็นแค่ตำนาน  แต่พวกเราจะมีมับแบบ พอดี ไปด้วยกันจนสิ้นลม...เพียงแต่ เห็น มันและรู้ในคุณค่าของมัน นู๋ๆ ก็จะรอดจากสังคมโหดร้ายที่กำลังจะมาถึงได้แบบ พอดี เชียวหละ..

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-12 10:38:44


ความคิดเห็นที่ 520 (2847642)
avatar
asinatantra

การวางตัวให้เจอสุขแบบพอดี

หลายอาทิตย์หรือเดือนก่อน ลูกหมาดำตาบอดเดินเข้ามาส่งการบ้านที่ผมใช้ให้หาข้อมูลให้ ก็เลยได้มีโอกาสคุยกันในเรื่องการใช้ชีวิต  พอดี  ผมบอกลูกหมาดำว่าสิ่งที่ลูกหมาดำกับลูกหมาดำขนแดง(ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนสีขนแล้ว) กระทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ข้ามเวลาและวงจรชีวิตของคนทั่วไป ไม่แปลกหรอกที่ในบางคราอาจจะทำให้รู้สึกพลาดอะไรบ้างอย่างไป แต่ผมก็บอกไปว่า  สิ่งที่ทั้งคู่เดินอยู่คือความสุขที่มนุษย์ค้นหาตลอดชีวิตแต่เพียงแค่มันมาก่อนเวลาเท่านั้นเอง  (เวลาคือสิ่งที่ตันตระถนัด55555)

มนุษย์เราตั้งแต่เกิด เติบโต เรียนหนังสือเพื่อรู้และเอามาใช้ในเวลาทำงานหาเลี้ยงชีพ เรียนจบมาทำงานหาเงินเลี้ยงปากท้อง สุขบ้างทุกข์น้อยบ้างทุกข์สาหัสบ้าง  มาถึงวัยหาคู่เพื่อมีคนที่ไว้วางใจอยู่ข้างเคียง ซื้อที่อยู่อาศัย เป็นหนี้ สร้างครอบครัว ทะเลาะเบาแว้ง เก็บเงิน เข้าสังคม และอีกมากมายหลายสเต็ป พอแก่ลงก็มาทุกข์ใจเกี่ยวกับสุขภาพ ป่วยบ้างไม่ป่วยบ้างตามสภาพ  วันนี้ลูกหมาทั้งสองอาจจะยังมองไม่เห็นจุดนั้นว่าเมื่อแก่ลงอะไรคือสิ่งที่มนุษย์สรรหา  ผมก็ได้บอกว่าลองถามคนมีอายุดูสิหรือมองพวกเค้าดูแล้วจะรู้ว่า การมีที่อยู่ที่ดี มีเงินให้กินได้ใช้ได้ตามสภาพ มีเพื่อนฟูงที่สามารถไว้วางใจได้ ไม่เหงา และสามารถรับมือกับการป่วยของสังขารได้ตามสภาพ  นั้นแหละคือสิ่งที่ทุกคนอยากไปให้ถึง   หลาย ๆ คนใช้ชีวิตครบรอบมันแล้วแต่เดินมาไม่ถึงจุดนี้ ไม่มีที่อยู่อาศัยแบบอิสระไม่มีคนที่ไว้ใจได้ให้คบหา  มันทำให้ว่างเปล่าและเมื่อสังขารเสื่อมเรี่ยวแรงในการหาอีกก็ไม่มีอีกต่อไป   ....แต่สิ่งที่ลูกหมาทั้งสองมีและกระทำอยู่อาจจะถูกมนุษย์หลายๆ คนหัวเราะเอาว่าไม่มีสีสรรไม่มีอะไรแปลกใหม่  ร้านกาแฟไม่เคยไป หนังไม่ดู ไม่เที่ยวเทค ไม่ดื่มเหล้า และไม่อีกหลายๆ อย่าง แต่ผมได้บอกไว้ว่าสิ่งที่ทั้งสองกำลังใช้ชีวิตอยู่คือ ชีวิตของคนอายุ 55 หรือ 65 ปีที่อยากมีแบบนี้  เพียงแต่ทั้งสองเดินมาถึงเร็วมากตามคำสั่งของนายที่กำหนดให้ทำ  ... ฉะนั้นจงหาความพอดีในสิ่งที่อยากเป็นและสิ่งที่เป็นอยู่ให้ได้แล้วจะเห็นว่า ชีวิตยืนอยู่บนความสุขที่ถาวรแล้ว

ยกตัวอย่างนี้ให้อ่าน เพื่อจะชี้ว่าท่านมองไกลกว่าคนปกติมากมายนัก  มนุษย์ตามหาสิ่งที่สองมีโดยใช้เวลาห้าสิบหกสิบปี ได้มาบ้างไม่ได้มาบ้าง แต่ทั้งสองมาถึงแล้ว..ท่านเปิดเทวาลัย แบกลากตันตริกทั้งหมดขึ้นหลังเดินซึ่งผมทำแบบท่านไม่ได้ซักกะเสี้ยว แบกเดินไปให้ถึงวันตายให้ได้แบบ พอดี  ท่านสร้างบ้านหลังที่สอง สร้างครอบครัว สร้างเพื่อน สร้างกิจกรรม ที่จะทำให้ผู้รอกลับบ้านในหนทางเดียวกันเดินไปได้อย่าง Have Fun ผมมองเห็นอนาคตทุกคนที่อยู่ด้วยกันที่นี้ดีทีเดียว แต่พูดกันไปก็เหมือนโม้ โน้นนี้ ไร้ความหมาย แต่ดูต่อไปเทอญว่าวันที่โลกกำลังเปลี่ยนสู้ยุคทุกข์ยากเข็ญ .. ความสุข จะหายากจนเป็นแค่ตำนาน  แต่พวกเราจะมีมับแบบ พอดี ไปด้วยกันจนสิ้นลม...เพียงแต่ เห็น มันและรู้ในคุณค่าของมัน นู๋ๆ ก็จะรอดจากสังคมโหดร้ายที่กำลังจะมาถึงได้แบบ พอดี เชียวหละ..

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-12 10:41:35


ความคิดเห็นที่ 521 (2850136)
avatar
asinatantra
image

ศุกร์ 13 ศุกร์ 13  ศุกร์ 13

พ่อใครมาน้ำตาใครไหล ลั่น ลั่น ลาาาาาา

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-13 10:34:23


ความคิดเห็นที่ 522 (2851355)
avatar
wasinatantra
image

สุขสันต์วันศุกร์ ที่ 13 นะค้าๆๆๆ

สวัดดีคะ.....ลาละคะ......ชะเเว๊ปๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น wasinatantra (f3rniz-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-13 21:27:28


ความคิดเห็นที่ 523 (2852633)
avatar
asinatantra
image

ศุกร์ 13 ที่ไรป่วยมันได้ทุกที  ......

โมโหเฟ้ยยยยยยย

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-14 09:57:36


ความคิดเห็นที่ 524 (2854492)
avatar
ม.อ.น้อย

ช่วงนี้ ประชากรตันตริก หลายท่าน ป่วย เยอะจังไม่รู้ทำไม ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอง กลัวไม่ intrend ไม่มีเรื่อง คุยกับเค้ารึป่าวน้าคิดซะว่า เป็นแต่ไม่เยอะ ก็บุญแล้ว หายป่วย ไว ๆ นะคะท่านasinatantra รวมทั้งประชากรตันตริกด้วยจ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น ม.อ.น้อย (tonpoja-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-15 03:34:05


ความคิดเห็นที่ 525 (2855100)
avatar
asinatantra
image

ม.อ.น้อย  ขอให้หายเร็วๆ เหมือนกันน่าาา

ไหนจะอากาศ ไหนจะการแบกถังพระเวทย์ ไหนจะความแก่  ที่มาเยือน55555 ถึงได้ป่วยกันประจำแถมเจอกันแทบทุกวัน แลกไวรัสกันไปมาอยู่นั้นแหละ จริงมะ ..ผมพูดบ่อยๆ ว่าพวกเราตอนแก่ชราไว้เอาอวัยวะส่วนที่เหลืออยู่ดี ๆ มาช่วยกัน แบบว่าใครยังมีแขนดีก็ใช้แขน ใครยังมีขาดีก็เดินไปซื้ออาหาร ใครมีอะไรดี ก็ช่วยๆ กันไป ..น่าจะดีสุด เพราะแต่ละคนเดี้ยง ๆ กันไปคนละแบบ 5555 นึกแล้วก็ขำ

พักนี้ไม่มีละครน้ำเน่าน่าสนใจเลยเนอะ ม.อ.น้อย เนอะ  ผมกำลังอยากดูละครของคุณนายอั้ม จังเลยว่ามะ ว่ามะ

ไปอาบน้ำปะแป้งแระ วันนี้มีคนเสนอเลี้ยงข้าวกลางวันผม   ฮ่ะ ฮ้า  ของฟรีนิ ต้องรีบเลยยยยยย

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-15 10:00:31


ความคิดเห็นที่ 526 (2861792)
avatar
asinatantra

one train late..

อาทิตย์ที่ผ่านมาได้คุยกับเพื่อนถึงชีวตในเศรษฐกิจยุคใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นนี้เพื่อนบอกว่าเค้ารู้สึกว่า มนุษย์มักจะรู้สึกตัวช้าไปเสมอๆ  และก็อาทิตย์เดียวกันอีกที่ได้คุยกับมังคลาตันตระเรื่องเดียวกันว่า  มนุษย์มักจะรู้สึกตัวเมื่อมันจากไป  

เลยทำให้นึกถึงวิธีที่คุรุสอนมาแต่เด็กเกี่ยวกับเรื่อง  การเรีบนโดยใช้ความคิดซึ่งเป็นนามธรรมอย่างเดียว เริ่มและจบเรื่องในความคิดโดยไม่ต้องกระทำเป็นรูปธรรมออกมา...ท่านว่าเรื่องบางเรื่องเมื่อเคยผิดแล้ว เข้าใจแล้ว แก้ได้แล้ว  เมื่อเดินมาเจออีกครั้งหนึ่ง(ซึ่งในชีวิตมนุษย์มันก็มักจะวนๆ กันอยู่คล้ายๆ เดิมอยู่นั้นแหละ) ทำไมถึงต้องปล่อยให้มันเป็นการผิดพลาดแบบเดิม ๆ เกิดขึ้นมาอีกเราเริ่มและเสร็จขบวนการในหัวเราเลยก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น  การกินกับอาการอ้วน บางทีผมอยากกินมะม่วงดิบกับน้ำพริกกระปิซึ่งเป็นของโปรดมากๆ  แต่กินไม่ได้เพราะมะม่วงมักจะทำให้ผมอ้วนขึ้นเร็วมากฉะนั้นเวลาเห็นมะม่วงผมจะเริ่มขบวนการณ์วงกลมของผลลัพท์มะม่วงในหัวเลยว่า อืมเห็นมะม่วง อยากกินเกิด ตามด้วยสุขใจที่ได้ซื้อ ตามด้วยสุขใจที่ได้กิน ตามด้วยอิ่มอร่อย สุขสม และตามมาด้วยวันรุ่งขึ้นด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ผมใส่เสื้อผ้าต่างๆ แล้วรู้สึกอึดอัด และก็ตามมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่อึดอัดและก็ตามมาด้วยความทุกข์ของการเริ่มลดน้ำหนักอีก อดกินข้าวสวย อดกินขนม อกซดเครื่องดื่มมึนเมา  ใช้เวลาเป็นอาทิตย์ในการกำจัดหนึ่งกิโลที่เพิ่มขึ้นมาให้หมดไป .. ฉะนั้นทั้งหมดนั้นผมจำความรู้สึกมันได้ใยผมต้องให้มันเกิดขึ้นในความเป็นจริงด้วย  ... วิธีนี้ยังนำไปใช้กับหลายๆ เรื่องได้ เช่น ความรัก ความโลภ ความโกธร เป็นต้นซึ่งถ้าสังเกตุดูมันจะเป็นเรื่องวงกลมเดิม ๆ ทั้งนั้น   

และอีกปัญหาหนึ่งที่สำคัญมันอยู่ที่  โอกาสของชีวิตมนุษย์คนหนึ่งมันจะมีโอกาสซักกี่ครั้งที่สามารถรอดพ้นจากปัญหาและความทุกข์อย่างปลอดภัย  ไม่บุบสลายได้ ฉะนั้นถ้าบุคคลใดสามารถรอดได้โดยท่านๆ ช่วยเหลือมา จงใช้และโปรดใช้โอกาสนั้นอย่างมีคุณค่า  เพราะโอกาสมันอาจจะไม่กลับมาอีกเลย  

คือหมายความว่า

อย่าให้ต้องเสียมันไปเพื่อที่จะระลึกได้ว่า ไม่น่าเลย ถ้าวันนั้นไม่ทำอย่างนั้น ไม่ทำอย่างนี้ ก็ดีสิ ...

หลายๆ บทเรียนในชีวิตสามารถ ฝึกฝนและจบเรื่องทำความเข้าใจและปลอดภัยได้ในความคิด(นามธรรม)เท่านั้น  เพราะอย่างตัวอย่างง่ายๆ ที่ยกนั้น ผลลัพท์มันไม่สามารถเป็นอื่นไปได้อยู่แล้วนอกจากอ้วนขึ้น จริงมั้ย?  มันไม่มีทางที่การกินเยอะเกินไปแล้วจะผอมลงนอกจากซะว่าป่วยมากๆ อะไรซักอย่าง ...  

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-18 11:17:10


ความคิดเห็นที่ 527 (2863287)
avatar
asinatantra

 

ยอมสิ้นดีกว่าที่จะหลับแล้วลืม.......

ขอภัคดีเหนือชีวต ตลอดกาล...

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-21 10:03:27


ความคิดเห็นที่ 528 (2863295)
avatar
asinatantra

 

ทำไมเช้าวันนี้ท้องฟ้ามันช่างสดใสขนาดนี้นะ ฟ้าทำไมถึงสีฟ้าขนาดนี้นะ กุญแจถูกไขอีกแล้วหรือ?  หลังจากนอนน้ำตาไหลกับความจริงจนหมอนเปียกเมื่อคืน ความจริงที่ได้รู้ ได้รัก ได้ศึกษา ได้มีวาสนามาเป็นดวงจิตดวงหนึ่งของตันตระ  ตื่นเช้ามาวันนี้เห็นแสงแดงที่เหลืองทองตัดกับสีเขียวของสนามหญ้าและต้นไม้ ผมคิดว่ามันช่างสุดยอดจริง ๆ สีสวยงามของธรรมชาติ พลังงานของธรรมชาติรอบตัวผมที่บอกเล่าเรื่องราวของทุกสรรพสิ่ง จริงๆ ผมเองที่ผิดที่ีแอบหมกมุ่นเงียบกับพิธีกรรมที่จะได้ทำให้ตนเองได้กลับไปหาสิ่งอันเป็นที่รักมากจนเกินไป นานเกินไป หูหนวก ตาบอด คิดว่าดี คิดว่าใช่ ใกล้อีกนิดเดียว ..แต่มันกลับไม่ถูกทางเลย  เพราะอย่างไรเกมส์นี้ก็ต้องจบในแบบที่มันถูกกำหนดวิธีการเอาไว้ เงื่อนไขของบางอย่างที่ต้องทำ ความจริงที่ได้รับรู้มันเป็นสิ่งค้ำจุนการเดินบนร่างกายนี้ของผมเหลือเกิน ให้เห็นว่าจุดหมายที่มันถูกต้องนั้นคือจุดใด  เลือดสีแดงทุกอนุในตัวผมยังหมุนเวียนอยู่เพื่ออะไร  วันนี้รู้สึกปวดร้าวแบบมีความสุข ปวดร้าวกับเรื่องราวของตนเองแต่กลับมีความสุขในเรื่องราวเหล่านั้น ..

กราบเหนือหัว พ่อท่านทั้งห้าที่เมตตาผมเหลือเกิน  ..

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-21 10:19:07


ความคิดเห็นที่ 529 (2863545)
avatar
asinatantra

 

to deny is not Goodbye...to deny is not Goodbye...

from the day I let you go ooo...

without you there is no place to belong...how could I go on

so I have to beleive

somewhere out there you"re thinking of me ...

to deny is not Goodbye...to deny is not Goodbye

till I see you again...I will be right here,remember me wll...

till I see you again,,,,there will be no more tear to cry...it"s not Goodbye

It"s not Goodbye,,,It"s not Goodbye

..............

it"s just a love song I like much....

 

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-21 21:17:39


ความคิดเห็นที่ 530 (2863666)
avatar
asinatantra

 

what if I never can kiss your lips again,,,feel your touch on me agian

without you there is no place to belong,,,how could I go on

till the day I let you go.....till the day I let you go

it"s so hard to be strong when you have been missing someone so long...

it"s just a matter of time,I sure

it"s not Goodbye...

some day love will lead you back to me ee..to put my bronken heart together again,utill it does,,I have a empty heart,so I have to beleive some where out there you are thinking of me . .

till the next hello,,it"s not Goodbye

it"s not Goodbye...

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-22 09:55:50


ความคิดเห็นที่ 531 (2865473)
avatar
asinatantra
image

เอ้าตันตริกน้อยใหญ่มีเพื่อนเราไปอยู่ต่างแดน เอาเมล์ไปแอดซะจะได้ช่วยกันคุยให้เพื่อนหายคลายเหงานะ

ของคุณแขก(น่าจะสีน้ำเงิน นะ)

aksornwan@hotmail.com

โอเช่ชชชช

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-25 16:51:53


ความคิดเห็นที่ 532 (2865528)
avatar
ธีรนายะตันตระ

รับทราบ

ปฏิบัติขอรับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธีรนายะตันตระ (oat_tvdr-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-06-25 17:55:05


ความคิดเห็นที่ 533 (2869940)
avatar
kokomi
image

ขอความกรุณาท่าน..asinatantra..เนื่องด้วยมีความอยากรู้แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ถามไถ่ผู้ใดให้ใขข้อข้องใจ..เนื่องด้วยเหตุผลหลายๆอย่างที่เกิดด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยได้อยู่บ้าน..(เทวาลัย)..อย่างอบอุ่นใจแต่ตอนนี้กลับรู้สึกอึดอัดชอบกล..บางคนเปลี่ยน..บางอย่างเปลี่ยน..พิธีรีตองเพิ่มขึ้น(ด้วยเพราะตัวเองเป็นคนที่ชอบอะไรที่ง่ายๆสบายๆแต่ได้ใจความเป็นทุนเดิม)..เนื่องจากผู้คนเพิ่มขึ้น..ความรู้สึกสนิทใจเลยค่อยๆหายไป..เพราะรู้สึกโดนตีกรอบ..โดนแบ่งชั้นและโดนขีดเส้นให้ทำทั้งๆที่เรามาแต่แรกก็เป็นแบบที่เราเป็นแต่ตอนนี้กลับมีข้อจำกัดมากมาย...เฮ่อ..บ่นซะยาวยังไม่ได้เข้าเรื่องเลยค่ะ..แต่ที่บ่นไม่ได้หมายความว่าไม่รักและเคารพที่นี่แล้วนะค่ะยังคงรักและเคารพเหมือนเดิมค่ะ .....หนูมีสิ่งที่อยากถามท่านอยู่อย่างนึงค่ะว่า..ถ้าเราเคยสำเร็จกับการทำพิธีต่างๆมาแล้วและได้ความรักมาอย่างสมหวังจนทุกวันนี้ก็ยังอยู่ปกติดีมีสุข..แต่ก่อนหน้านี้จะมีการทำพิธีต่างๆให้เขาเหมือนคอยเติมเชื้อไฟตลอดอ่ะค่ะ...ทำแบบนั้นมาซักระยะจนอยู่ตัวจนทุกวันนี้ไม่ได้ทำอะไรอีกแล้ว..แต่ยังคงเข้าไปเทวาลัยบ้างเมื่อมีโอกาส..นั่งสมาธิเสมอ..แบบนี้ยังต้องคอยทำพิธีอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่าอ่ะค่ะถ้าทุกวันนี้ดีอยู่แล้วแล้วเขาจะหมดรักเราไปเฉยๆเลยหรือเปล่าหรืออีกทางคือเขาสามารถรักเราจากใจเขาจริงๆได้เลยหรือเปล่า..แล้วอีกอย่างเคยได้ยินมาว่าถ้าเรามีอะไรกับแฟนเราตลอดเพียงคนเดียวเป็นเวลานานจะกลายเป็นจุดไฟให้เขาโดยไม่รู้ตัวอย่างงี้เขาจะถือว่าเป็นตันตริกหรือเปล่าค่ะ..แล้วจะต้องทำอย่างไรต่อไป..คำถามหนูอาจจะถามเหมือนคนโง่นะค่ะแต่หนูคิดว่าทุกอย่างต้องเกิดจากคำถามและจะกระจ่างเมื่อมีผู้เต็มใจอยากสอนอยากตอบบ้าง..เพราะทุกวันนี้แทบไม่อยากถามใครแล้วค่ะ..มักจะโดนเสียดสีกลับตลอดเลย...ด้วยการที่เรามีเหตุผลในการใช้ชีวิตที่ไม่สามารถเข้าเทวาลัยได้เหมือนเก่า..ก็กลายเป็นว่า..สมหวังแล้วก็ลืมที่นี่..อยากบอกว่าป่าวเลยค่ะ..การที่ไม่ได้เข้าไปนั้นไม่ใช่ว่าการเรียนรู้ในการใช้ชีวิตการหาวิธีดับทุกข์มันจะหยุดไปด้วย..ตรงข้ามกลับรู้สึกว่าได้ให้เวลาในการคิดการเพชิญกับมันแล้วหาทางแก้ได้โดยไม่ต้องถามเจ้าบ้านอีก..(เพราะมันเป็นเรื่องซำ้ซาก)..นั้นทำให้รู้สึกว่ากำลังได้เรียนและเริ่มเรียนบทเรียนใหม่ๆไปเรื่อยๆคิดแบบนี้ผิดหรือเปล่าค่ะ...ยังไงขอให้ท่าน..asinatantra..ช่วยใขข้อข้องใจนี้ให้ข้าน้อยด้วยเถอะเจ้าข้า .....หนูน้อยนำ้เงินดำที่นั่งตำการบูรเจ้าค้า....
ผู้แสดงความคิดเห็น kokomi (kokomi_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-04 10:39:05


ความคิดเห็นที่ 534 (2869993)
avatar
asinatantra

อะ รู้เลยว่าใครขอบใจที่บอกจะได้ตอบถูก..เดี๋ยวจะกลับมาตอบขอไปหาคุณหมอ แก้โรคแก่ก่อน บ่ายๆ จะแวะมาตอบ..

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-04 12:08:33


ความคิดเห็นที่ 535 (2870020)
avatar
kokomi
ย้อนกลับไปอ่าน...การวางตัวให้เจอสุขแบบพอดี ก็นึกสะท้อนใจไปว่าเป็นใครก็อยากเป็นแบบสองคนนั้นถ้าลองเกิดทั้งสองมีอันต้องมีเพียงคนนึงที่สามารถเรียนรู้ตันตระได้เพียงคนเดียว..ความสุขนี้จะเกิดขึ้นหรือเปล่า... นี่เป็นคำถามที่มีในใจเสมอมาว่าจริงมั้ย..เพราะเคยคุยกับพี่จาดับจาดับที่เทวาลัยอยู่บ่อยๆว่า...ถ้าคนรักของเราเขาเข้าใจและยอมเข้ามาที่นี่ด้วยก็คงดี..คงได้ทำอะไรที่อยากทำได้อีกหลายอย่าง..คงมีเวลาให้ได้มากขึ้น..คงทุ่มเทกายใจได้อย่างสองคนนั้นเลยทีเดียว.. แต่คนเราก็มีทางเดินไม่เหมือนกันใช่มั้ยค่ะ...ตัวเรา..ตัวเขา..เราบังคับเขาไม่ได้..ได้ก็แต่ประคองชีวิตให้ดำเนินไปโดยทุกข์น้อยที่สุดหรือทั้งๆที่ทุกข์แต่ก็สุขกับมันหาทางดับทุกข์ให้ได้... ถ้าเป็นได้แบบสองคนนั้นก็คงดีมีความสุขค่ะ...ก็อยากให้คนรักของเราเข้ามาเข้าใจหลักของที่นี่เหมือนที่เราเป็น... ...เฮ่อ..ลำพังประคองให้เขารักยังแทบแย่..555...ก็หวังว่าสักวันท่านจะเมตตาดลใจให้คนรักเขาเข้าใจมากกว่านี้จะได้เดินไปในทิศทางเดียวกัน..ผิดหรือป่าวค่ะถ้าเขาไม่ใช่แต่เราพยายามดึงให้มาทางนี้...เข้าใจค่ะไม่จากเป็นก็จากตายแต่ถ้าเราเจอทางที่ดีก็ไม้แปลกที่เราอยากให้คนที่เรารักมาอยู่ทางเดียวกัน..ก็ตั้งใจไว้ค่ะว่าถ้าตายจะขอพาครอบครัวและคนรักไปด้วย...อันนี้คิดเองตามที่ได้ยินมาว่าโควต้าขอได้แต่ยังไม่รู้ว่าเท่าใหร่...คิดเองเออเองตามประสาสีนำ้เงินอ่ะค่ะ ....นำ้เงินดำตำการบูร....
ผู้แสดงความคิดเห็น kokomi (kokomi_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-04 13:26:05


ความคิดเห็นที่ 536 (2870107)
avatar
asinatantra

ผมคงขอตอบว่า  แล้วแต่บุคคลิคของแต่ละคนครับ บางคนชอบเรื่องวุ่นวายบางคนชอบความสงบ ซึ่งไม่แปลก แต่ใยเราคิดจะเปลี่ยนแปลงระบบเล่า? จริงมั้ย เปรียบเหมือนผมไม่ชอบประเทศไทยเพราะมันไม่เหมือนอย่างที่ผมเคยชินเมื่อสมัยก่อน รูู้สึกหงุดหงิดใจ ไม่เข้าใจวิธีคิดและสิ่งที่มันกำลีงเป็นไป .. ถามว่าผมเปลี่ยนประเทศไทยได้มั้ย ? คำตอบคือไม่ได้แน่นอน แต่ผมเปลี่ยนตัวเองได้ซึ่งอันหลังแน่นอน ..วิธีการนั่งสมาธิแบบตันตระเทวาลัย สอนเสมอให้หาความสงบในความวุ่นวายทั้งปวง การนั่งสมาธิจึงเสียงดังมาก เพื่อให้หาให้เจอว่า ท่ามกลางเสียงทั้งหมดนั้น สติสมาธิอยู่ตรงไหน..เมื่อคิดว่าเทวาลัยวุ่นวายและพิธีรีตรองเยอะ ลองมองให้เห็นแก่นของมันว่าในความวุ่นวายนั้นอะไรคือจุดที่อยากให้เห็น..ทุกอย่างมันสอนอยู่ในตัว เพียงแค่เรามองมันลึกขนาดไหน

การอยู่ร่วมกับคนหมู่มากที่เทวาลัย ก็เหมือนการที่ผมหาความสุขได้ในประเทศไทยที่ผมไม่ค่อยชอบ  หากหาความสุขได้ในตนเองความสุขที่เกิดได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าอยู่ในสถานที่ใดและสถาณการณ์ใดก็จะมีความสงบสุขได้

เรื่องความรักที่ถามหรือที่กังวลอยู่นั้น..ผมไม่ชอบที่จะเน้นตรงจุดนี้บ่อยนักแต่มันเป็นความจริงแท้จริงๆ ว่า  รักแท้รักจริง  มันไม่มีในโลกมนุษย์นี้หรอกครับทุกอย่างมันเป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งผลประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งทั้งนั้น  ฉะนั้นต้องลืมคำว่ารักแท้ซะ แล้วจะเจ็บปวดน้อยลง..เมื่อยังอยากได้ของๆ เค้ามานู๋จะไม่มีวันหยุดเสียส่วนของตัวเองไปเลย..คำถามที่ว่า คุณแฟนไม่ได้เป็นตันตริก แล้วจะเป็นไรมั้ย  ผมกลัยจะถามกลับด้วยซ้ำว่าจะเป็นไปทำไมหละ มันไม่เห็นต่างกัน ทุกสิ่งทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่ภายในของนู๋เท่านั้น  ตันตระเราเป็นแบบนี้ ..ผมมีคนที่ผมรักหลายคน แต่ผมก็ไม่เห็นความจำเป็นต้องลากเค้ามาเป้นตันตริกด้วย มันอยู่ที่ว่าตัวเราเองทำตัวเองเข็มแข็งได้ในระดับไหน เข็มแข็งจนว่าหากคนที่รักไม่ได้เป็นตันตริกคุณก็สามารถปกป้องคุ้มครองเค้าได้  เพราะอย่างไรต้องไม่ลืมว่าในตันตระนั้น อำนาจ คือการตัดสิน..แน่นอนว่า คุณแฟนไม่รู้ไม่เข้าใจว่าทำอะไรอยู่จึงไม่สามารถมาหรือปฎิบัติกิจตามที่อยากทำได้เท่าที่ต้องการ  จุดนี้แก้ยาก ด้วยเหตุว่านู๋ยังอยากได้ของๆ คนอื่นอยู่แน่นอนนู๋ต้องเสียของๆ นู๋ไปคือ อิสระภาพ..พอเห็นภาพมั้ยว่ามันวนอยู่ตรงนี้  ยกตัวอย่างผม ผมจะมาอยู่เทวาลัยช่วงไหนเวลาไหน จะนอนนี้ หรือนอนบ้านจนไม่มาเลยผมก็ไม่มีอะไรขวางผม เพราะผมไม่อยากได้ของอะไรจากใครแล้ว ผมจึงไม่เสียอะไรไปเลย  หากผมมีแฟนผมก็ไม่รู้สึกอะไรถ้าแฟนจะไปจากผมคือผมวางมันลงแล้ว ฉะนั้นการจากไปของแฟนจะไม่ทำให้ผมเสียอะไรเลย  แต่กลับกลายเป็นสมุนแทนที่ผมต้องเสียให้ตลอดเวลาเพราะอยากให้สมุนสุขภาพดีไม่เป็นโรคผิวหนัง ผมจึงเสียพลังและเวลาในการดูแล ไปไหนไม่ได้นาน ต้องรีบกลับ เดี๋ยวจะโน้นเดี๋ยวจะนี้..พอดูภาพการอยากได้และการเสียไปออกมั้ย

แต่ตันตระสอนเสมอให้มีความสุข ฉะนั้นการมีแฟนนำมาซึ่งความสุขของนู๋ นู๋ก็ทำดีแล้ว แต่ขอเน้นว่าอย่าขี้เกียจที่จะทำความสุขนั้นให้  พอดี  กับตนเองมันจะได้อยู่กับนู๋นาน ๆ

ถามว่าเคยทำพิธีบางอย่างจนได้เค้ากลับมา  ถามว่าหยุดทำแล้วจะดีมั้ย ผมคิดว่ามันเหมือนรถเติมน้ำมันนั้นแหละ เติมแล้วมันวิ่งได้ตลอดหรือป่าว มันก็เป็นไปไม่ได้จริงมะ แค่รอบกรรมมันมาอีกคือรถใช้น้ำมันหมด ก็หมดแรงกันไป  หากสิ่งนั้นๆ ที่ได้มามันไม่ใช่ของนู๋ตามพื้นดวง แน่นอนมันก็ต้องหมดแรงกันไป..

มีปัญหาก็ถาม อย่าลืมว่าตันตริกอ้างไม่รู้ไม่ได้ ต้องถาม..เจ้าบ้านเดินไปเดินมาตลอด ถามได้อย่าไปกลัว ถามวันนี้ไม่ตอบ ถามพรุ่งนี้ใหม่ ถามพรุ่งนี้ไม่ตอบ วันนึงก็ต้องตอบ จริงมั้ย

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-04 16:37:03


ความคิดเห็นที่ 537 (2870145)
avatar
kokomi
อิอิขอบคุณ ท่าน​​.asinatantra..มากค่ะ..บางทีคำตอบมันก็อยู่ในใจเราอยู่แล้วหรือบางครั้งเราก็ปฎิบัติมันอยู่แล้ว..แต่เรากลับลืมใช้สมองส่วนนั้นคิดว่าเราทำมันอยู่เรารู้ของเราอยู่แต่เรากลับไม่พอใจเลยพยายามหาสิ่งอื่นมาปลอบประโลม..แทน ................................................................................... บางอย่างนู๋จริงใจกับตัวเองมากจนวางมันไม่ได้...ต้องได้...ต้องทน...และต้องทนให้ได้...มันคือนู๋มาแต่ใหนแต่ไร...คิดแบบแรงแรง...จนบางคร้ังก็คิดว่าที่เราสู้เรามาถูกทางหรือเปล่า....เฮ่อบ่นอีกแล้วค่ะยังก็ขอบคุณมากนะค่ะสำหรับคำตอบที่ท่านประทานให้....เด็กนำ้เงินดำนั่งตำการบูรเจ้าค้า....
ผู้แสดงความคิดเห็น kokomi (kokomi_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-04 18:40:45


ความคิดเห็นที่ 538 (2870252)
avatar
kokomi
ยังไงก็ยังมีข้อขัดแย้งในใจหลายอย่างแต่คิดว่าคงเขียนลงในนี้ไม่ได้ยังไงเข้าไปคุณกับท่านที่เทวาลัยคงจะดีมิใช่น้อย...ข้าน้อยขอคุยด้วยถ้ามีโอกาสนะเจ้าค่ะ....เด็กสีนำ้เงินดำนั่งตำการบูรเจ้าค่า...
ผู้แสดงความคิดเห็น kokomi (kokomi_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-04 21:31:16


ความคิดเห็นที่ 539 (2870446)
avatar
asinatantra

ปิติ

เมื่อค่ำวานได้มีโอกาสพบคุรุ 4.3 ที่ไม่ได้พบท่านมานานพอสมควร  น้ำตาไม่ไหลแต่ปิติเหลือเกิน หลังจำที่ท่านขำและอมยิ้มกับการผ่านการแห้งตายของผม(แบบโง่ ๆ)มาในคราวนี้ ผมบอกท่านว่าผมโตขึ้นอีกแล้ว เข้าใจเพิ่มอีกแล้ว ท่านก็หัวเราะบอกผมว่า "สอนมากับมือ"  ... ผมบอกท่านว่าเมื่ออายุ 16 , 17 ผมร้องไห้ทุกวันร้องๆๆๆๆ ต่อหน้าท่านต่อหน้าคำสอน ต่อหน้าความเป็นจริงที่ท่านชี้ให้เห็นที่มันโกหกเราอยู่ตั้งแต่เกิด ผมร้องๆๆๆๆ กับการสู้กับตัวตนของตนเอง ท่านเมตตาผมเหลือเกิน อดทนสอนผมที่ทิ้งความเป็นมนุษย์ของตนเองไม่ได้  วันนั้นเมื่อยี่สิบปีก่อนผมยังจำได้  ท่านว่า "วันหนึ่งผมจะอยู่ได้โดยไม่ต้องเจอท่านอีก " ตอนนั้นผมทำไม่ได้ มองไม่เห็น และคิดว่าเป็นไปไม่ได้  ... (ซึ่งมังคลาตันตระก็เป็นหนึ่งพยานในจำนวนการร้องไห้ของผม )ผมพูดเสร็จก็มองท่านและบอกว่า วันนี้ผมเดินด้วยตัวเองได้แล้วทิ้งความเป็นมนุษย์ได้แล้ว ..ท่านก็ยิ้มอีก...ผมบอกท่านว่าอย่าทิ้งผมนะ ถึงแม้ผมจะไม่ได้วางประคำขอพบท่านมันบ่อย ๆ มันไม่ได้หมายถึงผมลืมท่านไปแล้ว ตรงกันข้ามผมกำลังพยายามเดินด้วยลำแข้งตนเองและเอาคำสอนที่ท่านเมตตาประทานมาแต่เด็กใช้ดำเนินชีวิตอยู่ทุกลมหายใจ..ท่านก็ยิ้มอีก..

ท่านบอกว่า " ไม่เคยไปไหนอยู่ทุกหนแห่งที่มีสีเขียว..เมื่อมองเห็นสีเขียว สีเขียวก็จะมองเห็นผม "

( ผมเอามาเล่าให้อ่านถึงจะฝืนเรื่องไม่ควรนำมาเล่าไปบ้าง แต่ผมอยากให้ตันตริกที่ไม่มีโอกาสได้อ่านบางประโยคที่สำคัญ และลองเอาไปตีความและนำไปดำเนินชีวิต )..

ท่านคุรุว่า  อยากให้ผมเปิดชั่วโมงสอนสิ่งที่ผมเรียนมาให้แก่ตันตริกอื่น เพื่อนำไปเป็นความรู้แก่ลูกหลานเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป ...ผมมองท่านทำตาปริบๆ และ ถามท่านว่า " ผมนี้เหรอ จะสอนคนอื่น " ท่านก็ยิ้มแล้วบอกว่า " สอนมากับมือ "

ผมกราบเหนือชีวิต เหนือจิตใจ ...อสินะตันตระเติบโตขึ้นมาเป็นอสินะตันตระได้ทุกวันนี้ก็เพราะความเหนื่อยของคุรุท่านจริงๆ ไม่มีท่านเมตตาผมก็คงเป็นมนุษย์แสนโง่งม หลงอยู่กับสิ่งที่เห็นที่โกหก และไม่ได้กลับบ้านอีกรอบหนึ่ง

เมื่อวานผมได้การบ้านข้อใหม่มาทำ ท่านชี้ทางเดินให้ผมเดินต่อนับจากนี้ไปท่านว่า " ทำให้ท่านดูสิ " ซึ่งแน่นอนชีวิตนี้ผมยังให้ได้ เลือดทุกหยดผมก็ให้ได้ เสี้ยววินาทีนี้เลย  ทำไมผมจะทำตามที่ท่านชี้ไม่ได้

...........

มังคลาตันตระเอ๋ย..นึกถึงวันเก่าก่อน แล้วก็ขำเนอะ น้ำตาเป็นกระบุง ๆ ทิชชูเป็นกล่องๆ 55555555

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-05 09:58:13


ความคิดเห็นที่ 540 (2870659)
avatar
kokomi
ท่าน..asinatantra..เจ้าค่ะ..หนูมีเรื่องสงสัยแบบโง่โง่มาถามค่ะ คือพอดีเข้าไปอ่านในวิชชาตันตระมา...แล้วก็ได้เห็นวิชชาประจุจิตซึ่งก็พอรู้เรื่องนี้มานานตั้งแต่สมัยเข้ามาใหม่ๆ..แต่เพิ่งมามีข้อสงสัยตอนที่ได้อ่านเนี่ยแหล่ะค่ะว่า...ความหมายของผงแต่ละผงนั้นอ่านแล้วมันส่งผลดีเกือบทั้งหมดแล้วสรุปว่า...ถ้าประจุจิตจริงๆ..ผลที่ได้นั้นจะเป็นผลดีแก่คนที่เราทำเหรอค่ะหรือยังไง..งงไปหมดแล้วค่ะ.... ...อย่างเช่นว่าเราประจุจิตคนคนนึงไว้..ถ้าเราใส่ผงจันทน์หอมเข้าไปเขาก็จะได้เรื่องเสนห์นิยมชมชอบนะเหรอค่ะ...หรือว่าเราได้...เอหรือว่า...ถ้าเราใส่เกลือป่นเขาจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งหรือว่าเราค่ะ.....ถามแบบค_วยค_ายแต่ยังไงก็คงต้องถามเพราะต้องรู้ให้ได้ค่ะจะไม่ยอมโง่อีกต่อไป........เด็กนำ้เงินดำนั่งตำการบูรเจ้าค่า....
ผู้แสดงความคิดเห็น kokomi (kokomi_c-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-05 16:43:21


ความคิดเห็นที่ 541 (2870903)
avatar
asinatantra

อืมม..ผมเป็นคุณะเวช  อาจจะไม่มีความรู้ละเอียดในด้านนี้แต่พอมองออกว่าและจำได้ว่าการกระทำไสย นั้น มันต้องมีองค์ประกอบด้วยสองสามสิ่งประกอบกัน คือ มีรูปธรรม(สาร) มีวาจนะ มีเจตนา

แน่นอนว่าที่เด็กตำการบูรถามนั้นมันเป็นเรื่องของตัววัตถุคือตัวแปลสาร  แล้วถ้ามีสารแล้วไม่ใส่เจตนาว่าจะทำอะไรกับมัน ทำกับใคร เพื่ออะไร แล้วมันจะได้ผลหรือ? อยู่ดี ๆ จันทร์หอมมันจะทำอะไรด้วยตัวมันเองได้อย่างไร ไม่งั้นโลกนี้วุ่นวายตายเลยนะ หรือเกลือมันก็มีอยู่ทุกที่ มันไม่ทะเลาะกันตายไปทั้งโลกหรือไง..5555

นี้แสดงว่าไม่ได้เข้าเรียน ถูกมั้ย

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-06 09:38:21


ความคิดเห็นที่ 542 (2873992)
avatar
ธีรนายะตันตระ

กระทู้ท่าน หายไป 2 วัน 2 คืน

ตกใจแทบแย่...นึกว่าหายแล้วหายเลย

(ต้องเซฟเก็บเอาไว้ซะแว้ว...โลกไซเบอร์เริ่มไม่น่าไว้ใจ)

^____^

ผู้แสดงความคิดเห็น ธีรนายะตันตระ (oat_tvdr-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-11 13:23:31


ความคิดเห็นที่ 543 (2874096)
avatar
asinatantra
image

เออแหะ ไปเอง มาเอง ได้ ก็มันส์ดีเหมือนกันนะ..

วันก่อนเห็นมีคนมาถามหลายคนว่ากระทู้หายไปไหน ผมก็ถามกลับให้มันปราชญ์เล่นๆว่า " แล้วมันหายไปไหนละ " ก็พาลจะงงกันไปกันมา ".. ซึ่งจริงๆ แล้วผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันไปไหนของมัน นึกอยู่ว่าคงจะโดนแฮงก์เอาไปอีกแล้วเหมือนอันเวอร์ชั่น แรกหรือป่าว แต่ก็คิดว่าใครมันจะเอาไปทำอะไรหว่า!!! ต้มน้ำกินก็ไม่อิ่ม

แต่ไหน ๆ มันก็กลับมาแล้ว อาจจะบ่นต่อไปอีกซักหน่อย กระทู้ 555 แล้วค่อยย้ายละกันนะ ด้วยชักจะยาวมากสงสารเจ้าของพื้นที่เค้าเนอะ  วันนี้ยังนึกไม่ออกด้วยปวดหัวมึนมากเกิน มานั่งเขียนอยู่นี้ก็รู้สึกว่าน้ำลายยืดเป็นระยะ ๆ  ไอ้จะแก้ที่ต้นเหตุโดยไม่หายใจก็ไม่ได้อีก  รำคาญจมูกตัวเองแจงๆๆ เฟ้ยยย....

 

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-11 15:23:24


ความคิดเห็นที่ 544 (2874226)
avatar
รักและภักดี

กระทู้นายป๋ม กลับมาแย๊ว

คำสอนมากมาย ดีใจ จังเร๊ย

ผู้แสดงความคิดเห็น รักและภักดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-11 18:28:05


ความคิดเห็นที่ 545 (2874460)
avatar
asinatantra
image

ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต..

นึกถึงคำโบราณนี้ แล้วมันเหมาะเจาะกับวาระนี้แจงๆ  เมื่อเช้าเดินเก็บอึ สมุนอยู่ในสนามก็ได้กลิ่นหอม ๆ โชยมา หอมมากกลบกลิ้นอึสมุนที่ผมถืออยู่ในมือ เดินดม ฟึดๆ ตามกลิ่นไปก็พบที่มาของกลิ่นคือต้นแก้ว ต้นเก่าแก่หน้าบ้านเลย ที่บอกเก่าแก่เพราะเค้าอยู่มานานกับเจ้าของเดิมที่เคยเป็นพื้นที่เช่า  และด้วยเค้าใหญ่ขึ้นสูงขี้นจนละสายไฟของ กทม ป้าอ้วนก็แนะนำบอกให้ตัดเป็นพุ่ม ๆ แล้วค่อยเลี้ยงต่อ  ผมนะเรื่องตัดต้นไม้ต้องใช้เวลาคิดนานมาก อิดออดเรื่อยมา...

เมื่อเช้าเห็นต้นแก้วที่ว่า ลำต้นขาวๆ ผิดปกติมาแต่ไกล พอเดินระยะใกล้ๆ เข้าไปหา  งึด งึด งึด ...งึด งึด งึด แค๊วกกก...เจ้ากระรอกสีน้ำตาลเข้มกำลังขมักขเม้น(เขียนไม่ถูก) ลอกเปลือกต้นแก้วอยู่ โถถถถถ ขนาดผมเดินไปดูใกล้ ๆ กระรอกมันก็ไม่สนใจ ตั้งหน้าตั้งตาลอกเปลือกไม้ออก  คุณๆ นึกภาพไม้จิ่มฟันออกมั้ย มันจะขาวๆ เนียน ๆ ถูกมะ ..ตอนนี้ต้นแก้วเก่าแก่กำลังจะกลายจากสีเปลือกไม้ เป็นสีขาวงาช้างซะแล้ว...เห็นแล้วก็สงสารต้นแก้วเหลือเกิน   ผมว่างานนี้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแน่นอน  เหมือนต้นแก้วอีกต้นหนึ่งข้างรั้วบ้านคุณย่าเอนกที่โดนท่านกระรอกทั้งหลายลอกเปลือกเอาไปทำรังซะเกือบตายจนต้องตัดทิ้งจากสูงสองเมตรเหลือสูงห้าสิบเซ็นติเมตร..

ผมก็ไม่รู้หรอกว่ากระรอกทำไมต้องลอกเปลือกแต่ต้นแก้วแสนหอมของผม ที่ต้นที่ผมไม่ชอบหน้าทำไมไม่ไปลอก ไล่ก็ไม่กลัวซะอีกด้วยเพราะนับปริมาณมนุษย์ในบ้าน ซึ่งมี คุณพ่อเพชรเสถียร คุณแม่กัลยารัตน์ คูณพี่ป้าอ้วนกับคุณพี่ดวง น้องปุ๊กปิ่นกับคุณหลานอีกสอง และคุณย่าเอนก บวกผมกับสมุนอีกสอง ตามปริมาณแล้วแพ้ปริมาณครอบครัวคุณกระรอกอีกไกลโข ทำให้เดี๋ยวนี้คุณ ๆ กระรอก ทั้งเดิน ทั้งวิ่ง ทั้งกระโดดข้ามหัวผมกันโดยไม่กลัวพวกเราอีกแล้ว...

เฮ้ออออ...ด้วยไม่รู้จะสู้ยังไง ก็คงต้องยืนดูต้นแก้ว(เฒ่า) โดนกระรอกทำ งึด งึด แค๊วก แค๊วก  ต่อไป..ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตละนะ  หรือไม่ก็ คุณ ๆ มีใครรู้มั้ยว่ากระรอกย่างมันรสชาติดีมั้ยอะ? ? ?

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-12 09:31:19


ความคิดเห็นที่ 546 (2878029)
avatar
asinatantra

โดนด่าประจำ..

ผมมีเพื่อนที่รู้จักผมที่เป็นผมอยู่ในปริมาณเยอะทีเดียว รู้จักผมที่เป็นผมโดยไม่เคยรู้จักผมแบบอสินะตันตระ ซึ่งมันก็ไม่แปลกเลยซักนิด  เพื่อนคนหนึ่งรู้จักผมใน house"s lounge แห่งหนึ่งซึ่งวันนั้นผมไปนั่งฟังเพลงอยู่คนเดียวกับแก้วจินโทนนิคในมือ(เป็นปกติ) ก็ทักทายทำความรู้จักกันและเอนจอยเดอะอีฟเวอร์นิ่งกันตามปกติ ซึ่งผมมีนิสัยเป็นคน worke hard,play hard อยู่ตั้งแต่เด็ก แน่นอนว่าใครเจอผมภาคเอ็นจอยแล้วละก้อ จะนึกไปถึงว่าผมคงไม่ค่อยมีสาระอะไรกับชีวิตนักหรอก  ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจอะไรในภาพลักษณ์นักหนา ใครคิดอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับความสุขภายในของผมซักกะนิด...แต่เวลาผ่าน เพื่อน ๆ ที่รู้จักผมมักจะอยากจะรู้จักผมมากขึ้น มากขึ้นซึ่งก็ปกติอีกแหละ แต่เมื่อไม่เจอผมในเลาจ์ มันก็ต้องมาเจอผมในชีวิตปกติซึ่งผมดุมากกกก ...จริงจังมากกกกก...   เพื่อนก็ไม่เข้าใจ???? เพื่อนคนหนึ่งมีปัญหาสาระพัด ผมซึ่งเป็นขี้เมาคนหนึ่งในสายตาเค้าก็พยายามบอกเพื่อนว่าให้เลิกดื่มซะ แล้วปัญญาจะเกิดซึ่งแน่นอนผมโดนด่ากลับ ผมนะนักดื่มแต่ดื่มแบบเจ้าบ้านและคุรุสอนเสมอ คือ" กินเหล้าอย่าให้เหล้ากินเรา " แต่เพื่อนไม่เข้าใจ ผมคอยเตือนเพื่อนคนเดิมคนนี้เสมอ ๆ ว่าอย่าเลย อย่าเลย แต่ทุกครั้งก็โดนด่ากลับทุกทีว่า " จะไปรู้อะไร "  ผมก็เกาหัวเก๊กก ๆๆๆ ผมถามเพื่อนว่า " แล้วตอนนี้มีความสุขมั้ย " เพื่อนบอกว่า " ไม่ค่อยมี จะมีได้ยังไงหละ ชีวิตมันเป็นแบบนี้ " ผมบอกว่า " ก็นี้ไงมันพิสูจน์อยู่ว่ามันผิด ทำไมไม่ลองทำวิธีผมดูบ้าง " และผมก็โดนด่ากลับบ้างประชดกลับบ้าง  ซึ่งผมไม่เคยโกธรนะ ผมแค่งงบ้างเกาหัวแกร๊กๆ บ้าง..

ผมมานั่งนึกถึงวิธีเรียนของตัวเองมา ซึ่งผมเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่า  อย่างผมหลายๆ คนคงนึกว่าเรียนมาบนปุยนุ่น ..ซึ่งไม่เลย คุรุ ท่านสอนผมให้รู้จักตนเอง คือความเป็นมนุษย์แบบไม่ปราณี  ซึ่งก็ยกตัวอย่างไว้ในหลาย ๆ กระทู้ 

ส่วนอีกด้านหนึ่ง คนที่รู้จักผมแบบที่ผมเป็นอสินะตันตระ โดยที่ไม่รู้จักผมในอีกด้านหนึ่งก็จะเชื่อเอาเชื่อเอาในทุกการกระทำของผมไปซะว่า หมายความว่าอะไรซักอย่าง ผมแหย่เล่นก็คิดว่าผมสอนอะไรซักอย่าง ซึ่งก็น่ารักไปอีกแบบ..

เพื่อนหลาย ๆ คนของผมมีปัญหาชีวิตมากมายตามสภาพความเป็นอยู่ของโลกโดยรวม ผมก็มีความเป็นมนุษย์อยู่นะ อาการหวงเพื่อนก็มีอยู่ตามปกติ ผมก็เพียรพูดเพียรเตือนว่าให้เอาความสุขที่ถูกต้องเป็นที่ตั้งวัดผลของการกระทำของเรา  รวย จน ไม่สำคัญขอให้ทางที่เลือกเดินนำมาซึ่งความสุข ...ซึ่งไม่มีใครเชื่อผมเอาซะเลย ซึ่งผมเกาหัวไปมาแล้วก็ต้องวางลงแล้วฟังเพื่อนพูดว่า " กลุ้มใจเหลือเกิน เบื่อเหลือเกิน "  ต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-17 09:59:16


ความคิดเห็นที่ 547 (2878895)
avatar
asinatantra
image

กระดึบๆๆ แล้วกลืนลงไปเลย ละ ครับ...

ผมขอเอาเรื่องสมุนของ...(ขอไม่เอ่ยนาม) มานินทาหน่อยเถอะ  ผมเห็นสมุนน้อยตัวนี้มานกินอึ ตัวเองอะคร๊าบบบบ ..

แบบเนียน ๆ เลยด้วย วันนั้นกลิ่นอึแตะจมูกผ่าง ก็เลยหันไปมองด้วยกลัวว่าเจ้านู๋ตัวเล็กจะย้ำอึตัวเอง แต่อ้ายสิ่งที่ผมเห็นกับตาคือเจ้านู๋ตัวเล็กมันกำลังกระดึบ ๆ ก้อนสีดำๆ ที่อยู่ที่พื้นเข้าไปแล้วครึ่งนึง!!!!!  ตัวผมประมวลผลลัพท์ในสิ่งที่เห็นไม่ทันเพราะในชีวิตไม่เคยเห็นกับตามาก่อน ผมก็เพ่งมองว่าก้อนสีดำ ๆ ที่เจ้านู๋ตัวเล็กกำลังกินอยู่นั้น คืออะไร ??? ไม่รู้ว่ากี่วินาทีที่สมองประมวลผล ระหว่าง กลิ่น กับรูปร่าง วิธีการกระดึบ และสถาณะการณ์เสร็จเรียบร้อย โอ้ววว พระเจ้าจอร์จ มันทำได้อย่างไรฟ่ะะะะะะ  ก็อ้ายเจ้าก้อนดำ ๆ นั้นมันพึ่งหลุดออกมาจาก ต ู ด  ของตัวเองแท้ ๆๆๆๆๆ โอ้ววววว ขนลุก ก ก

แล้วขอนินทาต่ออีกหน่อยเถอะ มันไม่ใช่เหตุการณ์บังเอิญเลยละครับ เพราะมันเกิดขึ้นอีก แจงๆ ....เมื่อค่ำวานผมก็นั่งเกาปูอยู่กับวศินะตันตระอยู่ ก็เกิดเรื่องกระดึบๆ แบบเดียวกันอีก....

นี้เขียนอยู่ก็ขนลุกอยู่นะเนี๊ยะ ผมว่าสมุนหมูกับสมุนเบบี๋ นะ ถึงจะดูยืดๆ ย้วยๆ ตามสภาพพันธุ์อย่างไร ถึงจะมีอึติดก้นมาบ้างในบางทีเพราะอ้วนเกิน แต่เรื่อง ยี๊ ยี๊ แบบนี้ สมุนทั้งสองนะเป็นผู้ดีกว่าเยอะเลยน่าาาาาาา .....

อี๊ อี๊   ...อี๊๊๊๊๊  เจ้านู๋ตัวเล็กนั้นเป็นของใคร ชื่ออารายยยยย เดากันเอาเองนะคร๊าบบบบบ

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-19 10:04:07


ความคิดเห็นที่ 548 (2879639)
avatar
asinatantra
image

นี้มานวันอะไรแล้วเนี๊ยะ แล้วต้องทำอะไรมั่งเนี๊ยะ หยุดนานจนจำอะไรไม่ค่อยจาได้เลย..

 

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-21 09:58:08


ความคิดเห็นที่ 549 (2879980)
avatar
kokomi
555.... เป็นเรื่องธรรมดาค่ะท่าน...ก็วันวันนึง..เจ้าสองตัวนั้นมันไม่มีคุณครูคอยสอนสั่ง หลังจากผู้ปกครองนำมาส่งที่โรงเรียน.....อิอิอิ ในวัยนี้และพันธุ์นี้เขาก็ขี้สงสัยอยากรู้อยากลองไปเรื่อยอะคับ ด้วยความที่อยู่กับเจ้าสุนัขมาตั้งแต่จำความได้ประสบการณ์ทำให้ฟังแล้วก็เฉยๆอะคับ...... แต่ที่ต้องคิดต่อคือ....มันไปเลียหน้าใครหลังจาก...กาตึ๊บกาตึ๊บ
ผู้แสดงความคิดเห็น kokomi ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-21 16:28:25


ความคิดเห็นที่ 550 (2880281)
avatar
asinatantra
image

555555555 มีสิ มี อ้ายเจ้าก้อนดำ ๆ ติดตรงแก้มเลยหละ อี๊ อี๊ !!!!!  แต่เป็นแก้มใครขอไม่เอ่ยนามให้เสียชื่อเสียงละกัน 555555555555

ผมก็อยู่กับสมุนมาแต่เกิดนะ พ่อแม่มนุษย์เลี้ยงสมุนตลอดเวลาหลากหลายสายพันธุ์ แต่เรื่องแบบนี้เพิ่งเห็นครั้งแรกกับตาตนเอง ทำให้รู้ว่าไม่ใช่ในตำนานอย่างเดียว? ? ?

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่อบรมสมุนแบบโหดระดับหนึ่งด้วยพฤติกรรมที่โหดในสายเลือด!  แต่ผลเมื่อโตมาสมุนอ้วนทั้งสองก็เป็นผู้ใหญ่ที่ดีมาได้และพอจะเข้าใจสิ่งที่ควรทำได้หลายๆ อย่างถึงแม้ความสามารถในการประมวลผลของสมุนจะช้าซักนิด แต่ ก็พอทำได้ครับ ซึ่งก็ทำให้ชีวิตในการมีสมุนสงบสุขดี โดยมีผู้ช่วยแบกคือ เจ้าลูกหมาดำ กับ เจ้าลูกหมาขนแดง แบกไปหาหมอให้ ซึ่งถ้าไม่ได้สองคนนี้คงทำให้หลังผมหักไปนานแล้ว ด้วยเลี้ยงสมุนไม่ได้คำนึงถึงความสามารถในการแบกของตนเองซักกะตี๊ด..

เค้าว่ากันว่า การจะมีสมุนให้สำเร็จต้องรู้จักเป็นผู้ให้แล้ว ให้เวลา ให้กำลังแรง ให้เสียทรัพย์ ให้ความอดทน และอีกหลายๆ อย่างซึ่งผมว่ามันก็จริงนะ  อย่างไรก็ตามต่อไปแต่ตอนนี้ข่าวล่ามาเร็วว่า อาการกระดึ๊บ ดีขึ้นแล้ว??? to be continue

ผู้แสดงความคิดเห็น asinatantra (1-at-tantradevalai-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2008-07-22 10:24:43



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 [11] 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.